5 ส.ค. 2020 เวลา 14:33 • ประวัติศาสตร์
“Gustavo Gaviria” มันสมอง เบื้องหลังองค์กรของ “Pablo Escobar”
หากใครได้ติดตามบทความของผมเป็นประจำ น่าจะรู้จัก “Pablo Escobar” เป็นอย่างดี เนื่องจากผมเขียนถึงเขาบ่อยๆ
เขาเป็นเจ้าพ่อยาเสพย์ติดชาวโคลัมเบีย ผู้ค้าโคเคนรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในประวัติศาสตร์และทรงอิทธิพลอย่างมาก
ตั้งแต่ปีค.ศ.1976-1993 (พ.ศ.2519-2533) เครือข่ายยาเสพย์ติดของ Escobar นั้นใหญ่ที่สุดในโลก ไม่มีใครเทียบบารมีได้
Pablo Escobar
แต่ถึงแม้ Escobar จะโด่งดังและเป็นที่รู้จักในฐานะของผู้นำองค์กรค้ายาเสพย์ติดรายใหญ่ แต่เจ้าหน้าที่จากสหรัฐอเมริกาและโคลัมเบียเชื่อว่า ผู้ที่เป็นผู้ส่งออกโคเคนและวางแผนเรื่องการเงินให้แก่องค์กร ก็คือ “Gustavo Gaviria”
Gaviria นั้นเปรียบเสมือนกับมันสมองขององค์กร เขารู้เรื่องของการทดลองยาเสพย์ติดต่างๆ แหล่งของสารเคมีที่จะนำมาใช้ทำยาเสพย์ติด เส้นทางการส่งยา รวมทั้งการจัดจำหน่ายยาเสพย์ติดในสหรัฐอเมริกาและยุโรป
1
เรียกได้ว่าเป็นเหมือนกับมันสมองขององค์กรคนสำคัญทีเดียว
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่าง Gaviria และ Escobar นั้น เรียกได้ว่าแนบแน่นยิ่งกว่าพี่น้อง คนทั้งคู่มีอายุไล่เลี่ยกัน เติบโตมาด้วยกัน สนิทกันมาตั้งแต่ยังเด็ก
ทั้งคู่นั้นเริ่มมองหาทางทำเงินในทางผิดกฎหมายมาตั้งแต่ค.ศ.1970 (พ.ศ.2513)
เริ่มแรก ทั้งคู่ร่วมกันขโมยหลุมศพไปขาย ก่อนจะขยายไปสู่การปล้นโรงภาพยนตร์ รวมทั้งจี้ปล้นรถโดยสาร
แต่ต่อมา ทั้งคู่ก็พบหนทางทำเงินที่มหาศาลกว่านั้น
นั่นคือ “โคเคน”
ในยุค 70 (พ.ศ.2513-2522) ทั้งคู่เข้าสู่วงการค้าโคเคนอย่างเต็มตัว โดยขายในโคลัมเบียและหาทางส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา
ไม่นาน อาณาจักรของ Escobar ก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
Escobar นั้นมีบุคลิกของผู้นำ มีลูกน้องที่จงรักภักดีต่อเขาจำนวนมาก หากใครขัดขืนเขา เขาก็ใช้ความรุนแรงจัดการ ในขณะที่ Gaviria นั้นจะเก็บตัวเงียบ แต่คอยบริหารจัดการทุกอย่างในองค์กร โดยเขาเป็นคนที่คอยจ่ายเงินให้ลูกสมุนในองค์กร รวมทั้งจ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่รัฐอีกด้วย
ในเวลาต่อมา เส้นทางการขนส่งยาเส้นหนึ่งขององค์กรถูกปิด แต่ Gaviria ก็หาเส้นทางอื่น และยังคิดค้นวิธีการซ่อนยา ไม่ว่าจะเป็นการใส่ในตู้เย็น โทรทัศน์ เนื้อปลา รวมทั้งผลไม้ต่างๆ เพื่อตบตาตำรวจ
ช่วงกลางยุค 80 (พ.ศ.2523-2532) ด้วยฝีมือการบริหารจัดการของ Gaviria ทำให้องค์กรของ Escobar ทำเงินได้มากกว่าวันละ 60 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,800 ล้านบาท) และมีส่วนแบ่งการตลาดโคเคนในสหรัฐอเมริกาถึง 80%
แต่ต่อมา ในปีค.ศ.1990 (พ.ศ.2533) Gaviria ก็ได้ถูกตำรวจยิงตายขณะมีอายุได้ 41 ปี
เมื่อขาดมันสมองคนสำคัญ องค์กรที่ยิ่งใหญ่นี้ก็อยู่ได้อีกเพียงสามปี ก่อนจะสิ้นสลายด้วยการตายของ Escobar
โฆษณา