20 ก.ค. 2020 เวลา 15:29 • สุขภาพ
++BREAKING++
วัคซีน COVID-19 ของอังกฤษได้ผลดีคาดพร้อมใช้ต้นปีหน้า
วัคซีน COVID-19 ของอังกฤษได้ผลดีคาดพร้อมใช้ต้นปีหน้า : AP
AstraZeneca บริษัทยาและชีวเภสัชภัณฑ์ของอังกฤษ-สวีเดนได้ตีพิมพ์งานวิจัยวัคซีน COVID-19 ที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในวารสาร The lancet ซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
ข้อมูลนี้เป็นผลจากการทดสอบระยะที่ 1และ2 ร่วมกันในอาสาสมัคร 1,077 คนครับ ซึ่งใน
จำนวนนี้มี 543 ที่ได้รับวัคซีน ChAdOx1 nCoV-19 หรือชื่อใหม่ที่ตั้งตามบริษัทยาคือ
"AZD1222" ที่ทีมวิจัยพัฒนาขึ้น ส่วนที่เหลือจะได้วัคซีนที่เป็น control เพื่อเปรียบเทียบว่าวัคซีนที่พัฒนาขึ้นให้ผลแตกต่างไปอย่างไรในแง่ความปลอดภัยและการกระตุ้นภูมิคุ้มกันนั่นเองครับ
ผลการทดสอบปรากฎว่าวัคซีนดังกล่าวทำให้เกิดอาการข้างเคียงเล็กน้อย เช่น มีไข้ ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อและปวดบริเวณที่ฉีด ซึ่งพบว่าเกิดในกลุ่มอาสาสมัครกว่า 60 %
แต่อย่างไรก็ตามอาการมักจะเป็นแค่เล็กน้อยและหายได้เอง ด้วยการได้รับ paracetamol
แบบที่การฉีดวัคซีนอื่นๆมักจะให้หลังการฉีดวัคซีน
ข้อมูลใหม่ที่น่าสนใจจากการศึกษานี้ก็คือ อาสาสมัครที่ได้วัคซีนจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกัน
ชนิดที่ป้องกันการติดเชื้อต่อเซลล์มนุษย์ไม่ให้เกิดป่วยเป็นโรค แต่ข้อจำกัดอยู่ที่ว่าการฉีดวัคซีนแค่เข็มเดียวนั้น " ไม่พอ "
1
วัคซีนเข็มที่ 2 จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อกระตุ้นให้มีภูมิคุ้มกันสูงเทียบเท่ากับผู้ที่หายป่วยจากการติดเชื้อ ซึ่งตรงนี้เป็นข้อจำกัดที่เพิ่มมาชัดเจนครับ
1
เพราะปริมาณวัคซีนที่ใช้ต่อคนจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสวนทางกับกำลังการผลิตของบริษัทยาที่มี
อยู่อย่างจำกัด และก็อาจส่งผลต่อการกระจายวัคซีนที่ไม่ทั่วถึงนั่นเอง
แต่ข้อดีที่พบก็คือมี " สัญญาณเล็กๆ " ที่บอกว่าวัคซีนชนิดนี้ไปเพิ่มการตอบสนองของเม็ดเลือดขาวชนิด T-cells ซึ่งเป็นตัวที่มาจัดการกับเซลล์ที่ติดไวรัสได้ดีครับ
เพราะคาดว่าจะช่วยให้ร่างกายจัดการกับไวรัสที่เข้ามาได้ทันท่วงทีและมีการจดจำของระบบ
ภูมิคุ้มทำให้ตอบสนองได้เร็วและป้องกันการติดเชื้อได้นานยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ AstraZeneca และ Oxford กำลังเดินหน้าวิจัยระยะที่ 3 ในอาสาสมัคร 10,000 ราย
ซึ่งเก็บข้อมูลในอังกฤษและที่บราซิล นอกจากนี้ยังวางแผนจะทดสอบในสหรัฐที่ซึ่งมีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ณ ขณะนี้เพื่อตอบคำถามสุดท้ายที่ต้องการว่า...
ภูมิคุ้มกันที่เพิ่มขึ้นจากวัคซีนจะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้จริงหรือไม่ ?
ซึ่งข้อมูลจากการทดลองระยะ 3 คาดว่าจะรู้ผลในช่วงปลายปีครับ และวัคซีนน่าจะพร้อมใช้
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2021
References :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา