Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Career Fact
•
ติดตาม
26 ส.ค. 2020 เวลา 01:00 • ธุรกิจ
Career Fact ได้มีโอกาสไปร่วมงาน #iCreatorConference2020 และได้มีโอกาสฟังยูทูปเบอร์ชื่อดังขึ้นบรรยายภายในงาน เราขอนำเสนอเรื่องราวของ คุณบูม ธริศร ธรณวิกรัย ชายผู้ที่กินซูชิราคาเป็นหมื่น พาทัวร์คอนโดหลักร้อยล้าน เจ้าของชาแนล 'BoomTharis' ใน Youtube ที่มีผู้ติดตามกว่าหนึ่งล้านคน
#ที่มาที่ไป
เมื่อพิธีกรถามถึงจุดเริ่มต้น คุณบูมเล่าให้ฟังว่า เขาเริ่มต้นจากการผลิตวิดิโอให้กับเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์อย่าง Think of Living ซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นพื้นที่สำหรับคนที่ต้องการจะซื้อบ้าน ทว่าวันหนึ่ง เขามีความคิดที่จะสื่อสารกับกลุ่มคนดูที่ใหญ่ขึ้น ประกอบกับช่วงนั้น เขาชื่นชอบในการดู Youtube เสพทั้งเนื้อหาจากในและต่างประเทศ ทำให้เขาตัดสินใจก้าวเข้าสู่วงการยูทูปเบอร์และมุ่งมั่นว่าจะผลิตเนื้อหาที่เขาเชื่อว่ามีหลายคนก็อยากรู้ด้วยเช่นกัน
#คอนเทนต์แจ้งเกิด
สำหรับงานที่ทำให้คุณบูมเป็นที่รู้จักนั้น เจ้าตัวยกให้เป็นชิ้นที่เขาพาทัวร์คอนโดหรู ราคาร่วม 200 ล้านที่ชื่อว่า “ตึกมหานคร” โดยคุณบูมเล่าให้ฟังว่า ในขณะที่ทำงานอยู่ที่ Think of Living ทีมงานได้ผลิตเนื้อหาเกี่ยวกับตึกมหานครตั้งแต่ก่อนตึกสร้างเสร็จแล้ว อย่างไรก็ตาม ในตอนที่ทางคอนโดเปิดห้องตัวอย่างบนตึกจริง ทางทีม Think of Living ก็ได้ไปทำข่าวที่งานเปิดตัว แต่ไม่มีแพลนที่จะทำวิดิโอรีวิว ผนวกกับที่เขาอยากทำวิดีโอลงช่องยูทูบเขาพอดี จึงได้ขอกับทีมว่าอยากจะเข้าไปลองถ่ายทำเองดู โดยเชื่อว่าต้องมีคนอื่นๆ ที่อยากรู้ว่าภายในคอนโดหรู ที่ราคาสูงขนาดนี้เป็นอย่างไร จะสะดวกสบายขนาดไหน กว้างใหญ่มากไหม ซึ่งนี่เองที่เป็นจุดเริ่มความสำเร็จของยูทูปเบอร์คนนี้
#ความจริงแล้ว คุณบูม กล่าวว่า ช่องของเขาไม่ใช่ช่องอสังหาฯ เพียงอย่างเดียว เขาต้องการพูดถึงหลายๆ สิ่งที่เขาสนใจ ซึ่งการรีวิวคอนโดหรูเป็นเพียงหนึ่งสิ่งที่เข้าให้ความสนใจ เขาต้องการที่จะสื่อสารกับกลุ่มคนใหม่ๆ ที่แม้ว่าไม่ได้ต้องการจะซื้อ แต่ว่าอยากเสพไลฟ์สไตล์ตรงนี้ เขาเน้นไปที่การแชร์เรื่องราวของดีไซน์และที่มาของการตกแต่งห้อง เขาเปรียบการรีวิวคอนโดหรูเหมือนการรีวิวซุปเปอร์คาร์ แม้คนดูจะไม่มีกำลังซื้อ แต่พวกเขาต้องการเสพความรู้สึกทั้งหมดของมันผ่านวิดีโอหนึ่งตัว
เขาเล่าว่า #กลุ่มลูกค้า ที่สนใจเนื้อหาเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มีอยู่หลายกลุ่ม ซึ่งเขาเองได้แบ่งออกมาเป็นสามกลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ กลุ่มคนที่กำลังจะซื้อ กลุ่มนักลุงทุน และกลุ่มคนดูทั่วไป สำหรับกลุ่มแรก พวกเขาจะต้องการรู้ถึงปัจจัยที่จะนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจในการซื้อได้ ไม่ว่าจะเป็นค่าส่วนกลาง จำนวนที่จอดรถของโครงการ หรือขนาดของห้อง ในขณะที่กลุ่มนักลงทุนจะต้องการทราบถึงข้อมูลเชิงวิจัย เช่น Yield ขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ สถานที่ตั้งเป็นอย่างไร ส่วนกลุ่มสุดท้าย กลุ่มคนดูของ “BoomTharis” จะเป็นกลุ่มที่หลากหลาย บ้างก็สนใจเรื่องราคาและข้อมูลของคอนโด ขณะที่บ้างก็สนใจด้านดีไซน์และการออกแบบ ซึ่งเป็นการเสพจากมุมมองของผู้ที่หลงใหลในไลฟสไตล์นี้จริงๆ แตกต่างจากของคนซื้อ ที่ต้องการรู้เฉพาะข้อมูลจำเป็นสำหรับการซื้อขายเท่านั้น
เขาแนะนำ Creator ในงานว่า สำหรับการรีวิวอสังหาริมทรัพย์แล้ว เราต้องรู้ว่าใครดูเราอยู่
#กว่าจะมาเป็น1คลิป
คุณบูมแบ่งมันออกเป็น 3 ช่วง คือ ก่อนถ่ายทำ ถ่ายทำ และหลังถ่ายทำ
ก่อนถ่ายทำ เขาจะต้องเตรียมเนื้อหาทำสคริปท์ การเตรียมเนื้อหาของแต่ละชิ้นงานก็จะแตกต่างกันออกไป อย่างเนื้อหาการรีวิวอาหาร จะไม่มีความจำเป็นต้องเตรียมงานล่วงหน้ามากนัก เพราะเน้นความสดใหม่ ถ่ายทอดความรู้สึกจริงๆ ให้กับคนดู ส่วนเนื้อหาเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์จะต้องเตรียมการบ้านเยอะ เขาจะเดินทางไปสถานที่จริงก่อนเพื่อที่จะศึกษาเรื่องราว มุมเด่นต่างๆ สิ่งที่เข้าตาและอยากนำเสนอ
เขาจะเริ่มศึกษาว่า แบรนด์อยากจะเล่าอะไร เขาอยากจะเล่าอะไร และคนดูต้องการอะไร เขาจะนำมาเชื่อมโยงกัน เขาจะตัดเนื้อหาส่วนไหนที่ไม่เกี่ยวข้องออก โดยเน้นตัดเนื้อหาที่เฉพาะกลุ่มเกินไป เหตุนี้ก็เพื่อที่คนดูส่วนใหญ่จะสามารถเข้าถึงเนื้อหาของคลิปได้ง่ายขึ้น
“ผมเริ่มคิดจากตัวเองก่อนว่าอยากจะเล่าอะไร และแบรนด์อยากจะเล่าอะไร จากนั้นผมจะสวมหมวกคนดูและดูว่าอันไหนสำคัญ ถ้าเฉพาะกลุ่มเกินไป ผมก็จะตัดออก”
สำหรับการถ่ายทำคือการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในวันจริง เมื่อถ่ายทำเสร็จก็จะเข้าสู่ช่วงหลังถ่ายทำ นั่นก็คือการตัดต่อสิ่งที่ถ่ายมาทั้งหมด เขาบอกว่านักตัดต่อที่ดีจะสามารถเล่าให้คนเห็นภาพ และรู้สึกเหมือนที่เขารู้สึกในวันถ่ายทำมากที่สุด เขาจะทำงานจากสคริปท์และเสริมภาพเข้าไปตามความเหมาะสม สิ่งหนึ่งที่ช่วยเขาได้มากคือ ‘เสียง’ เขาเชื่อในเสียงมากกว่าภาพ เขาบอกว่า Sound Effects มีหน้าที่ของมัน เสียงสามารถเรียกความสนใจของคนกลับมาได้ หากเลือกเสียงได้เหมาะสมก็จะทำให้คนดูดูจนจบได้แบบไม่รู้ตัว
#BoomTharis
เมื่อถามถึงวิธีการสร้างแบรนดิ้งให้กับตัวเอง เขาตอบว่ามันเริ่มจากการที่เขาเป็นคนชอบตั้งคำถามกับเรื่องต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นการตั้งประเด็นกับสินค้าหรือการบริการที่มีราคาสูงผิดปกติ เช่น หากจะต้องรีวิวซูชิราคา 8,000 บาท เขาจะตั้งคำถามว่าทำไมถึงต้องราคานี้ และเข้าไปแล้วจะได้กินอะไร เขาบอกว่ามันคือการสร้างปฏิสัมพันธ์กับเรื่องนั้นๆ แล้วจึงค่อยนำไปเล่าต่อให้กับคนดู
เมื่อผลงานเขาได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากคนดู เขาบอกว่าเหมือนเขาได้พบกับกลุ่มคนดูที่มีความสงสัยคล้ายๆ เขา ซึ่งการเติบโตของช่องค่อยๆ ก่อตัวกลายเป็นแบรนดิ้งของคุณบูมไปเองในตัว ซึ่งในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้ว ทางแบรนด์ต่างๆ ก็คาดหวังให้เขานำเสนอภาพลักษณ์แบบ Luxury Product และเขาเองก็ต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ปรับไปตามความชัดเจนที่เกิดขึ้นระหว่างการเติบโตมาเป็น “BoomTharis”
เมื่อถามถึง #การขายสปอนเซอร์ เขาพูดว่า ขายมากเกินไปไม่มี สำหรับเขาแล้ว มีแต่การขายนานเกินไป คุณบูมยอมรับว่า เขาไม่มีข้อมูลอ้างอิงใดๆ แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวจากการเสพสื่อบ่อยๆ เขาคิดว่า คนดูจะสามารถเสพโฆษณาได้ไม่เกิน 30 วินาทีจนถึง 2 นาที หากยาวกว่านี้ก็จะทำให้คนดูเกิดคำถามว่าเมื่อไหร่จะจบ
“สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงคือ ความสม่ำเสมอในการสร้างผลงาน ซึ่งแน่นอนว่าต้องไม่ลดคุณภาพของผลงานด้วย” คุณบูมทิ้งท้าย
#careerfact
…………………………
สามารถติดตามเรื่องราวดีๆ ต่อได้ที่ Career Fact เพราะทุกอาชีพ... มีเรื่องราว (อย่าลืมกด See First เพื่อไม่ให้พลาดคอนเท้นท์ดีๆ)
Subscribe Career Fact -
https://bit.ly/CareerFactYT
Facebook -
https://bit.ly/CareerFactFB
Blockdit -
https://bit.ly/CareerFactBD
10 บันทึก
11
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Explained Article | บทความเจาะลึกแนวคิดผู้นำ
10
11
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย