17 ส.ค. 2020 เวลา 11:57 • ท่องเที่ยว
จากคุณหมิงถึงซีอาน จุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหม
รถไฟขบวน K166 ค่ารถแบบhard sleeper ราคา413หยวน(จองจากกรุงเทพ)ออกจากสถานีรถไฟคุนหมิงเวลา 19.40 น.
การนั่งรถเมล์ไปสถานีรถไฟคุนหมิงสะดวกสบายมากๆถึงจะมีสัมภาระเยอะ เพราะรถเมล์ที่คุนหมิงค่อนข้างโล่ง พนักงานขับรถในจีนก็มีระเบียบวินัยดี ฉันไปถึงสถานีรถไฟก่อนเวลามากๆ แต่ก็เป็นการดีเพราะการไปขึ้นรถไฟที่จีนต้องผ่านการตรวจตั๋ว ตรวจกระเป๋าอย่างน้อยที่ก็1ครั้ง ที่สำคัญคือประชากรจีนนั้นมหาศาลอาจจะต้องรอคิวนาน และอาจทำให้ตกรถได้ง่ายๆ
ตู้รถไฟแบบhard sleeperจะเป็นเตียงนอน3ชั้น การจองต้องแล้วแต่ดวงว่าจะได้อยู่ตรงไหน คราวนี้ฉันโชคไม่ดีได้นอนเตียงกลาง นั่งตรงๆก็ไม่ได้เพราะหัวติดเพดาน รถเริ่มออกได้ซักพักใหญ่กลิ่นบุหรี่ก็เริ่มโชยมา ฉันซึ่งเพิ่งจะสร่างไข้ยังไม่หายดีก็เริ่มมีอาการไอ ต้องเริ่มกินยาจีนที่ซื้อทีคุนหมิงอีกครั้ง ผู้ชายจีนนี่สูบบุหรี่กันสาหัสมาก ที่แย่ไปกว่านั้นคือในรถไฟอนุญาติให้ไปสูบตรงช่วงรอยต่อระหว่างโบกี้ได้ แต่ทั้งขบวนเป็นรถแอร์ หน้าต่างปิดหมด ควันก็จะเข้ามารมอยู่ในโบกี้ตลอดเวลา ตลอดเวลา35ชั่วโมงบนรถไฟขบวนนั้นมีแต่ความทรมานเพราะฉันไออย่างหนักจนแสบปอด มีเสมหะมากและข้น เป็นไข้และอยากอาเจียน หูอื้อจนไม่สามารถฟังเพลงได้เลย เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ไอหนักมากขนาดนี้ และอาการแบบนี้สมควรที่จะนอนนิ่งๆอยู่บ้านมากกว่าเดินทาง ฉันไม่ได้หลับเลยเพราะตั้งหน้าตั้งตาไอทั้งคืนถึงเช้าทั้งสองคืน และครั้งนี้ก็ต้องแปลกใจในความดูดายของคนจีนในขบวนนั้นรวมถึงเจ้าหน้าที่ เพราะไม่มีใครเข้ามาถามไถ่หรือแสดงความมีน้ำใจสักคน แต่โชคยังดีบ้างเมื่อใกล้จะถึงซีอานคนลงจากรถไปเยอะพอสมควรกลิ่นบุหรี่จึงค่อยจางไป เมื่อถึงสถานีรถไฟซีอานก็รู้สึกโล่งใจที่จะได้หายใจเต็มปอดเสียที
โฮสเทลที่ฉันเลือกที่คุนหมิงบรรยากาศโดยรวมดูดี ห้องรับรอง นั่งเล่นก็น่าสบายเป็นแบบกลาสเฮ้าส์ แต่ห้องรวมที่ฉันอยู่กลับไม่มีหน้าต่าง มี4เตียงและฉันเป็นผู้หญิงคนเดียวในห้องหลังจากจัดของและนั่งพักเพื่อรอไปกินมื้อกลางวัน พ่อหนุ่มDarrelชาวสิงคโปร์ในห้องก็ชวนออกไปหาอะไรกินพร้อมเพื่อนชาวจีนที่จะมารับ แล้วเราก็ไปหยุดอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังแถวที่พัก คนเสิร์ฟจัดขนมปังกลมๆมาให้3ชาม ชามละ2แผ่น แล้วเราก็ค่อยๆบิแป้งใส่ชามตัวเอง คุยกันไปแบบไม่รีบร้อนจนฉันคิดว่ามันเหมาะกับการมานั่งจีบกันมากเลย บิแป้งแค่ชิ้นเดียวฉันก็รู้ตัวว่าไม่มีทางกินหมดแน่ เสร็จแล้วก็เรียกบริกรมาเอาขนมปังเพื่อไปใส่น้ำซุปเพื่อทำก๋วยเตี๋ยวมาให้เราอีกที น้องเขาเล่าถึงตำนานในว่าสมัยก่อนการเดินทางในจีนยากลำบากและคนก็ยากจนมาก เวลาเดินทางมักอาหารที่พกเป็นเสบียงก็คือขนมปัง เมื่อนานหลายวันเข้ามันก็ทั้งแห้งทั้งแข็ง จนเวลากินต้องบิใส่น้ำซุปเพื่อเพิ่มปริมาณให้อิ่มท้อง ซึ่งมันก็อิ่มมากจริงๆ สองหนุ่มนั่นกินแป้งทั้งสองในก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่จนหมดแถมเลี้ยงอีกต่างหาก
จากนั้นฉันก็ขอตัวกลับมาโฮสเทลอาบน้ำเพื่อพักผ่อน พอเอนหลังในห้องนั่งเล่นเกือบหลับก็มีหนุ่มซีอานที่คุ้นเคยกับเจ้าของโฮสเทลเข้ามานั่งคุยด้วย ในที่สุดเขาอาสาพาเที่ยวชมซีอานคืนนั้น ด้วยการพานั่งรถเมล์และเดินๆๆๆๆๆ จนไปถึงเจดีย์ต้าเอี้ยนถ่า( Big Wild Goose Pagoda) ซึ่งเป็นที่เก็บคัมภีร์พระไตรปิฎกที่พระถังซัมจั๋ง(เสวียนจ้าง)อัญเชิญมาจากอินเดีย ฉันดีใจมากที่ได้มาที่นี่เพราะในใจนับถือท่านเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และนี่ฉันก็กำลังเดินทางตามเส้นทางสายไหม การได้มาไหว้ท่านจึงเป็นนิมิตหมายที่ดี คืนนั้นกว่าจะได้ดีร่ำลาพ่อหนุ่มเรนชาวซีอานก็ปาไปเที่ยงคืนกว่า เขาส่งฉันขึ้นรถเมล์กลับเอง รวมวันนั้นเดินไปสองหมื่นก้าว ร่างกายช่างทนทายาดเกินความคาดหมายยิ่งนัก
โฆษณา