16 ก.ค. 2020 เวลา 14:54 • การตลาด
มารู้จักแบรนด์จองโรงแรมออนไลน์กัน! มาวิเคราะห์จุดเด่นและการตลาดกัน
Expedia & Hotels.com ตอนที่ 1/2
จากตอนก่อนๆหน้านี้ที่เรามีพูดถึงแบรนด์ของโรงแรมเนอะ
วันนี้เราจะมาเขียนย่อยเกี่ยวกับ แบรนด์จองที่พักออนไลน์ (Online Travel Agency) กันเนอะ
จริงๆถ้าย้อนนนไปในบทความแรกๆ ก็จะมีเกริ่นไว้ว่า OTA คืออะไรเน้อะ ? อันนี้เราขออนุญาตข้ามตัวความหมายไป และลงลึกเกี่ยวกับการวิเคราะห์แบรนด์สนุกๆกัน !
จาก Expedia Group presentation of OTA ว่าบทบาทและความสำคัญของ OTA ต่อ โรงแรมคืออะไรเนอะ
ต้องขอบอกว่าในหัวข้อของบทความนี้ที่เขียนว่า "Expedia & Hotels.com ในตอนแรก และตอนที่2 จะเป็นเรื่องของ Agoda & Booking.com" เป็นการตั้งใจเขียนเลยละ เพราะว่ามันก็สามารถ refer ได้ถึงอีกชื่อนึงคืออ
"Expedia Group vs Booking Holding" นั้นเองงงงง
แต่เดี๋ยวเราจะพูดถึงทีละแบรนด์เลย เชื่อว่าเพื่อนๆน่าจะยากอ่านแบบทีละแบรนด์มากกว่า 555
1. Expedia
มารู้จักแบรนด์ของเค้ากัน
- ขอเริ่มที่แบรนด์จากฝั่ง Expedia Group กันก่อน ด้วยแบรนด์ Flagship คือ Expedia นั้นเอง
- ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1996 โดย Microsoft Travel โดยตอนนั้น Microsoft ได้เปิดตัว domain expedia.com
- เพียงแค่ 3 ปี ในปี 1999 ได้เปิดตัวสู่ IPO
- ในปี 2009 ตัวแบรด์ Expedia ได้ทำการเปิดตัวในแบรนด์ใหม่ๆโดยใช้ภายใต้ชื่อ Expedia เช่น Expedia Media Solution, Expedia Affiliate network โดยเหลักมีเป้าหมายที่จะช่วยในเรื่องของการขายให้กับ Supplier อย่างโรงแรม
- และในปี 2011 ได้ดำเนินกลยุทธ์การสร้างพันธมิตรทางเครือข่ายเช่นกับ Air Asia, Tencent eLong
Expedia คือแบรนด์ภายใต้ Expedia Group น้ะจ้ะเพื่อนๆ เป็นวงกลมเล็กในวงกลมใหญ่ งงไม๊อ่ะ ? 555
ระบบ Loyalty members แบบคร่าวๆ
- แบรนด์นี้เค้าจะแบ่งระดับของ members ไว้ 3 ระดับ Blue Silver Gold
- โดยเค้าจะนับจากการสะสมจำนวนคืนที่จอง และจำนวนเงินของการจอง
- ถ้าเป็นระดับ Gold เค้าจะเรียกว่า ลูกค้า Premiums VIP (เอ้ะๆ แต่อันนี้เค้าไม่ได้ให้สิทธิในการเข้าประเทศแบบนั้นนะ อุ้บบส์....) คือลูกค้าส่วนนี้จะสามารถ enjoy upgrade benefits เช่น Late checkout การอัพเกรดห้อง บางทีอาจมีส่วนลด หรือ voucher ต่างๆด้วย และ คะแนนที่คูณ 2 ในทุกๆการจอง
- ที่สำคัญที่สุดคือ เค้าจะมีส่วนลดเพิ่มให้อีกประมาณ 10% สำหรับ member ตั้งแต่ระดับ Blue เลยย (ตรงนี้เราเข้าใจว่า ถ้าโรงแรมเข้าร่วมพวกโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าเนี่ย น่าจะลดเพิ่ม แต่ถ้าโรงแรมไหนไม่ได้เข้าร่วม ไม่น่าจะมีส่วนลดนะ)
Expedia member benefits
จุดเด่นที่น่าสนใจของเค้ามีอะไรบ้างน้ะ ?
- Expedia Rewards point โดยที่ 1 point มาจากการใช้จ่ายประมาณ 20 บาท ต่อการจองที่พัก และการใช้ Point คือ 4 points = 1 บาท ซึ่งสามารถนำมาเป็นส่วนลดเพิ่มเติมกับ โรงแรม ตั๋วเครื่องบินหรือ activities voucher ได้
- Double points ถ้าจองผ่านมือถือ ก็คือ 2 points = 20 บาท
- ถ้าจองแบบ VIP program hotels เราก็จะได้สามารถเคลม points ได้ถึง 2 เท่า
คือถ้าคำนวนแบบง่ายๆ ถ้าเพื่อนๆสะสมคะแนนโดยการจองผ่านมือถือ และนำมาเป็นแลกเป็นส่วนลดใช้กับโรงแรมที่เค้าร่วมโปรแกรม VIP เพื่อนๆก็จะได้ประมาณ 1 point = 1 บาท หรือ เป็นวิธีเพิ่มการเคลมคะแนน 4 เท่านั้นเอง
- หน้าเว็ปที่ใช้งานง่าย เน้นการ search option แนว simply สุดๆ โดยมีการแยกหมวดหมู่ไว้อย่างชัดเจน
- ระบบการ suggest Trip idea
ก็คือ ถ้าเพื่อนๆไม่รู้จะไปเที่ยวไหน เจ้าตัวเว็ป Expedia เค้าก็จะมีฟังชั่น Get inspired โดยเค้าจะหา location และโรงแรมที่พร้อมเข้าพักในช่วงเวลานั้น โดยสถานที่ท่องเที่ยวก็ based ตามความชอบจากการ search ของเรา และความ popular ณ ตอนนั้น เช่นตอนนี้พอกด Get inspired พัทยาและหัวหินก็โผล่มาเป็นที่แรกๆเลย (อาจะเพราะ search history เราเป็นการค้นหาจากที่เที่ยวติดทะเลมาเยอะ และพัทยากับหัวหินกำลัง popular ตอนนี้ อันนี้เดานะ)
เกี่ยวกับกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญ
- Package (Flight+Hotel) discount ที่จะทำให้ลูกค้าได้ส่วนลดที่เยอะกว่า
Expedia เน้นมากๆกับการขาย product แบบ bundle โดยที่จากการเสิชก็พบว่า ถูกกว่าจริงๆนะ
เช่นตัวอย่างด้านล่าง เลือกที่จะค้างคืนที่ Le Meridien Phuket พบว่าของแค่ห้องพักอย่างเดียวได้รับส่วนลดปกติที่ 5%
แต่เมื่อกดจองพร้อมตั๋วเครื่องบิน ส่วนลดรวมกันอยู่ที่ 8% แน่ะ !
ราคาส่วนลดก็ไม่ได้แย่เลยนะ อันนี้เราลองเสิชจริงๆดู
- การโปรโมทโรงแรมผ่านระบบ Sponsored
อันนี้ต้องเรียกว่า โรงแรมไหนมีตังค์จ่ายเพิ่ม (คล้ายๆ boost post) ก็ได้ประโยชน์ และได้พื้นที่โฆษณาเพิ่มเติมไป ซึ่ง แน่นอนว่าถ้าคนทั่วไปเสิช ก็อาจจะไม่ทราบได้ว่า โรงแรมแหล่านี้เค้าได้จ่ายตังค์เพื่ออันดับในการ search แถมมีข้อความพิเศษให้อีก
เรียกได้ว่า Win-Win ทั้งโรงแรมและ Expedia แล้วถ้า review ดี ราคาโปรแรง ก็ win customer ง่ายๆเลย เพราะ visibility มันเห็นง่ายย :)
- Special Campaign
เช่น Last minute, Flash deal, หรือ Highlight City deal
ซึ่งเจ้าระบบนี้จะทำการ Search Deal ที่ดีที่สุด หรือ deal ที่โรงแรมนั้นๆมอบส่วนลดพิเศษให้กับ Expedia ขึ้นมาก่อน เช่นถ้าเป็นส่วนลดระยะเวลาแค่ 2-3 วันก็จะไปอยู่ใน Flash sale campaign
ซึ่งเราว่ามันดีมากๆเลยกับการ search เบสตามความต้องการของเรา
เช่น New York City winter deal
โปรโมชั่นแรงตาม season เพียแค่ search เมืองที่จะไปเที่ยว
มารู้จักแบรนด์ของเค้ากัน
- ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1991 โดย David Litman ซึ่งก็คือก่อน Expedia ก่อตั้งซะอีกนะ
- โดยในสมัยนั้น Hotels เค้าชื่อว่า Hotel Reservations Network และให้บริการ การจองโรงแรมผ่านทางโทรศัพท์ แล้วค่อยๆพัฒนาจนมาเป็น platform online
- และในปี 2005 ก็ถูกซื้อโดย Expedia นั้นเองง
ระบบ Loyalty members แบบคร่าวๆ
- โดยจะมีแค่ 2 ระดับที่ได้รับผลประโยชน์พิเศษต่างๆก็คือ Silver (ที่ต้องค้างประมา10 คืนต่อปี) แล Gold (30คืน ต่อปี)
- โดยทั้ง 2 ระดับก็จะ enjoy กับ benefits ของ VIP Program แบบ Expedia ได้เลย ก็เรียกได้ว่ามาจากที่เดียวกัน
- โดยที่ Secret price ก็คือ exclusive member price นี้ละเหมือนกับส่วนลดเพิ่มสำหรับ member ของ Expedia
- 10 คืน ฟรี 1 คืน ก็เป็น 1 ในผลประโยชน์ของสมาชิกที่ Expedia ไม่ได้มีให้
ระบบเมมเบอร์
จุดเด่นที่น่าสนใจของเค้ามีอะไรบ้างน้ะ ?
- Free night, 10 FREE 1 night
โดยเค้ามีระบบ stamp night ก็คือพัก 1 คืนรับ 1 ดวง ครบ 10 คืนก็จะ Free 1 night สำหรับการจองครั้งต่อไป
แต่ว่าเจ้า Free night เนี่ย ไม่ใช่ว่าเราจะสามารถเคลมได้เฉพาะ โรงแรมที่มีราคาเฉลี่ยเท่ากับ 10 โรงที่เราซื้อมาก่อนหน้านี้เท่านั้นนะ
หรือเอาง่ายๆคือ เหมือนเพื่อนๆจะได้ส่วนลด 10% นั้นเอง (ถ้าเรามองว่า Free night คือ 1 ใน 10 น้ะ เพื่อนๆ งงไม๊เอ่ย?)
- Price guarantees
ก็คือถ้าเพื่อนๆจองกับ Hotels.com ไปแล้ว แล้วดันไปเจอว่า Agoda ถูกกว่า
ทาง Hotels เค้าก็จะมีการคืนเงินส่วนต่างที่แพงกว่าให้ (แต่เรายังไม่เคยลองเลยเหมือนกัน)
- ระบบ Travel gift card
เหมือนกับเวลาเราซื้อพวก apple gift card หรือพวก central gift card แบบนั้นเลยละ แต่อันนี้จะเป็นในรูปแบบของออนไลน์ ทันทีที่เราซื้อเสร็จ เค้าก็จะมีเมล์ส่งเป็นโค้ดไปให้ผู้รับ
กลยุทธ์ทางการตลาดที่แตกต่างอย่างไรกับ Expedia บ้างละ ?
- Code discount marketing !
แน่นอนว่าเค้าจะมีสุ่มในแต่ละช่วงเวลาที่จะมีโค้ดส่วนลดตั้งแต่ 5-10% ออกมาให้กับลุกค้าอย่างพวกเรา ได้ลุ้นกันตลอดเลย
- Group & Corporate exclusive rate
ก็คือการซื้อเหมาด้วยจำนวนคนที่เยอะ ในนามบริษัท ตรงนี้ลูกค้าบริษัทก็จะได้เรทที่พิเศษเพิ่ม แต่สิ่งที่ Hotels.com ได้ก็คือ จำนวน volumn booking ที่เข้ามาจำนวนเยอะ และ credit ที่เค้าสามารถโชว์โรงแรมได้
- Deal of the Day marketing
เป็นการที่ระบบเค้าจะสุ่มเลือกจากโรงแรมที่ให้ส่วนลดที่คุ้มที่สุดในช่วงเวลาหนึ่ง (เช่นอาจจะ refresh ทุกๆ 10 ชั่วโมง
มากกว่านั้น ตรงนี้เป็นสิ่งที่ Hotels.com เนี่ยสามารถ
- Promoted Badge
ก็คือเหมือนเป็นการติดตราพิเศษให้กับโรงแรม เช่น Top Hotel หรือ Loved by guests ซึ่งก็มาจาก
1. ผลคะแนนรีวิวที่สูงกว่า 8.9
2. ยอดรีวิวที่ค่อนข้างเยอะ และ ปริมาณของคนที่คลิกโรงแรมนี้มาในช่วงนั้นๆ
จริงๆแล้ว มีการตลาดอีกวิธีนึงที่ Expedia Group ชอบใช้ นั้นก็คือ "Affiliate Marketing" โดย Expedia Group เนี่ยเค้าไม่ได้ขายแค่ออนไลน์ในเว็ปของเขาอย่างเดียวนะ แต่เค้ามีการปล่อยเรทราคาดีๆพวกนี้ ให้กับเหล่า Tour agency ด้วยเหมือนกัน
ก็คือเหมือนเปลี่ยนจากคู่แข่งร่วม industry เป็นพันธมิตรนั้นเอง ซึ่งด้วยการตลาดวิธี affiliate นี้แหละ ที่ทำให้ Expedia Group มีจุดเด่นที่ต่างจาก Booking Holding
เดี๋ยวตอนหน้าจะมาเขียนต่อ แบรนด์ Agoda & Booking.com

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา