14 มิ.ย. 2020 เวลา 02:00 • กีฬา
การนอน ถือเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมซ้อมวิ่ง 🌙
การนอนหลับ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการช่วยเพิ่ม ประสิทธภาพการวิ่งของเราเองให้ดีขึ้น แต่เพื่อนนักวิ่งมักมองข้าม รวมถึงผมเอง ถึงแม้จะรู้ว่าการนอนเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ผมก็ชอบนอนดึก ซึ่งไม่ควรทำนะครับ 555+ ผมพยายามปรับพฤติกรรมเช่นกันครับ
การนอนไม่พอ จะทำให้เกิดสภาวะขาดนอนหลับ (Sleep deprivation) ส่งผลให้ความสามารถในการวิ่งของเราลดลง สมาธิในการรับรู้เเละสั่งการเเย่ลง เเละที่สำคัญ ทำให้เหนื่อยง่ายมากขึ้น และส่งผลต่อการกิน เช่นจะกินเยอะมากขึ้น
💡ข้อดีข้อเสียของการนอนพักผ่อนที่เพียงพอเเละไม่เพียงพอ
1. ช่วงเวลาที่นอนหลับพักผ่อน ร่างกายจะหลั่ง Growth Hormone ช่วยในการสร้างเเละซ้อมเเซมกล้ามเนื้อ
2. ในกรณีที่อดหลับอดนอน ร่างกายจะหลัง Growth Hormone น้อยลง กล้ามเนื้อร่างกายเราก็จะอ่อนเเอ ฟื้นตัวช้าเเละบาดเจ็บได้ง่ายขึ้น
3. การนอนทำให้ร่างกายสร้างโปรตีน สร้างเซล์ใหม่เเละซ่อมเเซมเนื้อเยื่อ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานระบบภูมิคุ้มกัน
4. การขาดนอนประกอบกับการฝึกวิ่งที่สะสมกันมา ร่างกายเราจะเริ่มอ่อนเเอลงเเละป่วยไข้ได้ง่ายขึ้น การวิ่งก็เเย่ลง ร่างกายมีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนไกลโคเจนเป็นพลังงานได้น้อยลง เเละอาการ Hit the wall ก็จะมาถึง
5. การขาดนอนก็ยังทำให้เรามีอาการหิวโซมากขึ้นด้วย เกิดอาการกินมากขึ้น โอกาสอ้วนก็เกิดมากขึ้นตามมา
จากงานวิจัยนักวิ่งส่วนใหญ่มีปัญหาในการนอนหลับ ยิ่งฝึกช่วงเย็น ถ้าเราพักไม่พอ จะเกิดอาการ After burn ทำให้ร่างกาย Alert ตัวร้อนเเละนอนไม่หลับ คำเเนะนำสำหรับมือใหม่ แนะให้ฝึกหนักช่วงเช้าเพื่อให้ระบบ Metabolism ทำงานดีตั้งเเต่เช้าจนจบวัน เเต่ในช่วงเย็นให้ฝึกเบาๆแทนก็ได้ครับ
🏃🏾‍♂️ในวันที่ผมฝึก Interval หรือลงคอร์ท ผมจะนอนเพิ่มเวลานอนหลับเป็น 8-9 ชั่วโมงในวันนั้น หรือ งีบระหว่างวันสัก 30 นาที ถ้ามีเวลานะครับ
📍สิ่งสำคัญที่ผมจะบอกทุกครั้งหลังวิ่ง หรือ หลังจากฝึกหนัก ลงคอร์ท ควร Cool down ทุกครั้ง 15-30 นาที เพราะมันช่วยลดอาการบาดเจ็บได้มาก และวันต่อมาโปรแกรมวิ่งควรเป็น Easy pace หรือการวิ่งจ๊อก เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อจากการฝึกหนักมาครับ
ฝากติดตามและขอบคุณครับ
Run In Race

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา