Post 38 : ซุปเชอร์รี่ กินเย็นๆใจในฤดูร้อน
ป.ล. ไม่อ่านแค่จิ้มคลิปดูก็ยังดี น่ารักน่าตีบอกเลย😁
.
ความสนุกที่สุดในการใช้ชีวิตต่างแดนสำหรับแม่ป๋อมคือการได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ ๆ ที่ดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด
เพราะวัฒนธรรม .. คำนี้ครอบคลุมหลากหลายประเด็น .. อีกทั้งยังมีความหมายในเชิงกว้าง และลึก
แต่มุมที่แม่ป๋อมชอบเอาตัวเองเข้าไปคลุกคลีที่สุดดูเหมือนจะไม่พ้นเรื่องกิน 😆
ไปประเทศไหน เมืองอะไร ไม่ว่าจะแวะเที่ยวหรืออยู่นาน ก็ขอให้ได้รู้จักร้าน เห็นหน้าตาอาหาร มีโอกาสกินเมนูพื้นบ้านของเมืองนั้น ๆ .. นอกจากวัตถุประสงค์หลักในการไปถ้ามีแล้วก็ แค่นี้เลยที่ต้องการ
ส่วนที่เยอรมนี .. ขนาดอยู่มาแล้วหลายปี ก็ยังมีอาหารหลายชนิด เมนูใหม่ ๆ ที่น่าสนใจทั้งวิธีการและเรื่องเล่ามาให้ได้รู้จัก ชิม หรือได้ทดลองทำเองอยู่เนื่อง ๆ
อย่างเช่นเดือนก่อน เป็นช่วงต้นฤดูร้อน ตามร้านค้าเริ่มมีผลไม้ตระกูลเบอร์รี่วางขาย
ส่วนในสวนหลังตึกที่เราเช่าอยู่ ก็มีต้นเชอร์รี่ใหญ่ ที่ออกลูก สุกและดกเต็มต้น.. แบบนี้ทุก ๆ ปีในหน้าร้อน
ถึงจะเป็นเชอร์รี่พันธุ์พื้นบ้าน ลูกเล็ก เมล็ดค่อนข้างใหญ่ ให้รสหวานอมเปรี้ยว แถมปนฝาดติดปลายลิ้น
ไม่หวานชื่นใจเหมือนเชอร์รี่แบบที่นำเข้าไปขายในบ้านเรา หรือวางขายในตลาดเยอรมัน
สำหรับฝรั่งเพื่อนบ้าน ไม่มีใครสนใจ เหมือนกับจะให้ค่าเจ้าเชอร์รี่พันธุนี้เท่ามะยม มะเดื่อ ตะขบ กระทกรกก็ไม่ปาน
เพราะถ้าเชอร์รี่พวกนี้จะออกลูกเยอะ สุกแล้วจะเน่า หล่นเกลื่อนพื้นก็เชิญตามสบาย .. นกกาจะกินก็กินไป แต่สำหรับคน .. ไม่มีใครสนใจ ไม่อร่อยคุ้มค่าพอที่จะเสียเวลาไปเก็บกิน
ส่วนครอบครัวไทยแท้อย่างเรา... ที่มะละกอ ส้ม กล้วยเป็นของเบ ๆ และถึงเชอร์รี่หลังบ้านจะมีตำหนิอย่างที่เล่าไป.. แต่เชอร์รี่ก็ยังคงเป็นเชอร์รี่ มองมุมไหนก็มีคุณค่า คู่ควรแก่การหาเวลาไปเก็บมาไว้ครอบครอง 😆
ปีก่อนนี้ แม่ป๋อมพยามเก็บมากินสดให้มากที่สุด จากนั้นจึงมาแปรรูป ทำแยม หรือแช่แข็งไว้ทำขนม ไม่ก็ปั่นกินกับกล้วย เป็นสมูทตี้ผลไม้ไว้ดื่มช่วงหมดฤดูแล้ว .. แบบนี้ก็พออาศัยมีเชอร์รี่ปลอดสารพิษกินไปได้หลายเดือน
แต่ปีนี้ มีเพื่อนร่วมงาน ที่บ้านเธอมีต้นเชอร์รี่ใหญ่ ออกลูกดกเหมือนกัน ..
เธอทำเมนูเชอร์รี่สีแดง ทั้งหน้าตาดีและแปลกแบบที่เห็นในคลิปมาให้ .. แม่ป๋อมเลยได้จังหวะ อาศัยเชอร์รี่ที่เก็บจากต้นของเรา ทำเมนูเดียวกันนี้ให้สมาชิกที่บ้านลองชิมดูบ้าง
เพื่อนบอกวิธีการแถมเล่าเกร็ดเล็ก ๆ น่าสนใจของเจ้าเมนูนี้ ให้แม่ป๋อมมาเล่าต่อให้ฟังว่า ...
เมนูนี้มีชื่อว่า Kirschsuppe หรือซุปเชอร์รี่
เป็นหนึ่งในซุปประจำฤดูร้อนยอดนิยมสมัยเมื่อเธอยังเด็ก ราวกว่า 40 ปีก่อน ... โดยเฉพาะทางตอนเหนือ และตะวันออกของเยอรมนี
ยิ่งช่วงปิดเทอม ที่ตรงกับฤดูร้อน เป็นหน้าเชอร์รี่สุกกำลังเก็บ .. บ้านคุณย่า คุณยาย จะมีเมนูนี้ขึ้นโต๊ะต้อนรับหลาน ๆ เป็นประจำ
แม้ว่าเยอรมันมีซุปหลากหลายชนิดนับไม่ถ้วน แต่ซุปเชอร์รี่แบบนี้ถือเป็นเมนูอาหารกลางวันหรือค่ำแบบที่ให้รสออกหวาน แถมยังได้ความสดฉ่ำของผลไม้ .. กินแล้วเบาสบายท้อง เหมาะกับฤดูร้อนมากกว่าเมนูอาหารคาว หรือซุปแบบอื่นที่มีเนื้อสัตว์เป็นวัตถุดิบหลัก
ประวัติเป็นมาอย่างไรไม่มีใครทราบ แต่น่าจะเกิดขึ้นจากการมองเห็นคุณค่าของพืชผักผลไม้หาง่าย ตามฤดูกาล ที่ทุกบ้านหรือแม้แต่ตามป่าในที่สาธารณะ ที่ขึ้นเอง .. นำมาปรุงเข้ากับวัตถุดิบอื่น ๆ ที่มีติดบ้านอยู่แล้ว .. และได้อาหารจานอร่อยประจำฤดูไว้กิน จนเป็นวัฒนธรรมสืบต่อกันมา
เพื่อนแนะนำเพิ่มว่า .. จริง ๆ แล้วเราควรต้มเชอร์รี่ทางที่ดีค้างคืนแล้ววางไว้ในที่เย็น .. เมื่อจะกินให้ต้ม Grieß (แป้งขาว ๆ ที่เห็นในคลิป) ตักหยอดเป็นลูกเล็ก ใส่ในซุป โดยไม่จำเป็นต้องนำมาอุ่นอีก เพราะเมนูนี้จะเสิร์ฟเป็นซุปแบบเย็น แต่ใครจะกินแบบอุ่น ต้มเชอร์รี่ ใส่ Grieß เสร็จแล้วตักกินเลยก็ไม่ผิดอะไร
.
ด้วยว่าโพสต์นี้เริ่มยาว .. แต่ยังมีเรื่องที่ต้องขยายความ ทั้งวิธีการทำ และอธิบายเจ้าวัตถุดิบอย่าง Grieß ที่น่าจะไม่ใช่สิ่งคุ้นเคยในครัวไทย .. เพิ่มเติม
ซึ่งแม่ป๋อมยกไปเล่าที่นี่ ..
.
สำหรับโพสต์นี้จบแค่นี้ค่ะ 🥰
📚 บันทึกสั้น ๆ บันทึกหนึ่งในหน้าร้อนเมื่อครั้งปุญยังเป็นเด็กจิ๋ว ..นอนมองฟ้ากลางไร่สตรอร์เบอร์รี่ ..
📚 FB Fanpage: Poon Station Fanpage
🎞️ ยูทูปของเรา กับคลิป กิจกรรมเย็นวันอาทิตย์ พาดูต้นเชอร์รี่ อีกต้นที่เป็นโรคและเกือบโดนตัด อวดแปลงผักที่ไร้การดูแลของแม่ป๋อม😝
.
🌸ขอบคุณที่ติดตาม
🌸ขอให้ทุกวันเป็นวันดี ๆ ของทุกคน พบกันใหม่โพสต์ถัดไปค่ะ 😊
.
ป. ล. แม่ป๋อมยกโพสต์นี้มาปักหมุด ถ้าใครเพิ่งเข้ามาอ่าน อยากรู้จักกันมากขึ้นเชิญที่โพสต์แรก แนะนำตัว เลยค่ะ