1 ก.ค. 2020 เวลา 10:16 • ประวัติศาสตร์
“จอร์จ วอชิงตัน (George Washington)” ประธานาธิบดีคนแรกแห่งสหรัฐอเมริกา ตอนที่ 4
ความโกรธเกรี้ยวของชาวอาณานิคม
การกระทำของอังกฤษในครั้งนี้ได้สร้างความไม่พอใจให้ชาวอาณานิคมเป็นจำนวนมาก รวมทั้งจอร์จ แต่จอร์จก็ยังไม่ได้ออกมาประท้วง
รัฐสภาได้ยกเลิกพระราชบัญญัติสแตมป์ในปีค.ศ.1766 (พ.ศ.2309) เนื่องจากชาวอาณานิคมต่างโมโหและไม่ยอมซื้อสินค้าจากอังกฤษ ทำให้การค้าเสียหาย
แต่ในปีต่อมา อังกฤษก็ได้ออกกฎหมาย บังคับให้ชาวอาณานิคมจ่ายภาษีกระดาษ สี กระจก ตะกั่ว และชา ซึ่งเป็นสินค้านำเข้าจากอังกฤษ
ชาวอาณานิคมออกมาประท้วงอีกครั้ง ทำให้ภาษีถูกยกเลิกไป ยกเว้นเพียงอย่างเดียว นั่นคือ “ใบชา”
ชาเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของชาวอาณานิคม ผู้คนมักจะดื่มชามากกว่าวันละ 15 ถ้วย และการขึ้นภาษีนี้ก็ทำให้ชาวอาณานิคมไม่พอใจเป็นอย่างมาก
จอร์จเองก็ไม่พอใจ และเขาก็ปฏิเสธที่จะจ่ายภาษี เขาจึงเปลี่ยนไปดื่มกาแฟแทน
การขึ้นภาษีในครั้งนี้ทำให้มุมมองของจอร์จต่ออังกฤษเปลี่ยนไป เขาคิดว่าการที่รัฐสภาควบคุมอาณานิคมนี้เป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรม
ก่อนที่จะเกิดเหตุภาษีนี้ อาณานิคมทั้ง 13 ล้วนแต่มีความแตกต่างกัน แต่ละอาณานิคมอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่สนใจอาณานิคมอื่นเท่าไรนัก แต่ความโกรธเกรี้ยวที่มีต่ออังกฤษครั้งนี้ ทำให้อาณานิคมแต่ละแห่งเริ่มหันหน้าเข้าหากัน
ภายหลังเหตุการณ์งานเลี้ยงน้ำชาที่บอสตัน (Boston Tea Party) (สามารถหาอ่านได้ในซีรีส์ที่ผมเคยเขียนไว้) อังกฤษก็ทำการกดดันอาณานิคมอย่างหนัก
ท่าเรือถูกปิด รัฐบาลท้องถิ่นถูกยกเลิก ทหารอังกฤษได้ย้ายเข้ามาประจำในอาณานิคม ไม่มีการนำเข้าหรือส่งออกสินค้าในเมือง ทำให้ธุรกิจได้รับความเสียหาย เสบียงก็ร่อยหรอ
แต่ถึงอย่างนั้น ประชาชนก็ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าเสียหาย ทุกคนคิดว่าพวกเขากำลังเรียกร้องสิทธิของตน
งานเลี้ยงน้ำชาที่บอสตัน (Boston Tea Party)
ผู้คนจากอาณานิคมอื่นได้เข้าร่วมกับบอสตัน รวมถึงจอร์จ
ต่อมาในฤดูร้อน แต่ละอาณานิคมได้จัดประชุมที่ฟิลาเดลเฟีย โดยจอร์จคือหนึ่งในตัวแทนหกคนจากเวอร์จิเนียที่เข้าร่วมประชุม
“สภาภาคพื้นทวีป (Continental Congress)” เป็นตัวแทนของอาณานิคมทั้ง 12 (เวอร์จิเนียไม่เข้าร่วม) โดยในเวลานั้น ยังไม่มีใครพูดถึงเรื่องการแยกออกจากอังกฤษ ทุกคนยังหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
แต่เมื่อถึงเวลาประชุมสภาภาคพื้นทวีปครั้งที่ 2 ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1775 (พ.ศ.2318) อารมณ์ของผู้คนก็เปลี่ยนไป
ในเวลานั้น ได้เกิดการสู้รบระหว่างอาณานิคมกับทหารอังกฤษในบางเมืองของแมสซาชูเซตส์ และมีชาวอเมริกันเสียชีวิต
ไม่มีการถอยหลังกลับแล้ว ชาวอาณานิคมต้องการอิสระ
การประชุมครั้งที่ 2 นี้มีการเตรียมตัวสู้รบแล้ว จอร์จมาประชุมโดยใส่ชุดทหารสีฟ้า
1
ในเวลานี้ จอร์จมีอายุได้ 43 ปี ที่ผ่านมาตลอด 15 ปี เขาเป็นชาวไร่มาตลอด และสำหรับผลงานการรบในช่วงแรกของเขา ก็ไม่จัดว่าดีเลย เขาไม่เคยรบชนะและไม่เคยบัญชาการกองทัพขนาดใหญ่มาก่อน
แต่ในปีค.ศ.1775 (พ.ศ.2318) จอร์จได้รับเลือกให้เป็นผู้นำทัพภาคพื้นทวีป
จอร์จตอบตกลง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มั่นใจในตัวเองก็ตาม
ปฏิกิริยาแรกของจอร์จเมื่อรู้ว่าตนได้รับเลือกนั้น เขาหน้าแดงและรีบวิ่งออกจากห้องทันที
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป สงครามจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ติดตามต่อตอนหน้านะครับ
โฆษณา