29 ก.ค. 2020 เวลา 22:55 • ไลฟ์สไตล์
วิธีการ บวก ลบ ลบ บวก ลบ
วันนี้ขอมาแชร์ประสบการณ์โดยส่วนตัวเวลาตอบคำถามบางอย่าง หรืออยากให้คนอื่นช่วยเหลืออะไร หรือการ Feedback น้องในการพัฒนา ซึ่งแต่ละคนทำงานก็คงมีรูปแบบมีสไตล์ที่แตกต่างกัน ซึ่งผู้อ่านแต่ละท่านก็คงได้ยินหรือได้อ่านสไตล์การพูดที่ดีทั้งแบบ
สั้น กระชับ ตรงประเด็น ไม่อ้อมค้อม
พูดแบบเชิงบวก เน้นการพัฒนา รักษาน้ำใจ
ยกเหตุผลประกอบโน้มน้าวมากกว่าพูดโดยใช้อารมณ์
เพราะการพูดยาวๆ อ้อมโลก ก็อาจจะไม่ถูกสไตล์คนฟัง หรือทำให้ตีความแตกต่างกันออกไป
ทั้งนี้โดยส่วนตัวผมก็มีอีกรูปแบบที่เป็นสไตล์ที่ไม่ได้ดีมาก (เห็นต่างได้เช่นเคย) และไม่แน่ใจว่าไปได้เรียนมาจากไหน เพราะลืมไปแล้ว Q(-_-")Q และได้ปรับเป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่ติดตัวไปแล้ว คือวิธีการพูดแบบ
"บวก ลบ ลบ บวก ลบ" อาจจะงง
ขอยกตัวอย่างเลยซัก 3 แบบ ในการปฏิบัติจริง
รูปแบบที่ 1 เวลาปฏิเสธงานที่แทรกเข้ามาในแต่ละวัน เป็นงานแบบโทรมาทางโทรศัพท์ อารมณ์แบบมาด่วนมากๆ ในมุมคนที่โทรมา (ส่วนใหญ่มาถึงผมด่วนที่ผมเกือบทุกที...อดอมยิ้มไม่ได้) (ปกติผมก็ตอบสั้นๆ นะครับแบบ ได้ครับ/ไม่ได้ครับ เพราะ.....บลาๆๆ แต่บางครั้งก็มีใช้ตอบแบบยาว) ซึ่งส่วนใหญ่ก็ทำให้นะครับ แต่ขอมีเวลาทำงาน ถ้าตอบแบบรูปประโยค + - - + - ก็
+ ช่วยทำได้ครับ ยินดีมากมาย เพราะเป็นงานด่วนเพื่อตอบรายงานขององค์กร
- ขอถามตรงๆ นะครับ ด่วนแบบต้องทำให้ในวันนี้ไหมครับ เข้าใจในความสำคัญ แต่ผมเองแต่ละวันก็มีงานและมีประชุมที่อยู่ในแผน
- ดังนั้นอาจไม่สามารถทำให้ได้ในวันนี้ และผมเข้าใจว่าเป็นการโทรคุยมาก่อน แต่สุดท้ายในเรื่องเอกสารต่างๆ ทำส่งตามมา เพื่อให้มีข้อมูลชิ้นงานเก็บอ้างอิงในระบบ
+ทั้งนี้ผมขอใช้เวลาทำประมาณ.....และรีบส่งให้ครับ
- ครั้งหน้าถ้ามีเนื้องานอื่นอีกประมาณนี้ สามารถประสานหรือคุยเกริ่นประชุมล่วงหน้าไม่เป็นทางการได้ เพราะบางครั้งการเร่งทำอาจจะมีผิดพลาดในเชิงข้อมูลที่ต้องการกระชั้นชิด
รูปแบบที่ 2 เวลาอยากให้น้องๆ พัฒนาในบางมุมเพิ่มเติม
+ ปีที่ผ่านมาผลงานทำได้ดีนะ พี่ได้ข้อมูล Feedback จากคนรอบข้างมีมุมชมในหลายๆ ด้านเลย
- จากผลประเมินเบื้องต้นน้องว่า มีประเด็นอะไรที่มองว่ายังต้องเสริมเพิ่มเติมที่อยากพัฒนาในปีหน้าไหม
- เดี้ยวพอรับทราบคะแนนประเมินเรียบร้อยแล้ว พี่จะคุยถึงกรอบงานใหม่ ที่จะมีมุมโครงการใหม่ที่จะเป็นความท้าทายมากขึ้นและมีในบางทักษะที่น้องต้องเตรียมเพิ่มเติมเพื่อไปรับโครงการดังกล่าวนะ
+ พี่ไม่บังคับช่องทางที่น้องถนัดในการเรียนรู้พัฒนาทักษะใหม่ ถ้าต้องการให้สนับสนุนเรียนรู้เพิ่มเติมพัฒนาส่วนใดแจ้งพี่ได้เลย ให้ไปลองผิดลองถูกเองก่อน
- ถ้าผ่านไป 1 -2 เดือนถัดจากนี้แล้วสิ่งที่น้องอยากลองผิดลองถูกพัฒนาเองแล้วติดอะไร บางทีพี่จะขอเข้าไปแทรกแซงช่วยเหลือนะ
รูปแบบที่ 3 เวลาต้องการทีมงานมาสนับสนุนทำงานโปรเจคใหม่
+ท่านน้องสนใจมารับโปรเจคใหม่ทำงานกับพี่ไหม พี่เชื่อว่าท่านน้องจะมาเติมเต็มสนับสนุนพี่ และงานองค์กรได้เป็นอย่างดี
- พี่เข้าใจว่ามุมน้องก็ตอบปฏิเสธพี่ยาก เพราะพี่มาขอให้ช่วยงานเพิ่ม และน้องก็มีงานหลายๆ อย่างที่ต้องบริหารจัดการ
- ไม่รวมถึง ปัญหาใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น รวมถึงปัญหา เทาๆ ที่ต้องตัดสินใจมากมาย
+ ยังอยากมาช่วยงานพี่ไหม ถ้าโครงการนี้สำเร็จประโยชน์ที่ได้จะไม่ใช่แค่ระดับหน่วยงานแต่ต่อยอดระดับองค์กร หรือเป็นต้นแบบให้องค์กรอื่นๆ ได้ และพี่จะช่วยเกลี่ยงานในบางส่วนที่น้องถือไว้ เพราะบางทีการเปลี่ยนวิธีการบริหารจัดการอาจทำให้พอมีเวลามาทำโครงการนี้เพิ่ม
- แต่ถ้าอยากปฏิเสธ ปฏิเสธได้เลยนะครับ เคารพในการตัดสิน
อ่านจบ ผมเองก็เป็นหัวหน้า มีหัวโขนในการบริหารมอบหมายงาน ดังนั้นวิธีการใช้คำพูดของผมต้องมีคนไม่ถูกใจบ้างแน่นอน แต่ในการทำงานให้องค์กรส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับเรื่องทำงานเพื่อให้คุ้มค่ากับค่าตอบแทนและเพื่อความคงอยู่ขององค์กร ดังนั้นผมเองในหมวกหัวหน้างานระดับต้นก็อยู่ระหว่างกึ่งกลางของแฮมเบอร์เกอร์ความคาดหวังของผู้บริหาร และความต้องการของบุคลากรครับ
โฆษณา