16 มิ.ย. 2020 เวลา 09:15 • การศึกษา
"กฏอิทัปปัจจยตา" : กฎแห่งธรรมชาติ
ที่คนส่วนใหญ่ละเลยที่จะรู้ แม้เคยรู้แล้วก็ละเลยที่จะยอมรับ มันเป็นกฎสั้นๆที่อธิบายทุกสิ่งในธรรมชาติ ทุกสิ่งที่ปรากฏในทุกช่วงเวลาของชีวิต ตั้งแต่เกิดจนตาย เป็นสิ่งที่มีอยู่ในชีวิตประจำวัน มีอยู่ในทุกอณูของการขยับเคลื่อนไหวและหายใจ
1
กฎนี้มีคำอธิบาย ว่าไว้ดังนี้...
"เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ย่อมมี
เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น.
เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ย่อมไม่มี
เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป.."
1
กฎนี้ มีกล่าวไว้แค่ 4 บรรทัดข้างต้น
สั้นมาก น้อยมาก ถ้าเทียบกับกฎอื่นๆ
กฎระเบียบหอพักนักศึกษา ยังยาวกว่านี้อีก55+
..แต่คนส่วนใหญ่ไม่สนใจ "กฎอิทัปปัจยตา" บางคนไม่รู้ว่ามีอยู่ด้วยซ้ำ บางคนก็ไปทุ่มเทศึกษากฎแห่งความสำเร็จอื่นๆ กฎแรงดึงดูดบ้าง อะไรบ้าง บางคนก็นึกเขียนกฎขึ้นมาเอง ไปกันใหญ่
ในฐานะที่เป็นคนฝึกปฏิบัติในศาสตร์นี้ จึงไม่ได้ไปโต้แย้งใดๆกับกฎอื่นๆ ไม่ได้ไปชี้นำกล่าวตัดทอนภูมิปัญญาของใคร ได้แต่อ่านและทำความเข้าใจอยู่เงียบๆ เพราะรู้ว่า มันก็ตกอยู่ใน"กฎอิทัปปัจยตา"เช่นกัน
กล่าวคือ ไม่ว่าใครจะเชื่อเรื่องใด คิดเรื่องใด เขียนเรื่องใด หรือน้อมนำกฎใดๆเข้าไปในชีวิตเขา มันก็ต้องมีเหตุให้เขาทำแบบนั้น. และเหตุที่ว่าก็มีหลายปัจจัย ที่หล่อหลอมให้ผลมันออกมาเป็นอย่างที่มันเป็น... จึงมีคำกล่าว ที่ว่า "เมื่อเหตุและปัจจัยถึงพร้อม ผลมันก็เกิด"และผลที่เกิดก็เป็นเหตุสืบเนื่องต่อไปอีกเป็นทอดๆ
1
กล่าวโดยรวมก็คือ
"ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาและตั้งอยู่ จะต้องอาศัยเหตุและปัจจัย มาปรุงแต่งหรือสร้างขึ้นมาทั้งสิ้น"
คำว่า "เหตุ"และ "ปัจจัย" ขอยกตัวอย่างตามครูอาจารย์ถ่ายทอดมาดังนี้
เช่น เมื่อมีเหตุ คือ การนำเอาเมล็ดแอปเปิลมาปลูก และมีปัจจัย คือ มีดิน มีปุ๋ย มีน้ำ มีแสงแดด และมีอากาศเป็นปัจจัย จึง ทำให้เกิดมีต้นแอปเปิลขึ้นมา หรือเมื่อมีเหตุ คือ มีตันแอปเปิล และมีปุ๋ย มีน้ำ มีแสงแดด มีอากาศเป็นปัจจัย จึงทำให้เกิดผลแอปเปิลขึ้นมา เป็นต้น
แต่เรามักกล่าวเพียงว่า "เมื่อมีการนำเมล็ดแอปเปิลมาปลูก จึงเกิดมีตันแอปเปิลขึ้นมา" หรือ "ผลแอปเปิล เกิดมาจาก ต้นแอปเปิล" เท่านั้น เป็นความเข้าใจแบบ"เหตุเดียวผลเดียว" คนส่วนมากเข้าใจแค่นี้และยึดมั่นถือมั่นแบบนี้ มันแสดงถึงความไม่เข้าใจกฎธรรมชาติเลย ..นี่แหละ ที่ทำให้ทุกข์
"ทำไมฉันขยัน แต่ไม่รวยสักที"
"ทำไมฉันรักเขาขนาดนี้ เขายังทิ้งฉันไป"
"ฉันดีกับทุกคน ทำไมทุกคนทำร้ายฉัน"
...(เขียนไม่ไหวแร่ะ ไปยกตัวอย่างกันเอาเองนะเพื่อน)
สรุปคือ ทุกครั้งที่เพื่อนมีปัญหาทุกข์ใจ ในหัวมีแต่คำถาม ว่า ทำไมๆๆ...จะบอกให้นะเพื่อน มันไม่มีคำตอบที่แท้จริงให้เพื่อนหรอก...เลิกถามได้แล้ว!! เพราะมันมีเหตุและปัจจัยมากมาย จับต้นชนปลายไม่ถูกว่ามาจากไหนบ้าง แล้วมันก็มารวมกันจนถึงพร้อม แล้วก็ก่อเกิดเป็นผล ให้เพื่อนๆมานั่งถามนี่แหละ..
แล้วทำไมคนอื่นไม่เจอแบบฉัน? แน่ะ ยังถามอีก แถมพาลหวังจะลากให้คนอื่นมาเจอด้วย นิสัย!!55+ ..เลิกถามได้แล้ว..ที่เขาไม่เจอก็เพราะเขาไม่มีเหตุและปัจจัยให้เจอ ก็แค่นั้นแหละ วันใดเขามีเหตุปัจจัยถึงพร้อม เขาก็เจอของเขาเอง..จบนะ ปิ๊ง
แล้วฉันจะทำยังไงต่อไปดีล่ะ? ก็ยังถามต่ออีกเนาะ แต่เป็นคำถามที่ดีนะ อย่างน้อยก็ไม่มีคำว่า "ทำไม" หลุดมาได้เปราะนึงแร่ะ
ตอบจิ...อ่ะตอบก็ได้ ตอบเป็นเพลงเลยเอ้า
"..อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน..อยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน.."
(แล้วยังไงเพื่อน..ต่อเองเลย) "และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด"...จบเลย
เพื่อนเอ๋ย..ที่เพื่อนๆทุกข์เพราะ ใจเพื่อนยังไม่เข็มแข็งนะ ยังปล่อยละวางไม่ได้ ศาสตร์แห่งพุทธ เป็นสิ่งที่ควรศึกษานะ มันได้ใช้แน่นอน.. ได้ใช้มากกว่า การตั้งสมการในคณิตศาสตร์ที่เพื่อนเรียนมาซะอีก.. ชีวิตเรามันก็สุขทุกข์สลับกันตลอด ถ้าไม่ฝึกจิตใจให้รู้จักยอมรับความจริง ฝึกให้จิตรู้จักปล่อยวาง เมื่อถึงเวลาวิกฤติของชีวิต เพื่อนๆจะรับมือความทุกข์ที่โถมเข้ามาได้อย่างไร..
ดังนั้น เพื่อนต้องกดติดตามเพจนะ(ซะงั้น อ่ะ55+ เกี่ยวมะเนี่ย)...แหม.ไม่ใช่อะไรหรอก เห็นเขาบอกว่า ถ้ามี คนติดตาม100คน จะสามารถได้ลงคลิปวีดีโอได้ไง.. จะได้ทำคลิปวีดีโอดีดี มาลงให้เพื่อนๆดูบ้างไรงี้..อ่ะเนาะ
สำหรับเพื่อนๆสนใจศึกษาเรื่องนี้ต่อ
ผมได้แนบคลิปสอนของ
พระอาจารย์คึกฤทธิ์ มาให้ฟังกัน
ซึ่งท่านอธิบายเรื่องนี้ ในเชิงภาษาวิชาการได้เข้าใจชัดเจน...เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสาระเน้นๆ
📱ช่องทางติดต่อ..แนะนำ,ติชม,พูดคุย..😀
มาเป็นเพื่อนกันที่..Line Open Chat
"จิตสอนธรรม" 👇 คลิกลิงค์ด้านล่างนี้เลยจ้า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา