19 ส.ค. 2020 เวลา 09:09 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปการบรรยายหัวข้อ "กำไรตลาด จีดีพีไทย พบจุดต่ำสุดแล้วและเกิดอะไรขึ้นต่อ ได้เวลาลุยหุ้นไทยหรือยัง" โดยอจ.ปิง ประกิต สิริวัฒนเกตุ วันที่ 18/8/63 ของ Csi Society
- ตลาดหุ้นเริ่มซึมลงตอนนี้เพราะกำไรของบริษัทจดทะเบียนไม่ดี ไม่ใช่เกี่ยวกับเรื่อง GDP ที่เพิ่งประกาศหรือการเมืองที่ร้อนแรง
- การรายงานของ Bloomberg เรื่องการชุมนุมประท้วงรายงานว่ามีผู้เข้าร่วมชุมนุมเป็นหลักหมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น เรียกร้อง3ข้อ 2จุดยืนซึ่งดูเบาลงกว่าที่คิด คนที่เห็นด้วยค่อนข้างเยอะ เลยคิดว่าไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงบานปลาย
- ย้อนอดีตช่วงที่มีการชุมนุม เช่น ตอน กปปส. SET index ปรับลดลง 1.57% โดยภาพรวมการเมืองไม่ได้มีผลต่อ SET index มากนัก
- GDP ของไทย Q2 ติดลบ 12.2% ซึ่งเป็นตัวเลขที่คาดการณ์เอาไว้แล้ว อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้
- กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังชะลอตัวอยู่ในเดือนกรกฏาคม ซึ่งเชื่อว่าไทยน่าจะพบจุดต่ำสุดไปแล้ว ซึ่ง Q3 น่าจะติดลบน้อยลงเรื่อยๆ
- Q1 ติดลบ2% และ Q2 ติดลบ12.2% แสดงว่าต่อๆไปไม่น่าจะติดลบเกิน 6%
- กลุ่มแบงค์ควรจะฟื้นตัวเร็วที่สุด โดยในไตรมาส2 ที่รายงานนั้นพบว่ารายได้ดีขึ้นทั้งดอกเบี้ยและไม่ใช่ดอกเบี้ย, NIM ดีขึ้น แต่กำไรที่น้อยลงเพราะมีการตั้งสำรองของ NPL ซึ่งควรจะเริ่มสะสมหุ้นกลุ่มแบงค์ได้แล้วเพราะเราพบจุดต่ำสุดของ GDP
- ส่วนสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ตลาดหุ้นตกเพราะกำไรบริษัทย่ำแย่ ทำกไรได้แค่ 110,000 ล้านบาท ซึ่งตลาดได้รับรู้ไปแล้วแต่ไม่คิดว่าจะแย่ขนาดนี้ เพราะประมาณการณ์ไว้ว่าจะทำกำไรได้ 150,000 ล้านบาท
- ปรากฏว่าหุ้นกลางหุ้นเล็กที่โดนปั่นขึ้นมาอย่างร้อนแรงจากการคาดหวังและสร้าง story เฉลยผลกำไรออกมาไม่ดีเท่าที่คาด กำไรบางมากส่งผลให้มีการลด EPS เหลือ 59.5 ซึ่งในปีต่อๆ คาดการณ์จะดีขึ้นและฟื้นตัว
- ตลาดตอนนี้เป็น sideway down ซึ่งมีโอกาสที่จะเทลงมาอีกครั้ง
- Smart money index ของ S&P500 จะแบ่งการมองออกเป็นสองส่วน คือ มีเงินที่ดูโง่ๆที่เข้ามาซื้อในตลาดช่วง 9.3-10.0 น. เพื่อจะแห่เข้ามาซื้อขายกัน จากนั้นนักลงทุนที่มีความชาญฉลาดและมีสติแล้วจะเข้ามาช่วง 15-16.00 น.
- แต่ถ้า smart money เกิด divergence ซึ่งอาจจะแสดงถึงไม่ค่อยมีการ panic ซื้อ-ขายในช่วงเช้า จะไปซื้อ-ขายกันเยอะๆช่วงเย็นแทนหรือเล่นท้ายตลาด
- ตอนนี้หุ้นในภาคอาเซียนยังไม่ค่อยขึ้นเพราะไม่มีหุ้นกลุ่ม technology ซึ่งตอนนี้อาจจะเป็นโอกาสในการลงทุนหุ้นในภาคอาเซี่ยน/เอเชียได้เพราะ s&p500 overvalue มากแล้ว
สรุปตอนนี้หุ้นไทยยังไม่ใช่จุดซื้อยกเว้น 3 กลุ่มนี้ที่สามารถค่อยๆทยอยซื้อได้เพราะจะฟื้นตามเศษฐกิจ
1. Bank เช่น BBL TISCO
2. ขนส่งทางรางผูกขาด เช่น BEM AOT
3. ค้าปลีกที่อิงกับการบริโภคภายในประเทศ เช่น CPALL HMPRO
จุดซื้อที่เหมาะสำหรับการสะสมหุ้นกลุ่มอื่นๆ อาจจะมอง SET ช่วง 1200-1250 จุด
ขอขอบคุณคลิปการบรรยายจากเพจ CsiSociety ครับ
สามารถชมคลิปการบรรยายตอนอื่นๆได้จาก https://www.blockdit.com/series/5f3612cd3aca810caa8ea31f
โฆษณา