30 ส.ค. 2020 เวลา 13:43 • ท่องเที่ยว
รถไฟมาถึงอุรุมชีตอนห้าโมงครึ่ง แต่ที่นี่พระอาทิตย์ตกประมาณ3ทุ่มเพราะฉะนั้นค่ำนี้ยังมีเวลาอีกเยอะ ขาออกจากรถไฟก็จะมีพนักงานคอยดูตั๋วเดินทางเราด้วย ให้เตรียมเอาไว้ ที่ซินเจียงนี่การตรวจเช็คจะเยอะมากกว่าที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด ฉันรีบเดินออกมาหน้าสถานีรถไฟเพราะรู้ว่าต้องแย่งแท็กซี่กับคนท้องถิ่น แล้วแท็กซี่ที่เวียนเข้ามารับผู้โดยสารก็ไม่อยากรับคนต่างชาติเพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง ฉันเห็นตำรวจอยู่ตรงนั้นพอดีเลยขอให้เขาช่วยเรียกแท็กซี่ให้หน่อย แล้วก็ต้องประหลาดใจเขาพูดภาษาอังกฤษได้ด้วย ท่าทางดูเหมือนตำรวจต้องบังคับแท็กซี่หน่อยๆว่าให้ไปส่งเพราะเขาทำท่าไม่อยากไป พี่คนขับแท็กซี่เป็นผู้หญิงท่าทางขี้โวยวาย แต่พอขึ้นมาแล้วก็ดี ฉันเอ่ยออกไปว่า ไท่กว๋อ (คนไทย) แล้วก็ยิ้มกันได้เลย😄👌 ค่ารถแค่13.5หยวนแต่ฉันให้ไป20ไม่ต้องทอน ค่ารถแท็กซี่ที่ไม่แพง เมื่อปีที่แล้วที่ฉันมาเที่ยวก็ใช้บริการตลอดแต่ละครั้งไม่เคยถึงร้อยบาท
ตัวเมืองอุรุมชี
อุรุมชีเป็นเมืองใหญ่มากและทันสมัยใช้ได้เลย (ปี2018ที่ฉันไปยังไม่มีรถใต้ดินแต่ตอนนี้เปิดให้บริการแล้ว) จะต่างกับที่อื่นก็ตรงที่มีภาษาอุยกูร์ควบไปกับภาษาจีนเสมอ พอถึงโรงแรมฉันก็ออกมาเดินหาอะไรกินแถวๆนั้น มื้อนี้ชี้สั่งอาหารเป็นแป้งเหนียวๆคล้ายต๊อกโบกีผัดกับไก่และพริก ใครบอกคนจีนกินไม่เผ็ดนี่เถียงเลย กินมื้อเย็นเสร็จก็รีบกลับไปซักผ้า เพราะเตรียมมาไม่กี่ตัว กางเกงมี3ตัวต้องใส่สลับกันไป ส่วนถุงเท้าฉันเตรียมไว้15คู่ ถ้าคู่หนาๆดีๆจะซักแต่ถ้าบางๆถูกๆใส่2วันก็ทิ้งไป เป็นการลดสัมภาระ ซักแล้วก็เป่าไดร์จนเกือบแห้งเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปคัชการ์
วันรุ่งขึ้นตื่นเสียตะวันโด่ง พอกลางวันก็เช็คเอ้าท์แล้วไปกินโจ๊กที่เล็งไว้ตังแต่เมื่อเย็นวาน รสชาติของเจ้านี้ถือว่าอ่อนด้อยนัก แต่ก็เอาเถอะจะได้ไม่หนักพุงให้กังวลเรื่องห้องน้ำ จากนั้นมาเอาเป้ที่โรงแรมแล้วก็เรียกแท็กซี่ไปสถานีรถไฟ โบกเรียกรถอยู่ข้างถนนถ้ามีรถเก๋งปรกติมาจอดเทียบก็ไม่ต้องแปลกใจ ที่นี่ดูเหมือนใครก็เป็นแท็กซี่ได้ ก็ตกลงราคาจิ้มเครื่องคิดเลขกันให้เรียบร้อยก่อน แบบเร็วๆด้วยเพราะข้างถนน
สถานีรถไฟอุรุมชีคราวนี้น่าจะเป็นสถานีใหม่ที่เพิ่งเปิดเพราะใหม่เอี่ยมอ่อง ช่างผิดกับเมื่อปีที่แล้วที่ฉันนั่งไปคัชการ์ แล้วมันก็คนละที่กับเมื่อวานด้วย ค่ารถแท็กซี่เที่ยวนี้ก็แพงขึ้นเท่าตัวกว่า ที่นี่เวลาเข้าสถานีใช้เครื่องสแกนพาสปอร์ตและตั๋วรถไฟแทนพนักงานแล้ว ฉันเข้าร้านสะดวกซื้อในสถานีเจอแต่ของน่าลองกินเล่นจึงซื้อมาทดลองว่ารสชาติจะเป็นยังไง ยกเว้นตีนไก่ที่ถ่ายรูปให้เพื่อนดูเฉยๆ ต้องบอกว่าทุกอย่างที่ซื้อมายกเว้นไข่พะโล้จะมีรสเผ็ดอยู่ด้วย และที่สำคัญอร่อยทุกอย่างเลย
รถไฟขบวนT9516 ออกเวลา 16.19 ค่าโดยสาร 340 หยวน ใช้เวลา18ชม10นาที ถือว่าเวลาดีเพราะช่วงเวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการนอนตอนกลางคืน และยังได้ชมวิวทะเลทรายที่อยู่รอบนอกของ Taklamakan desert (อันมีคำแปลว่า "once you get in, you'll never get out" )ในช่วงเวลาเย็นและตอนเช้า
ฉันค่อนข้างทึ่งในการจัดการพลังงานของรัฐบาลจีน เนื่องจากซินเจียงเป็นเขตแล้ง ดังนั้นจะเห็นกังหันลมสูงใหญ่นับพันตัวในทะเลทรายเพื่อแปรเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้า อีกทั้งตามอาคารบ้านเรือนบนหลังคาจะเห็นแผงโซล่า เซลล์ติดตั้งไปทั่วแม้ในดินแดนที่ห่างไกลผู้คน หรือเป็นหมู่บ้านชนกลุ่มน้อยเล็กๆ ซึ่งนั่นเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก
ในบางส่วนของทะเลทรายอันแห้งแล้งจะเห็นช่องตารางเหลี่ยมๆไปบนผืนทราย ตอนแรกก็เพ่งมองว่าธรรมชาติอะไรทำให้เกิดเป็นแบบนั้น แต่เมื่อเพ่งมองไปเรื่อยๆด้วยความสงสัย จึงคิดได้ว่านั่นเกิดจากการที่รัฐบาลจีนพยายามจะเปลี่ยนทะเลทรายให้เป็นป่า จึงนำไม้มาปักเพื่อเป็นที่กำบังลมให้ดินมีความชื้นคงอยู่ให้ต้นไม้เติบโตได้ ใครจะไปรู้บางที่ใต้ดินนั้นอาจฝังท่อระบบน้ำหยดอยู่ด้วยก็ได้
เมื่อเข้าเขตคัชการ์จะเห็นอาคารหลังสี่เหลี่ยมเล็กๆและระแนงสำหรับไม้เลื้อยนั่นคือที่ปลูกองุ่นและเป็นโรงเก็บองุ่นเพื่อบ่มให้แห้ง องุ่นแห้งในเขตซินเจียงนี้มีหลายชนิดและเป็นสินค้าขึ้นชื่อเท่าที่ลองชิมหลายๆราคา องุ่นที่ราคาแพงที่สุดจะเป็นสีเหลืองเขียว มีรสชาติหอมหวานเฉพาะตัวแตกต่างจากที่อื่นๆโดยสิ้นเชิง ซื้อเป็นของฝากกลับบ้านเถิดแล้วคุณจะไม่ผิดหวัง(ปล.ครั้งนี้เสียใจจังที่ไม่สามารถซื้อไปด้วยได้ 😭)
โฆษณา