12 มิ.ย. 2020 เวลา 16:03 • การศึกษา
ในบทความก่อนหน้านี้ ได้เขียนเชิญชวนให้เพื่อนๆได้ลองศึกษาพุทธศาสตร์ ในแง่ของการฝึกจิต แต่ยังไม่มี บทความใดที่แนะนำเลยว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี..มาๆวันนี้เรามาเริ่มกันเถอะ. เริ่มต้นที่วลี สุดคลาสสิค ที่ได้ยินแล้วสะดุดหูแน่นอน..
“… ผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาท
ผู้นั้นย่อมเห็นธรรม ผู้ใดเห็นธรรม
ผู้นั้นย่อมเห็นปฏิจจสมุปบาท …”
1
คำที่สะดุดหู ถ้าได้ยินครั้งแรก คงต้องพูดว่า ห๊ะ!!อะไรนะ..พูดอีกทีซิ นั่นคือคำว่า
.."ปฏิจจสมุปบาท"..
ปฏิจจสมุปบาท นี้ เป็นหลักธรรมที่ลึกซึ้งมาก อธิบายได้หลายแง่มุม ซึ่งในบทความนี้ คงหยิบยกมาเพียงแค่ส่วนหนึ่ง ที่คนทั่วไปน่าจะเข้าใจได้ง่ายที่สุด และขอหยิบมานำเสนอเพียงด้านเดียว คือด้าน "อาการของจิต" ด้วยมุ่งหวังให้เพื่อนๆเข้าใจง่ายที่สุด นำไปพิสูจน์ปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม
1
เริ่มต้นจาก การดูภาพวงล้อด้านบนนี้👆และอ่านคำอธิบายภาพนี้ตามธรรมเนียม 55+ (มันเป็นธรรมเนียมจริงๆ ไม่อยากเขียนเลย เพราะมันยาว..) แต่มันจำเป็นต้องเขียนคำอธิบายภาพ ตามนี้
1
เพราะอวิชชา เป็นปัจจัย จึงมีสังขาร
เพราะสังขาร เป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ
เพราะวิญญาณ เป็นปัจจัย จึงมีนามรูป
เพราะนามรูป เป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ
เพราะสฬายตนะ เป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ
เพราะผัสสะ เป็นปัจจัย จึงมีเวทนา
เพราะเวทนา เป็นปัจจัย จึงมีตัณหา
เพราะตัณหา เป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน
เพราะอุปาทาน เป็นปัจจัย จึงมีภพ
เพราะภพเป็น ปัจจัย จึงมีชาติ
เพราะชาติเป็น ปัจจัย จึงมีชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส 
เป็นอันว่ากองทุกข์ทั้งมวลนั่นย่อมเกิด ด้วยประการฉะนี้ .
1
ยาวไหมล่ะ..สรุปมันก็คือ Process นั่นแล.. มันคือ ขั้นตอนกระบวนการ ..ที่มันจะต้องมีสิ่งที่เกิดขึ้นก่อน แล้ว ก็มีสิ่งที่ตามมา ..มันเป็นวงจร เป็นวัฎจักร ที่ร้อยเรียงสืบเนื่องต่อกัน..
1
ในทีนี้ คงหยิบมาอธิบายไม่ครบทุกตัว มันลึกซึ้งเกินความเข้าใจในชั้นต้น ขอหยิบมา 4 องค์ นั่นคือ องค์ขั้นตอนในช่วง
" ผัสสะ - เวทนา - ตัณหา - อุปาทาน"
หยิบมาแค่เนี๊ยะ..ใช่แล้ว แค่นี้ก็พอแล้ว เกินกว่านี้ ก็ขี้เกียจเขียนแว้ว..55 แต่แค่ 4องค์นี้นะ ถ้าเพื่อนๆเห็นมันได้ ก็ถือว่าเป็นผู้มีฐานปัญญาติดตัวมาดี..บางคนทั้งชีวิต มองไม่เห็นจริงๆนะ
1
มาอ่านคำอธิบาย ตามธรรมเนียม เหมือนเดิม (ไม่มีไม่ได้นะ..เดี๋ยวผู้รู้ ,พ่อแม่ครูอาจารย์ผ่านมาเห็น ผมจะโดนตำหนิเอา) ความจริงที่เขียนอยู่นี่ ก็เสี่ยงมากนะ กลัวจะเขียนสื่อความผิด ทำให้ธรรมเสียหาย
1
"..เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน.."
1
"ผัสสะ"คือ--ประสาทสัมผัส ทางตา หู จมูกลิ้นกาย ใจ นั่นแล..
1
"เวทนา" คือ--ความรู้สึก รู้สึกชอบ/ไม่ชอบ/เฉยๆ รู้สึกสุข/ทุกข์/เฉยๆ...ไรงี้
1
"ตัณหา" คือ--ความอยากไง อยากมี อยากได้ อยากเป็น ไม่อยากมี ไม่อยากได้ ไม่อยากเป็น
1
"อุปาทาน" คือ--การยึดมั่นถือมั่นทางจิตใจ ,ความรู้สึกของความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ เข้าครอบงำ, ตัวนี้อธิบายยากแหะ..มันก็คล้ายๆ มีอารมณ์เข้าครอบงำจิตใจ แล้วบงการให้เราทำนู้นทำนี่..
1
ไม่อยากเขียนยาว กลัวไม่มีคนอ่าน แต่ปกติก็ไม่ค่อยคนอ่านอยู่แล้ว..55+ มาๆ มาต่อกันอีกนิด หรือ คิดนำต่อไปล่วงหน้าเลยก็ได้
1
อย่างที่หลักการเขาว่าไว้ไง มันเป็นขั้นตอนที่ต่อเนื่องกันมา ดังนั้น ถ้าสิ่งหนึ่งเกิด อีกสิ่งก็เกิดตามมา แต่สิ่งที่้เกิดที่ว่านี้ มันเกิดในจิต มันเร็วมาก มันต่อเนื่องกันจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน ... เรารู้ทฤษฎีแล้ว ภาคปฏิบัติคือ เห็นให้ทัน แยกให้ออก ว่า จังหวะจิตของเราขณะนั้น อยู่ในขั้นใด..
1
มาถึงตรงนี้ ต้องตัวใครตัวมันแล้ว ช่วยกันไม่ได้แล้ว ต้องหัดดูเอง จิตต้องเห็นจิตเอง.. ยกตัวอย่างเช่น... ผู้หญิงสวยคนหนึ่งเดินมา รูปผู้หญิงกระทบกับตาเรา(ผัสสะ) เราเกิดความรู้สึกชอบ(เวทนา) เกิดอยากได้มาเป็นแฟน(ตัณหา) ตัดสินใจเดินเข้าไปจีบ(อุปาทาน)..เป็นต้น
1
หรืออีกตัวอย่างหนึ่ง เช่น เดินผ่านร้านรองเท้าที่กำลังลดราคา ได้ยินเสียงประกาศโฆษณา(ผัสสะ) เกิดความรู้สึกตื่นเต้น(เวทนา)อยากได้รองเท้าสักคู่(ตัณหา) รีบเดินปรี่เข้าไปทันที(อุปาทาน เข้าครอบงำ)..เป็นต้น
1
กระบวนการทางจิตนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน ลองสังเกตุดูที่จิต ก็จะรู้ทัน เห็นอาการเหล่านี้ได้ไม่ยาก
1
แล้วเราจะรู้ทันจิตไปทำไม?? ถ้าเรารู้ทันว่าจิตกำลังเกิดอาการอะไรขึ้น..อยู่ในขั้นตอนไหน พอรู้ทันปั๊บ นั่นคือ "สติ" จะเกิดทันที สติจะตัดขั้นตอนต่อไปที่จะเกิด... นั่นหมายถึง การที่เราสามารถยับยั้งชั่งใจตัวเองได้ และไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์แบบใด วิกฤติเพียงใด การมีสติเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่จะทำให้เรามีปัญญาพอที่แก้ไขสถานการณ์ต่างๆ
1
ยกตัวอย่าง เหตุการณ์ที่น่าสลดใจที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปีที่โคราช ทหารไล่ยิงคนในห้างฯ ถ้าวันนั้น เราอยู่ในเหตุการณ์ สติคงแตกกระเจิง หัวหมุน ชุลมุนไปหมด จะพร่ำบอกตัวเองให้มีสติ ให้มีสติ มันไม่มีหรอกนะ..ตราบใดที่ไม่รู้ทันจิต สติจะไม่เกิด..
1
สุดท้ายนี้ ขอแนบลิงค์ อ.ประเสริฐ อุทัยเฉลิม ที่ได้อธิบาย ปฏิจจสมุปบาท ในมุมที่คนทั่วไปหรือผู้เริ่มต้น เข้าใจได้ง่ายที่สุด ถือเป็นอีกคลิปที่ทรงคุณค่ามาก อยากให้เพื่อนๆหาเวลาดู/ฟัง มันเป็นคลิปเก่าแล้ว ไม่รู้ว่าวันใด เจ้าของคลิปอาจลบทิ้งไป รีบๆดูนะ..เดี๋ยวอดดู มันน่าเสียดาย.. เสียงในคลิปอาจไม่คมชัด ก็เร่งเสียงเอาเน้อ..
📱ช่องทางติดต่อ..แนะนำ,ติชม,พูดคุย..😀
มาเป็นเพื่อนกันที่..Line Open Chat
"จิตสอนธรรม" 👇 คลิกลิงค์ด้านล่างนี้เลยจ้า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา