27 ส.ค. 2020 เวลา 21:43 • ปรัชญา
๑๕.และ วันหนึ่งที่จะมาถึง
วันหนึ่งที่จะมาถึง แล้วความสุขในครอบครัวจะเลือนหายไป
เมื่อพ่อและแม่ได้เรียกทนายความมาเรื่องปันแบ่งมรดก
และลูก ๆ ต่างกระวนกระวายและริษยา
ต่างก็เป็นคนแปลกหน้าและสิ้นอดทน
เหลือเพียงความจำถึงความรักอบอุ่นแห่งกาลอันลางเลือน
ต่างคนต่างมีภาระในการดิ้นรนเพื่ออยู่รอด
ในระบบแก่งแย่ง กินเหลี่ยมกันทุกทิศทาง
แม้กับน้องและพี่ที่เคยอุ้มกอด ทั้งคลานตามกันมา
แล้ว วันนั้นจะมาถึง
วันที่ซากศพของบิดามารดาเป็นดุจเหมืองทองคำ
ถูกละ ครั้งหนึ่งท่านเคยเป็นเหมืองทองแห่งเมตตาและขันติ
ท่านทั้งสองนั้นงดงามและรุ่งเรืองดั่งเทพเจ้า
เป็นที่มาของความสดชื่นรื่นเริงของลูก ๆ
แท้จริง บิดามารดานั่นแล
เป็นห้วงมหาสมุทรดั้งเดิมทีแห่งคุณธรรม
ไม่มีที่ใดอบอุ่นเท่าอ้อมแขนและตักของแม่
ไม่มีน้ำพิษใด ๆ ไหลจากใจแม่มาตกต้องลูก
กอดและจูบอุ้มชูไม่รู้จักเบื่อ
ทนตรากตรำทำงานเพราะแรงเสน่หาในลูกน้อย
แต่ วันหนึ่งที่จะมาถึง
วันที่ซากศพของบิดามารดาเป็นดุจเหมืองร้าง
ลูก ๆ ของวันนี้ ได้กระทำให้ท่านเป็นวัตถุล้ำค่าประจำตระกูล
เป็นสินค้าขายดีกำไรงาม
จากหุ้นส่วนน้ำนมครั้งเยาว์วัย ปันกำไรในวันปลงศพเป็นน้ำเงิน
หลอกหลอนกันและกันยิ่งกว่าปวงผี
และวันหนึ่งที่จะมาถึง
วันที่หมู่มนุษย์ไม่มีคำว่าน้องพี่กันอีก
ทุกซอกมุมทั้งแผ่นดิน แม้ในน่านน้ำและแผ่นฟ้า
จะไม่มีที่ว่างเว้นจากการตีค่าเป็นเงิน
คุณจะสามารถซื้อทุกสิ่งได้ภายใต้ระบบนี้
อาจใช้เงินเพื่อดำรงตำแหน่งพระศาสดาบนดวงดาวนี้
อาจชุบชีวิตพ่อและแม่ขึ้นมา เพื่อให้ท่านตายสักร้อยหนเพื่อสะพัดเงินตรา
แต่ ในที่สุดคุณก็ต้องตายตามบิดามารดาของคุณไป
น้องและพี่ทุก ๆ คนค่อย ๆ อำลาเข้าหลืบ
แล้ว ลูก ๆ ของคุณจะ “จัดการ” กับคุณต่อไป
“แสงดาวและคนเดินทาง”
เขมานันทะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา