วิธีเอาตัวรอดจากสัตว์ต่างๆ ทำยังไงให้ไม่ตาย เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อันตรายเหล่านี้
ต้องรอด...เมื่ออยู่ในสถานการณ์คับขันกับสัตว์ที่อันตรายเหล่านี้
มนุษย์ไม่ใช่สัตว์สายพันธุ์เดียวในโลกนี้ ดังนั้นแล้วจึงมีโอกาสที่จะเผชิญหน้ากับสัตว์อันตรายต่างๆ รวมถึงอาจจะถูกทำร้ายเอาได้ด้วย บางชนิดก็อาจทำให้บาดเจ็บสาหัสได้ หรือบางชนิดก็เป็นพิษกับมนุษย์ด้วย ดังนั้นแล้วก็ไม่ควรประมาท เพราะเหตุร้ายมักจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่คาดคิดได้เสมอ หากว่าจะต้องเผชิญกับสัตว์เหล่านี้ รวมถึงหากโดนทำร้ายเข้าไปแล้วจะเอาชีวิตรอดยังไงบ้าง ต้องมาเรียนรู้วิธีป้องกันเอาไว้ก่อนแล้วล่ะ
1. งู
ถือเป็นสัตว์ที่มีโอกาสหลุดเข้ามาในบ้านของเราได้ค่อนข้างง่ายที่สุดแล้ว โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ติดกับป่ารกชัฏ ไม่ว่าจะเป็นงูแบบมีพิษหรือไม่มีพิษก็ไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปใกล้งูเหล่านั้น หากโชคดีมีโอกาสได้เห็นตัวก่อนโดยเฉพาะถ้ามันอยู่นิ่งๆ ไม่ไปไหนก็ควรโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลย และอย่าให้มันรู้ตัวก่อนแล้วหนีไปเสียล่ะ เพราะถ้าไม่รู้ว่างูอยู่ที่ไหนเราก็คงตามตัวยาก มีโอกาสโดนโจมตีก่อนด้วย
การเอาตัวรอด
แต่ถ้าหากต้องเผชิญหน้าอย่างไม่ตั้งใจให้พยายามอยู่ให้นิ่งแล้วค่อยๆ ถอยห่างออกมาดีกว่า ถ้าถอยหนีไม่ได้มีงูขวางทางอยู่ให้หาผ้าหรือเสื้อขนาดใหญ่ๆ คลุมส่วนหัวของมันเอาไว้ให้ได้ แล้วรีบเอาตัวเองออกไปให้ห่างที่สุด
วิธีปฐมพยาบาล
แต่หากโชคร้ายโดนกัดเข้าจริงๆ โดยเฉพาะที่เป็นงูพิษ ให้บีบเลือดออกจากบาดแผลให้ได้มากที่สุด แล้วจึงล้างแผลด้วยน้ำสะอาดรวมถึงฟอกสบู่ด้วย ใช้ผ้าซับให้แห้งแล้วรีบพาตัวส่งโรงพยาบาลเลย รวมถึงให้คนเจ็บพยายามเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุดเพื่อไม่ให้พิษของงูกระจายไปทั่วร่างกาย ถ้าเอางูไปให้หมอดูด้วยได้ก็ควรเอาไปด้วย หากจับไม่ได้ก็ให้ถ่ายรูปเก็บไว้เพื่อให้หมอดูว่าเป็นงูชนิดใด
สิ่งที่ไม่ควรทำ
ก็คือความเชื่อเก่าๆ อย่างใช้ปากดูดพิษจากบาดแผล เพราะคนที่ดูดอาจจะได้รับอันตรายจากพิษงูไปด้วย รวมถึงไม่จำเป็นจะต้องใช้ผ้าหรือเชือกรัดเหนือบาดแผล เพราะอาจจะส่งผลทำให้เนื้อตายได้ง่ายขึ้นค่ะ
2. แมงมุม
ประเทศไทยส่วนใหญ่เรานั้นมักไม่ค่อยพบแมงมุมที่มีพิษตามธรรมชาติเท่าไหร่นัก แต่ก็อาจจะเกิดขึ้นได้จากแมงมุมที่นำเข้าจากผู้ที่ชอบเลี้ยงสัตว์แปลกๆ จากต่างประเทศ อาการทั่วไปเวลาถูกแมงมุมกัด ก็มีอาการแบบเดียวกับที่ถูกแมลงชนิดอื่นๆ กัด แต่ถ้ามีพิษจะมีความแตกต่าง อาการจะรุนแรงกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยจะมีอาการปวดบริเวณรอบๆ แผล
การปฐมพยาบาล
ถ้าหากว่าโดนกัดควรปฐมพยาบาลโดยการล้างบริเวณแผลที่ถูกกัดด้วยสบู่อ่อนๆ และน้ำที่สะอาด อย่าทำการเค้นหรือบีบแผลเพราะจะทำให้พิษกระจายตัวมากยิ่งขึ้น ควรประคบเย็นแผลที่ถูกกัดด้วยน้ำแข็งหรือจะใช้ผ้าชุบน้ำเย็นให้แห้ง แล้วประคบเพื่อลดการกระจายพิษและช่วยบรรเทาอาการปวดบวม หากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาบรรเทาอาการปวดอย่าง พาราเซตามอล หรือ Ibuprofen ได้ หากอาการดูไม่น่าไว้วางใจควรรีบพาตัวส่งโรงพยาบาลให้หมอช่วยดูแลรักษาต่อไป
วิธีการป้องกัน
ถ้าไม่อยากโดนแมงมุมกัดก็ควรที่จะไม่เอาตัวเองไปอยู่ที่รกๆ ที่เก็บของซึ่งมีความอับชื้น อย่างห้องใต้ดิน ห้องเก็บของ หลังชั้นวางหนังสือ กล่อง ตู้ ที่ไม่ค่อยได้เปิดใช้งาน รวมถึงกองฟืน กองหินต่างๆ ตามที่เหล่านี้มีโอกาสที่จะเจอได้มากเลยทีเดียว
3. ผึ้ง
ในประเทศเราสามารถพบเจอผึ้งได้โดยทั่วไป ทำให้มีโอกาสที่จะโดนต่อยได้ด้วย ไม่ควรเอามือปัดหรือไล่ เพราะผึ้งอาจจะตกใจและยิ่งโจมตีเพื่อป้องกันตัว ควรอยู่เฉยๆ รอจนมันบินจากไปเอง ส่วนผู้ที่โชคร้ายถูกผึ้งต่อยจะรู้สึกเจ็บ บวมปวดบริเวณบาดแผลมาก เนื่องจากผึ้งจะทำการฝังเหล็กในลงไปในผิวหนังด้วย อาการโดยทั่วไปผิวจะบวมปูดสร้างความทรมานมาก แต่ถ้าหากว่าคนที่โดนต่อยแพ้พิษผึ้งอาจจะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้เลยทีเดียว
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ที่ควรทำคือ หากว่าพบเหล็กในที่สามารถมองเห็นได้ ควรรีบเอาออกให้เร็วที่สุด ล้างทำความสะอาดในจุดที่ถูกผึ้งต่อยด้วยน้ำและสบู่ ใช้น้ำแข็งหรือผ้าเย็นช่วยประคบเพื่อลดอาการปวดและบวม หากว่าใส่เครื่องประดับอยู่ควรรีบถอดเพื่อไม่ให้เกิดอาการบวมจนไม่สามารถถอดออกได้ในภายหลัง ถ้าถูกต่อยมากกว่า 3 ตัวขึ้นไปในคราวเดียวอาจเป็นอันตรายกับชีวิตได้ นำส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ทำการตรวจรักษาโดยเร็วที่สุด
วิธีการเอาตัวรอด
ทางที่ดีแล้วไม่ควรที่จะอยู่ใกล้กับรังผึ้ง หรือว่าในที่ที่มีผึ้งอยู่มากๆ อย่างเช่นร้านขายน้ำหวาน หรือแปลงดอกไม้เอาไว้ก่อนจะดีที่สุดค่ะ
4. แมงกระพรุน
คนที่เล่นน้ำทะเลมีโอกาสที่จะพบเจอกับแมงกะพรุนที่มีพิษ เพราะเพียงแค่สัมผัสโดน พิษก็จะกระจายไปตามผิวหนัง ทำให้รู้สึกปวดแสบปวดร้อนบวมเป็นรอยแดงและอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ด้วย
การปฐมพยาบาล
ควรรีบทำการล้างแผลโดยใช้น้ำส้มสายชูราดลงบนแผลที่ถูกพิษแมงกะพรุนเป็นเวลา 30 นาที หากหาไม่ได้จะใช้น้ำอัดลมแทนก็ได้ แต่ไม่ควรใช้น้ำจืดล้างแผล เพราะจะมีโอกาสที่พิษจะยิ่งกระจายตัวมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าพันหรือพลาสเตอร์ปิดแผลใดๆ ทั้งนั้น หากปวดให้ใช้น้ำแข็งประคบ หากว่าอาการแย่ลงในช่วง 40 นาที เริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ใจสั่น หายใจลำบาก หน้าซีด ควรรีบพาส่งโรงพยาบาลในทันที
การป้องกันตัวจากแมงกะพรุน
ไม่ควรลงเล่นน้ำทะเลในช่วงฤดูฝน รวมถึงการลงน้ำบริเวณที่มีแมงกระพรุนชุกชุมค่ะ
5. ช้าง
ช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย และเราต่างก็รู้กันดีว่าช้างนั้นฉลาดแสนรู้ มีความเป็นมิตรสูง แต่ในยามที่ช้างเครียดหรือว่าตกมันนั้นก็น่ากลัวแบบสุดๆ เลยเช่นเดียวกัน ซึ่งไม่ว่าเราหรือใครๆ ต่างก็มีโอกาสที่จะได้พบเจอช่วงเวลาที่โชคร้ายเหล่านั้นได้แบบไม่คาดฝันเหมือนกัน
วิธีการเอาตัวรอด
ที่ต้องทำคือไม่ควรวิ่งหนีช้าง เพราะช้างตอนตกมันนั้นวิ่งเร็วมาก เพียงไม่กี่ก้าวก็สามารถถึงตัวเราได้อย่างง่ายดาย ตัวใหญ่และมีแรงพลังเยอะมากจนเราไม่สามารถต้านทานได้ ทางที่ดีแล้วควรจะหาที่หลบกำบังไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ หลังก้อนหิน หรือมุมตึกก็ได้ ให้พยายามมีที่บังสายตาจากช้างเข้าไว้จะเป็นการหลบหลีกการเผชิญหน้าจากช้างได้ดีกว่าการวิ่งหนีค่ะ
6. ตะขาบ
ตะขาบเป็นสัตว์ที่น่าเกลียดน่ากลัวแถมยังมีพิษอีกด้วย ยิ่งตอนฝนตกเราจะยิ่งพบเจอตะขาบได้ง่ายมากขึ้น เพราะตะขาบมักจะหนีมากับน้ำ ทำให้เรามีโอกาสที่จะได้เจอกับมันหรืออาจจะโดนกัดได้ด้วย ตะขาบมักจะอยู่ในพื้นที่ที่ชื้นแฉะ เช่น ขุดรูอยู่ในดิน อยู่ใต้เปลือกไม้ เคลื่อนที่ได้รวดเร็ว จะโจมตีใส่คนโดยการกัดจากเขี้ยวคู่หน้าและฉีดพิษเข้าสู่แผลที่กัด ปกติแล้วพิษของตะขาบจะไม่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต แต่ถ้าหากว่าผู้ป่วยถูกกัดในบริเวณที่สำคัญหรือว่าแพ้พิษของตะขาบก็อาจจะมีอาการรุนแรงได้เหมือนกัน
การปฐมพยาบาล
หากว่าถูกกัดควรล้างแผลด้วยน้ำสะอาดให้มากๆ ใช้ยาหม่อง หรือยาสำหรับทาบรรเทาอาการสัตว์กัดต่อยที่บริเวณแผลได้ หากมีอาการปวดมากๆ ให้ประคบแผลกับน้ำอุ่นหรือใช้กระเป๋าน้ำร้อน ที่ไม่ร้อนมาก อาจจะมีไข้ต่ำๆ และแผลอาจจะอักเสบบวมแดงมาก ก็ให้กินยาแก้ปวด ถ้าเป็นเด็กเล็กหรือว่าอาการไม่ดีขึ้นควรนำส่งโรงพยาบาล ให้หมอทำการรักษาเป็นลำดับถัดไป
7. แมงป่อง
เป็นสัตว์มีพิษที่สามารถพบเจอได้ในประเทศไทย มักชอบอาศัยอยู่ตามที่มืดและอับชื้น เช่น ใต้ก้อนหิน ใต้ใบไม้ ขุดรูอยู่ ยามที่น้ำท่วมก็อาจจะมากับน้ำได้เช่นเดียวกับตะขาบ พิษของแมงป่องนั้นอาการจะไม่รุนแรงนัก อาจจะปวดบวมแดงบริเวณที่ถูกต่อย
วิธีเอาตัวรอด
หากเจอให้ใช้ไม้คีบ หรือไล่ไปด้วยความร้อน โดยเฉพาะไฟจะได้ผลมาก
ถ้าหากว่าโดนต่อยให้ใช้น้ำสะอาดและสบู่ล้างทำความสะอาดบริเวณแผล จากนั้นก็ใช้แอมโมเนียชุบปิดแผลเอาไว้ เมื่อมีอาการปวดก็ใช้ยาพาราเซตามอล รวมถึงให้ประคบเย็นบนแผลแก้เพื่ออาการปวด ควรจะให้คนโดนกัดนอนพัก แต่ถ้าหากมีอาการแพ้ไข้ขึ้นสูงหรืออาการไม่ดีขึ้นควรพาไปพบแพทย์
8. จระเข้
อาจจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ หากว่าเราจะได้พบกับจระเข้ในชีวิตประจำวัน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสนะ เพราะว่าน้ำท่วมบางครั้งเราก็จะได้ยินว่ามีข่าวจระเข้จากฟาร์มหลุดออกมาได้เหมือนกัน ซึ่งเราอาจจะได้ไปพาบพบเข้าแบบไม่ตั้งใจ และมันก็มักจะโจมตีใส่เราแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
วิธีการเอาตัวรอดตอนวิ่งหนี
ถ้าหากจะต้องวิ่งหนีบนบก การวิ่งแบบซิกแซกจะทำให้คุณเอาตัวรอดจากจระเข้ได้มากกว่าการวิ่งแบบตรงๆ นะ
วิธีการเอาตัวรอดตอนกัด
หากถูกกัดให้ใช้มือแหย่เข้าไปในจมูกของจระเข้แรงๆ จะทำให้มันปล่อยคุณได้ รวมถึงโจมตีที่ดวงตาซึ่งเป็นจุดอ่อนอีกที่ของมัน
9. ลิง
ลิงเป็นสัตว์ที่เรามักพบได้ตามแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง และแม้เจ้าจ๋อจะเป็นสัตว์ที่ฉลาดและสามารถทำการฝึกฝนให้อยู่กับมนุษย์ได้ แต่ถ้าอยู่ตามธรรมชาติมันก็ไม่เชื่อฟังเรา เป็นสัตว์ที่มีความเจ้าเล่ห์มาก รวมถึงมีความดุร้ายไม่แพ้สุนัขหรือแมวดุๆ เลยทีเดียว ลิงมักชอบขโมยของ ทำลายข้าวของ และอาจทำร้ายคนด้วยทั้งดึงผม ข่วน กัดและอาจติดเชื้อพิษสุนัขบ้าเอาได้
สิ่งที่ควรระวัง
สิ่งที่ลิงต้องการส่วนใหญ่จะเป็นของกินจากนักท่องเที่ยว หากพบเจอมันพยายามจะขโมยอาหารไปจากคุณ ห้ามไปยื้อแย่งกับมันเด็ดขาด เพราะมันจะทำทุกทางให้ได้มา ทั้งปกติมันจะกลัวไม่กล้าเข้าใกล้คน หากถือของกินอยู่ให้ระวังเอาไว้เก็บซ่อนไม่ให้มันเห็นดีที่สุดค่ะ เพราะไม่งั้นอาจจะตกเป็นเหยื่อของพวกมันเอาได้นะ
10. สุนัข
ไม่น่าเชื่อว่าสัตว์เลี้ยงแสนรักของมนุษย์อย่างสุนัขนี้ ก็ถือว่าเป็นสัตว์ที่อันตรายกับมนุษย์ได้ ถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตเลยก็มี เช่นกัน โดยเฉพาะกับหมาที่มีเจ้าของ หรือหมาจรจัดอาจจะมุ่งทำร้ายเราได้ ซึ่งเราเองก็มีโอกาสที่จะถูกหมาไล่กัดได้ทุกเมื่อที่เดินออกจากบ้านกันเลยทีเดียว นับว่าเป็นภัยใกล้ตัวเลยนะ ดังนั้นถ้าหากว่าเดินๆอยู่แล้วเจอหมามุงจะวิ่งเข้ามากัดเราแล้วล่ะก็ อย่าทำถ้าตกใจเพราะถ้าเราตกใจจะยิ่งเป็นการกระตุ้นให้มันจู่โจมเราได้อีก
วิธีการเอาตัวรอดตอนเผชิญหน้า
สิ่งที่ควรทำคืออย่าวิ่งหนีเด็ดขาด เพราะยังไงแล้วหมามักจะวิ่งเร็วกว่าคนและมีโอกาสโจมตีให้เราได้รับบาดเจ็บอยู่ดี ที่คุณควรทำคืออยู่นิ่งๆ แต่ไม่ควรไปจ้องตานะ เพราะมันจะคิดว่าเราท้าทายมันอยู่ และมันจะยิ่งโกรธเข้าไปอีก แต่ถ้ามันไม่ยอมถอยห่างหรือว่าหนีไปจริงๆ แล้วล่ะก็ ต้องใช้เสียงเข้าข่มดูสักหน่อย ตะโกนใส่ดังๆ และกระทืบเท้าก็จะทำให้มันกลัวและล่าถอยไปได้ หากกลัวจะไม่ปลอดภัยก็ควรที่จะค่อยๆ เดินถอยหลังไป จนแน่ใจว่ามันจะไม่ตามมาอีกดีที่สุดค่ะ
วิธีการป้องกันและหลีกเลี่ยง
สิ่งสำคัญที่สุดที่จะเอาตัวรอดได้นั่นก็คือ ไม่พาตัวเองไปอยู่ในจุดที่เป็นอันตรายหรือสามารถพบเจอกับภัยเหล่านั้น ต้องมีสติไม่ลนลานแม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ควรเน้นการหนีเพื่อเอาตัวรอด มากกว่าการเผชิญหน้าต่อสู้ด้วย เพื่อลดอันตรายและการสูญเสียให้มากที่สุด แล้วคุณก็จะปลอดภัยจากสัตว์เหล่านั้นได้ค่ะ
เคยถูกสัตว์ทำร้ายเอาไหมคะ?
บทความ โดย : Akine_noxx
เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บ Spice/Pepper
ฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ
- 2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
