3 ส.ค. 2020 เวลา 22:55 • ไลฟ์สไตล์
เป็นตัวเองอย่างไร
ให้รู้สึกว่าโอเค
คุณภูมิใจในความเป็นตัวเองไหมครับ ภูมิใจในผลการการตัดสินใจที่ตัวเองเลือก และยอมรับในสิ่งที่ตัดสินใจ วันนี้ผมมีประสบการณ์ผ่านความติสท์ส่วนตัวของผม ที่กว่าจะมาถึงตัวผมในปัจจุบันและทำให้ผมรู้สึกว่าตอนนี้ผมรู้สึกว่าโอเค
ผมขอเล่าผ่านสไตล์การแต่งตัวและของใช้ต่างๆ ของผม (อาจมีคิดเหมือน ไม่เหมือนคนทั่วไป) แต่เป็นสิ่งที่ผมว่ามันโอเคกับผมในบริบทปัจจุบันที่สุดละ ขอยกตัวอย่างผ่าน 5 แบบแล้วกัน
1. กระป๋าใส่เงิน ผมเป็นคนที่ไม่ชอบให้เวลาเอากระเป๋าใส่เงินใส่กางเกงแล้วกางเกงป่อง บวมมากๆ ผมเลยลองผิดลองถูกผ่านกระเป๋าเงินมาทุกรูปแบบ ลองทั้งแบบยาว แบบสั้น แบบใช้คลิปหนีบเงิน บลาๆ บางทีได้เจอกระเป๋าบางใบก็บางมากแล้วแต่มีเม็ดแบบกระดุมทำให้มันไม่เรียบ (ก็รู้สึกยังขัดใจ)
ผมว่าทั้งชีวิตน่าจะมีกระเป๋าเงินที่ซื้อ...ไม่ได้ใช้...คนอื่นให้..ไม่ได้ใช้....และเอาไปบริจาคมากมาย...สุดท้าย.....สิ่งที่ผมเลือกไว้ใส่ธนบัตร...กลายเป็นซองใส่แป้งพัฟครับ....เป็นซองที่ใส่แบงค์ได้มากมาย...และไม่ทำให้กระเป๋ากางเกงบวมด้วย....ทำให้เวลาไปทำงานกระเป๋ากางเกงด้านนึงเป็นสำหรับมือถือ อีกด้านนึงคือซองแป้งพัฟที่ใส่แต่แบงค์ล้วนๆ ส่วนถ้ามีเหรียญระหว่างเดินทางก็ใส่กระเป๋าเสื้อครับ.....จบและทำให้ไม่ได้ซื้อกระเป๋าใส่เงินใหม่มานานหลายปีแล้ว...เพราะรู้สึกว่าตอนนี้โอเคตอบโจทย์ละ
2. กระเป๋า สะพายเหมือนข้อ 1 เป๊ะเลย ต้องการกระเป๋าที่เบาที่สุด ช่องเก็บของที่น้อยที่สุดที่เพียงพอกับของที่ใส่ ความยากของข้อนี้คือการหากระเป๋าที่เบาที่สุด สุดท้ายผมถึงมาเจอกระเป๋าผ้าที่เป็นสะพายผ่านการดึงเชือก (ผมเคยหากระเป๋าเป้เชือกมากมาย แต่เชือกส่วนใหญ่ไม่เล็กไปจนสะพายแล้วเจ็บ ก็ใหญ่แบบเป็นแถบผ้ากว้างๆ ซึ่งกว่าจะเป็นมาเจอสายที่เหมือนเชือกแต่ไม่ใช่เชือก เป็นวัสดุคล้ายพลาสติกขึ้นรูปแล้วทาสีดำเป็นเชือก)
เป็นกระเป๋าที่เพียงพอให้พก Notebook และมีช่องใส่บัตรสำคัญต่างๆ ทำให้ตั้งแต่ได้กระเป๋าใบนี้มา ถึงเจอกระเป๋าอื่นที่น่าสนใจ แต่ในเรื่อง ความเบา การแบกนานแล้วไม่เจ็บบ่า และช่องเก็บของที่น้อยที่สุดที่พอเพียงและพอดีกับของที่ใส่ก็ยังไม่เจอใบอื่นมาทดแทนได้
3. รองเท้าทำงาน ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบใส่รองเท้าตลอดเวลาเพราะรู้ว่าไม่สบายเท้าและเท้าเหม็น และการใส่รองเท้าแตะก็น่าเกลียดในการทำงาน ส่วนรองเท้าผู้ชายที่ขายแบบเปิดส้น ก็จะทำให้ให้มีขอบตรงส้นขึ้นมาที่ถ้าเดินและเหยียบไปโดนก็จะเจ็บ สุดท้ายเลยเป็นการสั่งตัดกับร้านประจำ ที่สามารถทำรองเท้าให้เป็นรองเท้าหนังแบบสุภาพแต่ข้างหลังไม่มีส้น (อารมณ์คือรองเท้าแตะหนังที่ด้านหลังเวลาใส่กางเกงแล้วขากางเกงจะมาปิดตรงช่วงรองเท้าด้านหลังพอดี) และตัดมาแบบว่าเดินแล้วไม่มีเสียงแบบรองเท้าแตะ และไม่มีขอบด้านหลังให้เดินแล้วเจ็บ ทำให้ไม่เคยซื้อรองเท้าร้านอื่นเลยนอกจากร้านนี้เป็นสิบปีแล้ว
4. Notebook เป็นคนที่เวลาเลือกซื้อ Notebook ส่วนตัวจะเป็นคนเรื่องมากมาก เพราะต้องเบาเท่านั้นเพราะเป็นคนที่ไม่ชอบแบกของหนักๆ เลย ดังนั้นบางทีเช่นเครื่องที่ใช้ปัจจุบันไม่ใช่เครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่เป็นเครื่องที่ผมรีดความสามารถได้มากสุด เครื่องที่ใช้พกพาจึงอยู่ที่หน้าจอ 10-12 นิ้วเท่านั้น ที่มันจะเล็กมาก แต่ด้วยเนื้องานส่วนใหญ่ก็สามารถทำงานผ่านคอมองค์กรได้ ที่บ้านก็มีคอมสำรอง ดังนั้นคอมที่พกพาคือการที่สามารถเดินไปเดินมาที่ห้องประชุมต่างๆ พร้อมนำเสนอ พร้อมหาไฟล์ สามารถรีโมทกลับคอมที่ทำงานได้ แก้ไขงาน หรือใช้สื่อสารแก้งานเล็กๆ น้อยๆ และไม่ต้องพกสายชาร์จในกระเป๋า
แต่กำลังจะเปลี่ยนรุ่นใหม่แล้วเพราะใช้มานาน ไม่พูดถึงมือถือเพราะเดี้ยวนี้ถ้าซื้อรุ่นไหนมาจะไม่ใส่เคส และไม่ปิดฟิล์มกันรอย ซึ่งใช้ไปมันก็เยินเรื่อยๆ นะครับ แต่รู้สึกว่า อยากใช้ในแบบที่ผู้ออกแบบออกแบบมาให้เลย (ส่วนหนึ่งคือไม่ซื้อมือถือเครื่องเกินหมื่นด้วย แล้ว 1-2 ปี ก็เปลี่ยนอยู่แล้ว และหลังๆ เปลี่ยนมือถือก่อนที่มือถือจะพังเองด้วย)
5. มีคนชวนผมวิ่งออกกำลังกายครับ เพื่อสุขภาพในวัยที่อายุใกล้ 40 ผมเองก็เหมือนข้อ 3 เรื่องรองเท้า สุดท้ายผมใช้รองเท้าแตะเพื่อสุขภาพวิ่งครับ สำหรับผม ผมว่ามันใช่ที่สุดแม้ใครจะว่าอย่างไรก็ตาม (แต่ได้ลองค้นตาม google ก็มีรองเท้าแตะใช้วิ่งนี้นา...แปลว่าเราไม่ได้แปลกที่สุด) ส่วนเรื่องเกี่ยวกับเสื้อผ้า ผมก็เหมือนตัวละครในกระตูนบางเรื่อง ที่ใส่เสื้อยืดสีเดียวไม่มีลาย ไม่มี logo ตลอดเวลา กางเกงก็มีใส่อยู่ ไม่กี่แบบวนกันไป ทำให้แทบไม่ต้องคิดเรื่องวันนี้ใส่เสื้อผ้าสีอะไร
ประเด็นวันนี้ ผมว่ามุมมองของแต่ละคนจะแตกต่างกัน ดังนั้นผมเคารพในความแตกต่าง
ในบทความนี้การที่ผมรู้สึกโอเค คือการที่ผมรู้ว่า อะไรคือ โจทย์ปัญหาที่ทำให้ผมไม่พอใจในสิ่งนั้น และผมแสวงหาสิ่งบางอย่างเพื่อมาตอบโจทย์สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นปัญหา ซึ่งปัญหาแบบผมคนอื่นอาจไม่ได้เห็นว่าเป็นปัญหาก็ได้ แต่สำหรับผมเมื่อปัญหานั้นได้ถูกแก้ไข ผมก็เลยรู้สึกโอเคและภูมิใจที่ได้แก้ปัญหาในเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจให้ผ่านไปได้
ผมโอเคกับตัวผมในวันนี้มาก ถ้ามีโอกาสผมเชื่อว่าผู้อ่านทุกท่านก็กำลังหาวิถีการที่จะโอเคกับทุกๆ อย่าง ที่ทุกๆ ท่านเป็นครับ
โฆษณา