29 ส.ค. 2020 เวลา 10:04 • ท่องเที่ยว
มุ่งสู่ดินแดนตะวันตก ซินเจียง
ฉันมาถึงสถานีรถไฟ Beijing west ตั้งแต่ก่อนเจ็ดโมงครึ่ง เพื่อขึ้นรถเวลา10.00 รถไฟขบวน Z69 แบบ hard sleeper ค่ารถ566หยวน ต้นทางปักกิ่ง-อูลู่มู่ฉี (อุรุมชี) ใช้เวลาเดินทาง31ชั่วโมงครึ่ง
การขึ้นรถไฟที่จีนก่อนที่จะเข้าตัวอาคารสถานีได้ จะต้องผ่านจุดเช็คพาสปอร์ตหรือบัตรประชาชน,ตั๋วรถไฟก่อน พอเข้าไปแล้วก็ดูที่บอร์ดว่าขบวนที่จะขึ้นอยู่โซนไหน ก็ไปนั่งพักรอที่ห้องนั้น เมื่อถึงเวลา45นาทีก่อนรถออก เจ้าหน้าที่จะเริ่มประกาศแล้วผู้โดยสารก็เข้าแถวรอตรงที่กั้นเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจพาสปอร์ตและตั๋วอีกครั้ง จากนั้นก็เดินข้ามสะพานเพื่อลงไปยังชานชาลาที่ขบวนรถจอดอยู่ ที่ประตูรถไฟเจ้าหน้าที่จะคอยยืนเช็คเอกสารอีกรอบก่อนขึ้นรถไฟ ดูๆไปก็คล้ายขึ้นเครื่องบิน เท่าที่ฉันเห็นต้องบอกว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่จีนนั้นมีระเบียบวินัยมาก เวลาทำงานก็คืองานจริงๆ เดี๋ยวจะเล่าว่าเป็นอย่างไร
เมื่อขึ้นรถไฟแล้วพนักงานประจำโบกี้จะเดินมาเช็คเอกสารอีกครั้งเพื่อเอาบัตรแข็งขนาดเท่าบัตรatmมาแลกกับตั๋วโดยสารของเรา พอใกล้สถานีที่จะลงพนักงานจะมาปลุกให้เราเตรียมตัวและแลกบัตรแข็งนั้นคืน สำหรับฉันพนักงานพลิกพาสปอร์ตดูวีซ่าหน้าโน้นหน้านี้ไปมาซักพัก หลังจากนั้นหัวหน้าเขาก็มาหาฉันพร้อมถ่ายรูปพาสปอร์ตไปด้วย อีกซักพักใหญ่เขาก็เรียกฉันไปห้องหัวหน้าเพื่อถ่ายรูปปัจจุบัน ฉันคิดว่าเขาคงส่งข้อมูลไปตรวจเช็คที่ไหนซักแห่งหรืออาจคิดว่าฉันเป็นสปายหรือไร จนเกือบเที่ยงคืนขณะที่ฉันกำลังจะปีนขึ้นเตียงพนักงานก็มาขอดูพาสปอร์ตฉันอีกรอบ! รวมเป็น4ครั้งเฉพาะบนรถไฟ นี่คือประเทศแห่งการตรวจสอบอย่างแท้จริง
พนักงานรถไฟจะเดินตรวจตราอยู่เสมอ มาเททิ้งถังขยะ กวาดพื้น พอมืดค่ำเขาจะมาเดินปิดม่านที่หน้าต่างทั้งตรงทางเดินและหัวนอนเตียง ปิดแล้วปิดเลยห้ามใครเปิดเองโดยพลการเด็ดขาดจะต้องโดนดุ แต่ก็ดูเหมือนทุกคนจะรู้เรื่องนี้ดี เขาจะเปิดแง้มดูเฉพาะที่อยากรู้ว่าถึงไหนแล้วเท่านั้น ในรถไฟจะมีตู้น้ำร้อนที่ส่วนหัวหรือปลายโบกี้และปลั๊กให้ชาร์จโทรศัพท์อยู่ตรงทางเดินที่เป็นเก้าอี้ให้นั่ง ซึ่งการเดินทางนานๆแบบนี้ก็ต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีกันเป็นธรรมดา ฉันจึงต้องใช้เวลาช่วงที่คนหลับไปหมดแล้วมานั่งชาร์จซึ่งพนักงานก็จะมาสอบถามว่าคุณนอนเตียงไหนน่ะ เรื่องปลั๊กเนี่ยฉันเคยโดนดุมาแล้วตอนเอาโทรศัพท์ไปเสียบตรงอ่างล้างหน้าหน้าห้องน้ำเพราะเป็นปลั๊กที่ว่างอยู่ที่เดียว ก็ไม่รู้หรอกว่าเขาพูดอะไรแต่น้ำเสียงและท่าทางรู้ได้ว่าเอาออกเดี๋ยวนี้
เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนกะพนักงานจะเดินเป็นแถวยาวตรวจตราขบวนโดยมีหัวหน้าอยู่หน้าสุด ฉันรู้สึกว่าเขาฝึกพนักงานให้มีวินัย จริงจัง เข้มแข็ง มากกว่าแค่พนักงานดูแลผู้โดยสารธรรมดา ตอนเช้าระหว่างที่ดื่มกาแฟและชื่นชมวิวทะเลทรายอยู่นั้น ฉันเห็นหัวหน้ากำลังดุพนักงานคนนึงเรื่องพื้นทางเดินระหว่างโบกี้ไม่สะอาด เขาเอาเท้าชี้ที่พื้นจุดนั้น จากนั้นพนักงานก็ต้องเอาถังกับที่ถูพื้นมานั่งขัดๆๆๆ เห็นแล้วก็สงสาร รู้สึกขบวนนั้นหัวหน้าจะโหดเป็นพิเศษ
เวลาที่ซินเจียงจะช้ากว่าปักกิ่ง2ชั่วโมง และหน้าร้อนพระอาทิตย์จะตกประมาณ3ทุ่ม ถ้าช่วงพีคสุดก็เกือบ4ทุ่ม เช้า กลางวัน เย็น จะมีพนักงานเข็นน้ำและอาหารมาขาย อาหารบนรถไฟจะแพงกว่าปรกติบ้างแต่ก็ต้องยอมเสียเงินไป เพราะเคยเลียนแบบคนจีนที่มักหอบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นรถไฟมาแล้ว แล้วมันก็ทำให้ฉันเกือบเป็นลมเพราะไม่มีแรง และเอียนเพราะกินติดต่อกันนานหลายมื้อเกินไป ฉันจึงเลิกกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของจีนตั้งแต่บัดนั้น รถเข็นนอกจากจะมีแอปเปิ้ลแล้วก็ยังมีแตงกวา มะเขือเทศลูกเล็ก ขายเป็นแพคอีกด้วย ฉันซื้อมะเขือเทศมากินแล้วก็รู้สึกสดชื่นดีเหมือนกัน
ในทะเลทรายนั้นเวลาหนาวก็หนาวจัด ร้อนก็ร้อนจัด ที่ฉันรู้เพราะบางครั้งเคยลงไปที่สถานีระหว่างรอรถสวน แล้วไม่มีต้นไม้หรือไม้พุ่มให้หลบลมหนาวหรือบังแสงอาทิตย์อันร้อนแรงเลย ทำให้นึกถึงพระถังซำจั๋งว่าท่านเดินทางผ่านทะเลทรายอันกว้างใหญ่และโหดร้ายนี้ได้ยังไงคนเดียว ยิ่งนึกก็ทำให้ยิ่งศรัทธาท่านมากขึ้นไปอีก....
โฆษณา