4 ส.ค. 2020 เวลา 22:55 • ไลฟ์สไตล์
เรียนรู้ความสำเร็จคนอื่น
มีจุดอะไรน่าสนใจ
ผมเป็นคนหนึ่งที่ในแต่ละเดือนจะเข้าร้านหนังสือ และอ่านหนังสือใหม่ที่วางขาย บางเล่มก็เคยยืนอ่านอย่างเดียวจนจบแล้วซื้อกลับ เพราะรู้สึกว่าเล่มนี้ได้ให้ความรู้อะไรที่ควรจ่ายเงินเป็นค่าความรู้ และจะส่งต่อหนังสือที่ซื้อให้กับคนรู้จักที่สนใจหากอยากนำไปอ่าน (สิ่งที่ควรระวัง คือ การให้หนังสือในบางมุมความเชื่ออาจถูกตีความในทางลบ จึงต้องสื่อสารให้ชัดเจนก่อนให้หนังสือนั้น) และมีบางเล่มที่เปิดและอ่านคร่าวๆ แล้วรู้สึกว่าแก่นของเรื่องไม่ได้แตกต่าง หรือต่อยอดจากที่เรียนรู้ก็ไม่ได้อุดหนุนหนังสือเล่มนั้น
สิ่งหนึ่งที่ผมเรียนรู้และเป็นจุดน่าสนใจของการอ่านหนังสือมากมาย (อาจมีความเห็นเหมือน เห็นต่างได้เช่นเคย)
1. เนื่องจากการเขียนหนังสือให้น่าสนใจ เคล็ดลับต่างๆ ในหนังสือจะเป็นผลลัพธ์ของคนที่สามารถทำเรื่องนั้นได้สำเร็จจนเป็นที่ยอมรับ ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นความสำเร็จที่ต้องผ่านประสบการณ์ลองผิดลองถูกมากมายโดยกลั่นมาเป็นเคล็ดลับชุดความรู้ และผู้เขียนส่วนใหญ่จะอายุมากแล้ว อายุน้อยก็พอมีบ้าง (แต่ส่วนใหญ่จะอายุมาก)
2. ผู้อ่านเองเวลาอ่านส่วนที่จะจำได้ และนำไปใช้ คือส่วนของเคล็ดลับที่ประสบความสำเร็จแล้วของผู้เขียน ต่างจากส่วนช่วงเวลาที่ผิดพลาดต่างๆ ช่วงลองผิดลองถูก ช่วงที่ความเชื่อไม่ได้รับการยอมรับ ที่สุดท้ายผู้อ่านจะไม่ได้เข้าใจและเรียนรู้ในส่วนนี้ของผู้เขียนเท่าที่ควร
3. เวลาทำงานจึงอาจได้พบบริบท ที่จะมีคนมาให้ความเห็น หรือวิธีแก้ไขต่างๆ โดยนำรูปแบบความสำเร็จทั้งหมดในหนังสือมาอ้าง (แต่อาจไม่เคยได้ทดลองปฏิบัติจริง) โดยน้ำหนักที่อ้างจะเน้นว่าเป็นของผู้เขียนคนนี้ที่สำเร็จ อย่างนี้ จึงควรนำมาใช้ (ซึ่งไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิด เป็นการแชร์องค์ความรู้ที่ดี แต่การได้รับการยอมรับนำมาปฏิบัติเป็นอีกเรื่องหนึ่ง)
ประเด็นสำหรับผมวันนี้ในการลงมือปฏิบัติจริง ก่อนที่จะเลือกเชื่อหรือเลือกนำมาปรับใช้ ผมอยากฉุดคิดผ่านซัก 3 ข้อนี้
1. ช่วงเวลาที่ผู้เขียนได้เขียน เป็นช่วงเวลาที่สิ่งที่เชื่อ สิ่งที่ได้ลงแรงปฏิบัติเข้าถึงจุดสำเร็จติดลมบนเป็นที่ยอมรับ (แต่จริงๆ แล้วกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ในช่วงที่ยังไม่ได้รับการยอมรับ ปัญหา อุปสรรคต่างๆ ผู้เขียนส่วนใหญ่จะไม่ได้เขียนอธิบายไว้) ดังนั้นในการที่จะนำมาปรับใช้ครั้งแรก การที่จะเจอปัญหา หรือคำทัก หรืออะไรต่างๆ มากมายอาจไม่มีวิธีแก้ในหนังสือที่อ่านต้องลองหาวิธีในการผ่านไปได้เอง
2. ในแต่ละชุดความรู้ ความสำเร็จจากหนังสือแต่ละเล่มจะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย และในหนังสือแต่ละเล่มก็จะดึงในมุมข้อดีที่ทำได้สำเร็จ (เพราะผู้เขียนได้เน้นที่ข้อดีที่มุ่งมั่นทำจนสำเร็จ) แต่คุณก็อาจเจอหนังสือที่เขียนในชุดความคิดตรงกันข้ามที่สามารถทำสำเร็จได้เช่นกัน ถ้าแบบง่ายๆ ก็ (พัฒนาแบบเน้นจุดแข็ง หรือ พัฒนาเพื่อปิดจุดอ่อน) แนวคิดไหนก็ขายได้ทั้งหมด ถ้าผู้เขียนเป็นที่ยอมรับจากผลงานแล้ว
3. ถ้าคุณต้องนำมาใช้กับตัวเอง คุณต้องปรับใช้กับบริบทความเชื่อของคุณ หรือ บริบทองค์กร เพราะสุดท้ายถ้าคุณเชื่อมั่นและทำมันสำเร็จ ผลงานจากความสำเร็จของคุณ (ที่ระหว่างทางมีคนเห็นเหมือนเห็นต่าง ช่วยผลักและช่วยดัน) คุณก็จะเป็นอีกหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จในการนำไปปฏิบัติแบบฉบับของคุณ
หมายเหตุ คนที่สำเร็จและเขียนเป็นหนังสืออาจเป็นคนส่วนน้อยที่มีความเชื่อมั่น อยากสร้างผลงานอย่างแรงกล้าและได้ทำตามวิถีที่ได้เลือก ดังนั้นในนำมาปฏิบัติไม่ควรนำมาแค่เปลือกหลักการหรือคำคม แต่ควรนำมาทดลองผ่านประสบการณ์ผ่านบริบทมุมมองของเราที่เป็นผู้ปฏิบัติครับ
โฆษณา