[Review] Da 5 Bloods (2020) – บลัดไม่ตาย มีแต่ขยาย
ออสก้า ชินด์เลอร์ เคยพูดเอาไว้ใน Schindler’s List ว่า สงครามคือส่วนช่วยทำให้ธุรกิจของเขาประสบความสำเร็จและทำให้เขากลายเป็นนักธุรกิจชาวเยอรมันที่ร่ำรวยได้ในช่วงยุคสงครามโลกจากการช่วยผลิตเครื่อง แต่ไม่ว่ากี่สงคราวจะเริ่มต้นแบบไหน ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกสมรภูมิที่เกิดขึ้นมักจะเต็มไปด้วยความสูญเสีย หนังเรื่องใหม่ของผู้กำกับ ฯ มากฝีมืออย่าง สไปค์ ลี มาพร้อมกับการนำเสนอสงครามเวียดนามภายใต้หนังเรื่อง Da 5 Bloods
Da 5 Bloods เล่าเรื่องของกะทาชายลายคราม 4 คนที่เคยเป็นทหารผ่านศึกของสงครามเวียดนาม ด้วยความหวังที่จะกลับมาตามหาร่างของหัวหน้าหมู่ “บลัด” สตอร์มิน นอร์แมน และหาขุมทองที่แอบฝังไว้ ชายแก่ 4 คนต้องเผชิญกับรอยแผลจากสงครามในอดีตและความโกลาหลที่พวกเขาไม่ได้คาดคิด
ความยาวร่วม 150 นาทีของตัวหนัง อาจเป็นความยาวที่เราต้องตั้งสติอยู่กับหนังเล็กน้อย หนังเล่าตัดสลับกับเหตุการณ์ในอดีตเป็นพัก ๆ ผ่านอัตราส่วนภาพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ด้วยเนื้อหาที่พูดถึงผลพวงจากสงครามเวียดนามและการแซะมุมมองการเมืองที่นำโดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในปัจจุบัน แต่ก็ยังร้อยเรียงเหตุการณ์ที่สอดแทรกทั้งสไตล์ ฉากแอ็คชั่น มุกตลก และความเข้มข้นของเรื่องราวได้อย่างกลมกลืน
แม้จะเคยรับชมฝีมือของ สไปค์ ลี เพียงแค่ Oldboy กับ BlacKkKlansman เท่านั้น แต่ก็เห็นได้ว่า สิ่ง ลี พยายามพูดถึงในหนังเกือบทุกเรื่องที่เขาได้กำกับอย่าง สิทธิและเสียงของกลุ่มคนผิวสี ยังเป็นจุดแข็งแรงและเป็นความเข้มแข็งอย่างนึงในหนังเรื่องนี้ ส่วนนึงที่ต้องชมคือ บทภาพยนตร์ที่ฉลาดในการวางองค์ประกอบของเรื่องราวได้อย่างชาญฉลาด ทั้งการผูกเหตุการณ์จริง ๆ ร้อยเข้ากับปมของตัวละครที่มีผลต่อเส้นเรื่องได้อย่างน่าติดตาม ทำให้แต่ละตัวละครมีแรงจูงใจคอยให้เอาใจช่วยแตกต่างกันออกไป
นอกจากนี้ สาส์นของหนังที่แข็งแรงอยู่แล้ว ตัวพล็อตเรื่องก็ยังทำหน้าที่ในฐานะภาพยนตร์ที่สร้างความบันเทิงได้ดี หลายช่วงเวลาของหนังที่ตัวละครเดินไปก็มีหลายเหตุการณ์ที่เข้มข้น ชวนฮา และพลิกผันได้อย่างน่าติดตามมาก ทั้งนี้ก็ยังมาจากการพัฒนาตัวละครอีกด้วย แถม เดลรอย ลินโด้ ก็เล่นเป็น ชายแก่จากหมู่ทหารบลัด ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามได้ดีอย่างน่าขนลุก
ข้อเสียหนัก ๆ ก็คือ ความ cheap ในบางช่วงของการถ่ายทำ ที่ดูเหมือนเป็นความตั้งใจ ทั้งฉากแอ็คชั่น แม้จะไม่ได้มาในแนวบู๊ล้างผลาญก็ตาม เพราะมันใส่มาเพื่อใช้เป็นแนวทางการเดินเรื่องเท่านั้น กระนั้นเราก็สามารถมองข้ามได้จากความแข็งแรงในด้านอื่น ๆ ที่ค่อนข้างน่าพอใจอยู่แล้ว
หลังจากชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบก็คิดอยู่ในหัวเพียงว่า มันเป็นหนังที่พูดถึงผลประโยชน์ได้อย่างเด็ดดวงดีแท้ แม้หน้าหนังจะเป็นการตามล่าขุมทรัพย์ทองคำตั้งแต่สมัยสงครามเวียดนามที่จิกกัดความยุติธรรมจากชุมชนคนผิวดำ (ที่อาจคล้องกับสถานการณ์ Black Live Matter ในปัจจุบัน) แต่แท้ที่จริงแล้ว มันวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลประโยชน์จากสงครามได้อย่างเจ็บแสบ ทอง ในเรื่องที่เป็นสื่อของผลประโยชน์นี้ ที่ตัวละครจากทุกชาติพันธ์ และ ทุกผิวสี ต่างมีผลกระทบแต่ก็หวังต่อผลประโยชน์สืบเนื่องจากสงครามนี้แล้วทั้งสิ้น แม้พวกเขาเหล่านั้นอาจจะลืมนึกไปว่า พวกเขาต้องสูญเสียอะไรไปบ้างจากผลพวงของสงครามครั้งนั้น
สรุปแล้ว Da 5 Bloods คืออีกหนึ่งผลงานอันเข้มข้นของ สไปค์ ลี ที่พูดถึงผลพวงของสงครามเวียดนามได้อย่างเห็นภาพและยังคงเป็นเสียงให้กับกลุ่มคนผิวดำอย่างหนักแน่น แถมวิพากษ์วิจารณ์มุมมองการเมืองอย่างเปิดเผย พ่วงด้วยความเฉียบขาดด้านบทที่ปูพื้นหลังตัวละครค่อนข้างครบ ทีมนักแสดงจึงวาดลวดลายได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะ เดลรอย ลินโด้ ที่น่าจะได้มีชื่อขึ้นบนเวทีรางวัลในปีหน้าแน่ ๆ
บลัด!
4.5 / 5
Da 5 Bloods (2020)
Directed by Spike Lee
Written by Danny Bilson & Paul De Meo and Spike Lee & Kevin Willmott
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
