โคตรอภิมหาเศรษฐี! 'จอห์น ดี. ร็อคกี้เฟลเลอร์' ชายผู้ได้ชื่อว่ารวยที่สุดในประวัติศาสตร์โลกยุคใหม่ เขาทำอะไร?
ทำความรู้จักกับชายที่ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกาและประวัติศาสตร์โลกยุคใหม่ เขาคือ 'จอห์น ดี. ร็อคกี้เฟลเลอร์' มาดูกันว่าเขาทำอะไร?
WIKIPEDIA CC DDOKHANIAN
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
จอห์น ดี. ร็อคกี้เฟลเลอร์ (John D. Rockefeller) เกิดในครอบครัวเชื้อสายเยอรมัน ที่เมืองริชฟอร์ด รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ.1839 กล่าวกันว่าพ่อของเขาเป็นพ่อค้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าเล่ห์ ส่วนแม่ของเขาเป็นผู้เคร่งศาสนา ชีวิตในวัยเด็กของเขาต้องย้ายบ้านตามครอบครัวหลายครั้งก่อนที่จะลงหลักปักฐานเป็นการถาวรที่เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ
ร็อคกี้เฟลเลอร์ก้าวเข้าสู่โลกธุรกิจตั้งแต่อายุ 16 ปี หลังลาออกจากโรงเรียนเพื่อไปเรียนหลักสูตรบริหารธุรกิจระยะสั้นที่วิทยาลัยพณิชยการฟอลซัมจนสำเร็จการศึกษา โดยทำงานเป็นผู้ช่วยพนักงานบัญชีที่เฮวิตต์แอนด์ทัตเทิล บริษัทนายหน้าค้าเมล็ดพันธุ์พืช เขาทำงานหนักจนเป็นไว้วางใจได้เลื่อนตำแหน่งเป็นพนักงานบัญชีในเวลาอันรวดเร็ว
จนกระทั่งในปี ค.ศ.1860 ร็อคกี้เฟลเลอร์จึงหันมาเปิดบริษัทร่วมกับมัวร์ริซ คลาร์ก เพื่อนสนิท โดยใช้ชื่อว่า 'คลาร์กแอนด์ร็อคกี้เฟลเลอร์' ทำธุรกิจตัวแทนจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรและเครื่องอุปโภคบริโภค ซึ่งกิจการของทั้งคู่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เนื่องจากอเมริกากำลังเผชิญกับสงครามกลางเมือง ทำให้เกิดความต้องการเครื่องอุปโภคบริโภคเป็นจำนวนมาก ร็อคกี้เฟลเลอร์พยายามขยับขยายธุรกิจของตนไปสู่การค้าน้ำมัน จนมีโรงกลั่นน้ำมันป็นของตัวเองในปี ค.ศ.1863 แต่ด้วยความขัดแย้งในการทำธุรกิจระหว่างหุ้นส่วน ร็อคกี้เฟลเลอร์จึงตัดสินใจแยกตัวออกไปตั้ง 'บริษัท ร็อคกี้เฟลเลอร์, แอนดรูวส์ และแฟลกเลอร์' ร่วมกับ แซมมวล แอนดรูวส์ นักเคมี และเฮนรี แฟลกเกอร์ นักอุตสาหกรรม ดำเนินธุรกิจน้ำมันอย่างเต็มตัว ในปี ค.ศ.1867
WIKIPEDIA PD
ในปี ค.ศ.1870 ร็อคกี้เฟลเลอร์ก็ยุบบริษัทดังกล่าว และก่อตั้ง 'สแตนดาร์ดออยล์' ขึ้นมาเพื่อทำธุรกิจน้ำมันแบบครบวงจร และเข้าไปควบคุมธุรกิจรายย่อยที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันทั้งหมดตั้งแต่การขุดเจาะ การกลั่น การขนส่งและการกักเก็บน้ำมันสำรอง และการคิดค้นวิธีการกลั่นน้ำมันโดยใช้ต้นทุนต่ำของหุ้นส่วนนักเคมีคนสำคัญอย่างแซมมวล แอนดรูวส์ ทำให้สินค้าในช่วงแรกอย่างน้ำมันก๊าดที่นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงให้แสงสว่างยามค่ำคืนมีราคาถูกลงจนใช้กันอย่างแพร่หลาย
WIKIPEDIA PD
ยิ่งไปกว่านั้น น้ำมันเบนซินที่เคยเป็นเพียงแค่ของเสียจากการกลั่นน้ำมันก๊าด ซึ่งทางสแตนดาร์ดออยล์นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงของโรงกลั่นได้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากความต้องการของตลาดอันเนื่องมาจากการคิดค้นกระแสไฟฟ้าและการผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ยิ่งทำให้สแตนดาร์ดออยล์มีกำไรมหาศาลและขยายกิจการไปทั่วสหรัฐอเมริกา ส่งให้ร็อคกี้เฟลเลอร์กลายเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกยุคศตวรรษที่ 19-20 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 418,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบกับอัตราเงินเฟ้อในปี ค.ศ. 2019)
WIKIPEDIA PD
จอห์น ดี. ร็อคกี้เฟลเลอร์ ประกาศวางมือทางธุรกิจในปี ค.ศ.1896 เนื่องจากการทำงานหนักเป็นเวลานานจนล้มป่วยด้วยโรคซึมเศร้า และหันมาทุ่มเทให้กับงานสาธารณกุศล โดยผลงานที่สำคัญที่สุดของเขาคือการก่อตั้งมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ในปี ค.ศ.1913 เพื่อการสนับสนุนกิจการด้านการศึกษา การแพทย์ สาธารณสุข และการค้นคว้าด้านวิทยาศาสตร์จากทั่วโลก
WIKIPEDIA PD
อย่างไรก็ดี แม้ร็อคกี้เฟลเลอร์จะร่ำรวยมหาศาล แต่การทำธุรกิจของเขาก็ถูกวิพากษวิจารณ์ว่าเป็นการผูกขาดทางการค้า เนื่องจากกิจการน้ำมันในสหรัฐฯ เกือบทั้งหมดถูกควบคุมโดยสแตนดาร์ดออยล์ จนกระทั่งในปี ค.ศ.1911 สแตนดาร์ดออยล์ถูกศาลตัดสินให้ความผิดฐานผูกขาดทางการค้า จนต้องแยกกิจการออกเป็น 34 บริษัท ซึ่งในภายหลังบริษัทที่แยกตัวออกมาจากสแตนดาร์ดออยล์ คือผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกที่เรารู้จักกันดีในนาม BP, Exxon Mobil และ Chevron
จอห์น ดี. ร็อคกี้เฟลเลอร์ เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1936 ด้วยวัย 97 ปี ปิดตำนานมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดของสหรัฐอเมริกาที่ยังไม่มีใครทำลายสถิติลงได้ในปัจจุบัน
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
ELEMENTS.ENVATO
- 10
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
