13 ก.ค. 2020 เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์
“สิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7 แห่งโลกยุคโบราณ (Seven Wonders of the Ancient World) สิ่งมหัศจรรย์ในหน้าประวัติศาสตร์โลก” ตอนที่ 2
“สวนลอยแห่งบาบิโลน (Hanging Gardens of Babylon)”
2,500 ปีก่อน อียิปต์นั้นเสื่อมอำนาจ ไม่ได้ทรงอำนาจเหมือนเช่นที่ผ่านมา
ในเวลานี้ เมืองที่ใหญ่และอลังการที่สุดคือเมือง “บาบิโลน (Babylon)” ในดินแดนที่ชื่อ “บาบิโลเนีย (Babylonia)” ซึ่งดินแดนนี้ ปัจจุบันคืออิรัก
1
ที่เมืองบาบิโลนแห่งนี้ มีสิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้เมืองอยู่สามสิ่ง
1
1.อารามที่สร้างขึ้นเพื่อเทพเจ้า “Marduk” ซึ่งสำหรับชาวบาบิโลเนียนั้น Marduk เป็นใหญ่เหนือเทพเจ้าทั้งปวง
Marduk
2.กำแพงเมืองบาบิโลน
กำแพงเมืองบาบิโลน
กำแพงเมืองบาบิโลนนั้นทอดยาวเป็นระยะทางกว่า 10 ไมล์ ล้อมรอบเมืองทั้งเมือง
1
3.สวนลอยแห่งบาบิโลน (Hanging Gardens of Babylon)
สวนลอยแห่งบาบิโลน (Hanging Gardens of Babylon)
สวนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดย “พระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ที่ 2 (Nebuchadnezzar II)” ซึ่งปกครองบาบิโลนตั้งแต่ 605-561 ปีก่อนคริสตกาล
2
พระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ที่ 2 (Nebuchadnezzar II)
สวนแห่งนี้ไม่ได้ลอยอยู่กลางอากาศ แต่ถูกสร้างบนระเบียงหินเป็นชั้นๆ หลังกำแพงเมือง แต่หากมองจากระยะไกล สวนแห่งนี้น่าจะดูเหมือนลอยอยู่กลางอากาศ เต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้และพืชพันธุ์ต่างๆ
ตามตำนานนั้น พระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ที่ 2 ทรงสร้างสวนแห่งนี้เพื่อเอาใจพระราชินีของพระองค์ นั่นคือ “พระราชินีอามีทิส Amytis of Media)”
พระราชินีอามีทิสเป็นพระราชธิดาในกษัตริย์ดินแดนอื่น และพระองค์ได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ที่ 2 เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสองดินแดน
แต่พระราชินีอามีทิสไม่ทรงโปรดดินแดนแห่งใหม่ของพระราชสวามีนัก บาบิโลนนั้นมีอากาศร้อน แห้งแล้ง พระองค์ทรงคิดถึงบ้านเกิดของพระองค์ บ้านเกิดที่เต็มไปด้วยหุบเขาอุดมสมบูรณ์
2
พระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ที่ 2 ทรงสร้างสวนนี้เพื่อให้พระราชินีทรงหายคิดถึงบ้าน
สวนลอยแห่งนี้มีขนาดกว้างใหญ่ กว้างถึง 400 ฟุต ยาว 400 ฟุต และอยู่สูงกว่า 80 ฟุต (สูงกว่าตึกหกชั้น) โดยฐานนั้นทำจากหิน กระเบื้อง และยางมะตอย
สวนนี้มีขนาดใหญ่และลึกมากจนสามารถปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ได้ และยังมีทั้งพุ่มไม้ เถาวัลย์ ดอกไม้ รวมทั้งลำธารที่สร้างด้วยมือมนุษย์ น้ำพุ และน้ำตก
1
สวนแห่งนี้มีสัตว์ป่าเดินเพ่นพ่านอย่างเป็นอิสระ และถึงแม้จะไม่เคยเห็น แต่นักท่องเที่ยวชาวกรีกและโรมันก็ได้บรรยายว่าสวนแห่งนี้เปี่ยมด้วยมนต์สเน่ห์และน่าหลงไหล
1
หนึ่งในคำถามที่หลายคนสงสัยก็คือเรื่องของ “การรดน้ำ”
1
จะต้องมีการขนน้ำขึ้นไปยังชั้นบนสุด และสวนแห่งนี้ก็ต้องใช้น้ำวันละ 8,200 แกลลอน
การจะใช้น้ำและขนขึ้นไปยังสวนแห่งนี้ จำเป็นต้องใช้หลักวิศวกรรมที่ซับซ้อน และนี่ยังเป็นในสมัยโบราณอีกด้วย
พระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ที่ 2 ไม่ได้ทรงบันทึกเรื่องของสวนลอยแห่งนี้ แต่มีบันทึกเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอื่นๆ ของพระองค์มากมาย แต่ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับสวนลอยแห่งนี้เลย
1
เป็นไปได้ว่าสวนลอยแห่งนี้อาจจะไม่มีอยู่จริง บันทึกต่างๆ ก็ไม่มีพูดถึง การสำรวจบริเวณนี้ก็ไม่พบหลักฐานที่บ่งบอกถึงสวนลอยแห่งนี้
แต่ก็ได้มีบุคลากรจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดเชื่อว่าสวนลอยแห่งนี้มีอยู่จริง เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในบาบิโลน หากแต่อยู่ในเมืองนิเนเวห์ ซึ่งอยู่ทางเหนือของบาบิโลนราว 340 ไมล์ ตั้งอยู่ทางแม่น้ำไทกริส
1
แม่น้ำไทกริส
หากเป็นเรื่องจริง แสดงว่าสวนแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นโดยกษัตริย์พระองค์อื่นที่ไม่ใช่พระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ที่ 2 นั่นคือ “พระเจ้าเซนนาเคอริบ (Sennacherib)” ซึ่งปกครองก่อนพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ที่ 2 เป็นเวลานานเกิน 100 ปี
1
พระเจ้าเซนนาเคอริบ (Sennacherib)
คลองถึง 18 แห่งยาวกว่า 50 ไมล์ นำน้ำจากภูเขาเข้ามาในนิเนเวห์ และหากพิจารณาจากโครงการต่างๆ ของพระเจ้าเซนนาเคอริบ ก็เป็นไปได้ว่าพระองค์เป็นผู้ออกแบบและสร้างสวนลอยนี้
อีกทั้งยังมีบันทึกคำพูดของพระเจ้าเซนนาเคอริบ ที่ได้ทรงตรัสว่าพระองค์ได้สร้างสวนข้างวังซึ่งเต็มไปด้วยสมุนไพรและต้นผลไม้ที่มาจากภูเขาและบาบิโลเนีย
1
ความลึกลับนี้จึงยังดำเนินต่อไป นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีบางคนเชื่อว่าสวนแห่งนี้มีอยู่จริง แต่ได้ถูกทำลายไปหมดจากสงครามและการสึกกร่อน แต่บางคนก็เชื่อว่าเป็นเพราะแผ่นดินไหว ทำให้สวนนี้ถูกทำลาย
1
แต่ไม่ว่าจะยังไง สวนลอยแห่งนี้ก็นับว่าเป็นสถานที่ๆ ลึกลับที่สุดในบรรดาสิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7
1
คำถามสำคัญก็คือ
“สวนแห่งนี้มีอยู่จริงหรือเป็นเพียงเรื่องแต่ง?”
แล้วท่านผู้อ่านล่ะครับ คิดว่ายังไง?
ตอนต่อไป เป็นเรื่องของ “วิหารอาร์ทิมีส (The Temple of Artemis at Ephesus)”
วิหารอาร์ทิมีส (The Temple of Artemis at Ephesus)
จะมาในวันพุธ ฝากติดตามด้วยนะครับ
โฆษณา