“สิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7 แห่งโลกยุคโบราณ (Seven Wonders of the Ancient World) สิ่งมหัศจรรย์ในหน้าประวัติศาสตร์โลก” ตอนที่ 3
“วิหารอาร์ทีมิส (The Temple of Artemis at Ephesus)”
มาถึงสิ่งมหัศจรรย์ลำดับที่ 3 กันแล้วนะครับ
นั่นก็คือ “วิหารอาร์ทิมีส (The Temple of Artemis at Ephesus)”
แต่ก่อนอื่น เราต้องย้อนไปถึงที่มาที่ไปก่อน เรามาทำความรู้จักกับ “พระเจ้าโครซุส (Croesus)” กันก่อนดีกว่า
พระเจ้าโครซุส (Croesus)
พระเจ้าโครซุสเป็นกษัตริย์ที่ทรงมีชื่อเสียงจากความมั่งคั่งร่ำรวย พระองค์ร่ำรวยซะจนพระนามของพระองค์กลายเป็นความหมายของคำว่า “รวย”
แม้กระทั่งปัจจุบัน ก็มีวลีฝรั่งที่มักจะกล่าว เรียกคนที่ร่ำรวยว่า “รวยเหมือนโครซุส (As rich as Croesus)”
พระเจ้าโครซุสเป็นกษัตริย์ผู้ครองดินแดนที่ชื่อ “ลิเดีย (Lydia)” ซึ่งปัจจุบันคือดินแดนทางตะวันตกของตุรกี โดยรัชสมัยของพระองค์ คือสมัย 560-546 ปีก่อนคริสตกาล
พระองค์มักจะทรงทำสงครามกับพวกกรีก ซึ่งมีดินแดนอยู่ไม่ไกลจากพระองค์ แต่ถึงแม้จะทำสงครามกับกรีก แต่พระองค์ก็ทรงโปรดศิลปะและสถาปัตยกรรมกรีก
ช่วงเวลาหนึ่งในราว 560-550 ปีก่อนคริสตกาล พระองค์ได้เข้ายึดครองเมือง “เอฟิซัส (Ephesus)” ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งของกรีก
ภายหลังจากพระองค์สามารถยึดครองเมืองได้แล้ว พระองค์ก็ทรงเริ่มการก่อสร้างอาคารใหม่ๆ มากมาย รวมทั้งวิหารขนาดใหญ่
วิหารกรีกในสมัยโบราณ มักจะสร้างขึ้นเพื่อมีจุดประสงค์ให้เป็นที่ประทับของเทพเจ้าและเทพีทั้งหลาย และวิหารที่พระเจ้าโครซุสทรงวางแผนจะสร้าง ก็คือวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อเทพีที่มีนามว่า “อาร์ทีมิส (Artemis)”
อาร์ทีมิส (Artemis)
อาร์ทีมิส เป็นหนึ่งในเทพีที่สำคัญที่สุดองค์หนึ่งสำหรับชาวเมืองเอฟิซัส โดยชาวเมือง เชื่อว่าอาร์ทีมิสได้เกิดมาในบริเวณที่ไม่ไกลจากเมือง และในกรีซ ก็เชื่อกันว่าอาร์ทีมิสเป็นเทพีแห่งการล่าสัตว์ สัตว์ป่า ป่าไม้ และธรรมชาติทั้งปวง
ชาวเมืองเอฟิซัสบวงสรวงอาร์ทีมิสในฐานะของเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์
วิหารนี้เริ่มสร้างในราว 550 ปีก่อนคริสตกาล และนักประวัติศาสตร์โรมันก็คาดว่าน่าจะใช้เวลาก่อสร้างกว่า 120 ปี
วิหารอาร์ทีมิสสร้างขึ้นบริเวณนอกเมือง ในสวนขนาดใหญ่
วิหารนี้มีขนาดมหึมา ยาว 425 ฟุต กว้าง 220 ฟุต และมีเสาค้ำกว่า 127 เสา แต่ละเสามีความสูง 60 ฟุต
วิหารนี้สร้างขึ้นจากหินอ่อน และว่ากันว่าเป็นวิหารกรีกแห่งแรกที่สร้างจากวัสดุราคาแพงอย่างหินอ่อน
บนยอดของวิหาร มีการแกะสลักเป็นเรื่องราวจากในเทวตำนาน ระบายด้วยสี ประดับด้วยทองคำ
วิหารนี้ออกแบบมาอย่างดี ให้รองรับน้ำหนักได้ รวมทั้งยังทนต่อแผ่นดินไหว
เมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ วิหารแห่งนี้ก็มีความยิ่งใหญ่อลังการ ใหญ่โตกว่าวิหารอื่นๆ เป็นเท่าตัว
วิหารแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่พำนักของเทพี แต่ยังทำหน้าที่เป็นเสมือนธนาคารอีกด้วย
มีการสร้างห้องที่ใช้เก็บเงินและของมีค่าโดยเฉพาะ ดังนั้น นอกจากความสวยงามแล้ว วิหารนี้ยังเป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งและอำนาจอีกด้วย
ภายในวิหารอาร์ทีมิส มีรูปปั้นเทพีอาร์ทีมิสให้ผู้คนได้บวงสรวง
ในเมืองเอฟิซัสแห่งนี้ ได้มีการเฉลิมฉลองให้เทพีอาร์ทีมิสหลายครั้ง และเมืองแห่งนี้ก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจการค้าก็ขยายใหญ่โต ผู้คนร่ำรวย
แต่ในสมัยศตวรรษที่ 4 วิหารแห่งนี้ก็ถูกไฟไหม้ สาเหตุเนื่องจากถูกวางเพลิง
ภายหลังวิหารถูกเผาไปหมด ก็ได้มีการสร้างวิหารใหม่ โดยสร้างยังจุดเดิม และออกแบบเหมือนเดิม เพียงแต่สร้างบนพื้นที่ๆ สูงขึ้นเพื่อให้วิหารดูมีขนาดใหญ่ เนื่องจากวิหารใหม่นี้จะมีขนาดเล็กกว่าเดิม
ชาวเมืองเอฟิซัสต่างยินดีจ่ายค่าก่อสร้าง โดยยอมสละเครื่องเพชรของตนเพื่อให้เป็นค่าก่อสร้าง
ค.ศ.267 (พ.ศ.810) ชาวต่างด้าวที่เรียกว่า “ก๊อทส์ (Goths)” ได้บุกปล้นวิหารแห่งนี้
นักรบชาวก๊อทส์ (Goths)
วิหารนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ล่มสลายไปในปีค.ศ.401 (พ.ศ.944)
แต่ถึงจะล่มสลายมานับพันปี ความโด่งดังของวิหารอาร์ทีมิสก็เป็นที่เลื่องลือ จนนักโบราณคดีในศตวรรษที่ 19 ได้พยายามตามหาวิหารแห่งนี้เป็นที่แรก และได้มีการค้นพบในค.ศ.1869 (พ.ศ.2412)
เศษซากวิหารอาร์ทีมิส
ได้มีการออกสำรวจอีกครั้งในปีค.ศ.1904 (พ.ศ.2447) และพบภาพแกะสลักบนเสา ซึ่งปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์บริติช (British Museum) ในประเทศอังกฤษ
ภาพแกะสลักที่พบ
ปัจจุบัน ก็ยังคงมีการออกขุดหาหลักฐานต่างๆ อยู่เรื่อยๆ
ไม่แน่ว่าซักวัน อาจจะมีการค้นพบสิ่งที่น่ามหัศจรรย์ที่ยังหลงเหลืออยู่มากกว่านี้ก็เป็นได้
จบตอนที่ 3 ของซีรีส์ชุดนี้ สำหรับตอนต่อไป
“เทวรูปซูสที่โอลิมเปีย (The Statue of Zeus at Olympia)”
จะมาในวันศุกร์นี้ ฝากติดตามด้วยนะครับ
- 18
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
