Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ออมให้เงินโต แบบเข้าใจง่ายๆ
•
ติดตาม
5 ก.ย. 2020 เวลา 01:46 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ออมให้เงินโต ภาคกองทุนรวม EP16
“กองทุนตราสารหนี้ตอนที่ 3 รู้จักกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น-กลาง”
สวัสดีครับ วันนี้มาถึงกองทุนที่เหมาะกับการลงทุนระยะสั้นไปจนถึงระยะกลางที่อยากแนะนำ นั่นคือกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น-กลาง โดยกองทุนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 4
(ถาม) มันดีกว่าเทิร์มฟันด์ และ กองตลาดเงินยังไงครับ?
(ตอบ) ดีกว่าเทิร์มฟันด์ตรงที่สภาพคล่องดีกว่าครับ ซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการ และ ดีกว่ากองทุนตลาดเงินที่ผลตอบแทนดีกว่า
เพื่อความสะดวก ต่อไปนี้ขอเรียกกองตราสารหนี้ระยะสั้น-กลาง ว่ากองตราสารหนี้เฉยๆนะครับ
กองทุนตราสารหนี้กลุ่มนี้ส่วนตัวเคยคิดว่ามันเสี่ยงต่ำมากๆ ไม่น่าจะต้องถึงระดับ 4 ตามแผนภูมิความเสี่ยง อย่างไรก็ตามช่วงวิกฤตโควิดในเดือน มี.ค.2563 ที่ผ่านมา ทำให้รู้ว่ากองตราสารหนี้ก็มีความเสี่ยงที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน
ความเสี่ยงที่ว่านั้น มันคืออะไร?
เดี๋ยวเราลองไปดูลักษณะการลงทุนของกองทุนกลุ่มนี้กันก่อนนะครับ
กองทุนตราสารหนี้กลุ่มนี้ จะลงทุนคล้ายๆกองทุนตลาดเงิน จุดที่แตกต่างคือ
1. ไม่มีการลงทุนในเงินฝาก
2. สัดส่วนการลงทุนในพันธบัตรน้อยลง
3. สัดส่วนการลงทุนในหุ้นกู้มากขึ้น
4. ลงทุนในพันธบัตรและหุ้นกู้ที่อายุยาวนานขึ้น
เรารู้แล้วว่าหุ้นกู้นั้นเสี่ยงกว่าและให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าพันธบัตรรัฐบาล และอายุของตราสารหนี้ ยิ่งยาวก็ยิ่งให้ผลตอบแทนสูง และ เสี่ยงมากขึ้นเช่นกัน
ดังนั้นด้วยการลงทุนแบบนี้ จึงทำให้ผลตอบแทนของกองตราสารหนี้ มากกว่ากองทุนตลาดเงินแน่นอน แต่ก็แลกมาด้วยความเสี่ยงที่หลายๆคนรวมผมด้วย เผลอๆลืมไป
(ถาม) ความเสี่ยงนั้นคืออะไรครับพี่?
(ตอบ) เมื่อลงทุนในหุ้นกู้ ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ภาคเอกชนเกิดล้มกันเยอะๆ เราก็มีสิทธิจะไม่ได้เงินคืนนะครับ
เหตุการณ์ไหนล่ะ ที่จะทำให้ภาคเอกชนล้มกันเยอะๆได้ นึกออกมั๊ยครับ ติ๊กต่อกๆๆๆๆ
(เฉลย) วิกฤตเศรษฐกิจไงฮะ ดังนั้นในช่วงวิกฤตโควิด จึงเกิดการกระหน่ำขายกองทุนตราสารหนี้ เรียกว่าทุกคนขอกำเงินสดไว้ก่อนเพื่อความอุ่นใจ จนถึงขั้นที่ทำให้กองตราสารหนี้ของ บลจ.TMB-Espring ล้มไปถึง 4 กองด้วยกัน
ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น?
ตรงนี้ขออธิบายเหตุการณ์คร่าวๆนะครับ เมื่อนักลงทุนขายหน่วยลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ ทางกองทุนก็ต้องขายตราสารหนี้ที่มีอยู่เพื่อเอาเงินมาจ่ายนักลงทุน ทีนี้ถ้าทุกคนพากันกระหน่ำขายอย่างต่อเนื่อง ทางกองทุนก็ต้องเอาตราสารหนี้ออกมาขายเรื่อยๆ
ลองนึกถาพในตลาดที่มีแต่คนเอาของคล้ายๆกันออกมาขาย โดยที่มีคนซื้อน้อยกว่าคนขาย สิ่งที่เกิดขึ้นคือถ้าคนขายอยากขายให้ได้ ก็ต้องขายในราคาลดกระหน่ำ เกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่าขาดสภาพคล่อง (อยากขายแต่ขายไม่ได้ เพราะไม่มีคนซื้อ) พอราคาตราสารหนี้ลดลงก็ส่งผลให้ NAV ของกองตราสารหนี้ลดลงตาม
ถ้าปล่อยให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อไป คนที่ตอนแรกอาจจะไม่คิดขายหน่วยลงทุน แต่พอเห็น NAV มันดิ่งลงทุกวันๆเลยเว้ย สุดท้ายก็ทำใจรับไม่ได้ ต้องพากันขายในที่สุด
เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้มันแย่มากไปกว่านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงออกมาประกาศมาตรการซื้อตราสารหนี้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้ (เมื่อวันที่ 22 มีค 2563) ซึ่งก็ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ไม่ได้ดีขึ้นทันทีนะครับ ไปดูกราฟ NAV กันดีกว่า
กองทุนตราสารหนี้ K-FIXED ข้อมูล ณ วันที่ 25 สค. 2563 รูปจาก https://www.wealthmagik.com
จากกราฟจะเห็นว่าหลังจาก ธปท. ประกาศมาตรการแล้วก็ตาม แต่ทว่า NAV ยังตกอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงปลายเดือน มิย. จึงค่อยๆกระเตื้องขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน (สิงหาคม 2563)
เรื่องนี้สร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้นักลงทุนจำนวนมาก รวมผมด้วย 555 เพราะว่ากันตามตำราแล้ว ตราสารหนี้จะแพงขึ้นเมื่อดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง และ ช่วงนี้ก็เป็นช่วงดอกเบี้ยขาลงนะ แต่ด้วยสาเหตุจากเรื่องการขาดสภาพคล่อง กลับทำให้กองตราสารหนี้ร่วงซะงั้น เรียกว่าของจริงมันมีอะไรมากกว่าตำราจริงๆ ถถถถ
อีกเรื่องที่ทำให้หลายๆคนพากันลืมความเสี่ยงตรงนี้กันไป คือด้วยความที่เศรษฐกิจเป็นขาขึ้นมาอย่างยาวนาน และกองตราสารหนี้ก็ทำผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอมาตลอดด้วย ทำให้หลายๆคนพากันคิดว่ากองตราสารหนี้นั้นก็ปลอดภัยพอๆกับกองตลาดเงินแหละน่า
ถามว่า กองตราสารหนี้ทำผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอนานแค่ไหน ดูกราฟ NAV ย้อนหลัง 10 ปีดีกว่า
กองทุนตราสารหนี้ K-FIXED ข้อมูล ณ วันที่ 25 สค. 2563 รูปจาก https://www.wealthmagik.com
จากกราฟ NAV จะเห็นว่าตั้งแต่ประมาณ พศ.2554 เป็นต้นมา กองตราสารหนี้ก็ขึ้นมาอย่างยาวนาน เกือบๆ 10 ปี
ว่ากันตรงๆ ช่วงที่เกิดวิกฤตโควิดเมื่อเทียบกับระยะเวลาที่ผ่านมาก็ดูเหมือนจะเป็นช่วงที่ NAV ตกลงไปเล็กน้อยเท่านั้น และตอนนี้ก็ดูท่าทางเริ่มๆจะฟื้นแล้ว
คำถามต่อมาก็คือ แล้วทุกวันนี้ซื้อกองตราสารหนี้ได้หรือยัง?
(ตอบ) ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการลงทุนนะครับ
โดยปกติแล้วการใช้งานกองตราสารหนี้กลุ่มนี้ แนะนำให้ใช้สำหรับ 3 กรณีต่อไปนี้
1. เงินใช้ฉุกเฉินส่วนที่สอง (กรณีที่มีเงินเก็บฉุกเฉินเยอะ โดยแบ่งส่วนแรกฝากธนาคารไว้)
2. เงินทียังไม่มีแผนว่าจะเอาไปทำอะไรดี หรือ ที่เรียกกันว่า “พักเงิน”
3. เงินที่วางแผนจะซื้อของชิ้นใหญ่ๆภายในไม่เกิน 5 ปี เช่น บ้าน รถ
สำหรับช่วงนี้ที่กองตราสารหนี้เพิ่งเริ่มฟื้น ยังดูทรงๆ ก็ไม่ควรเอาเงินเก็บฉุกเฉินมาลงนะครับ เอาไปไว้กองตลาดเงินหรือบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงจะดีกว่า ผลตอบแทนน้อยกว่านิดหน่อยแต่ปลอดภัยกว่ามาก
แต่ถ้าใครอยากพักเงิน หรือ เก็บเงินวางแผนซื้อของ แล้วอยากได้ผลตอบแทนที่ดีกว่ากองทุนตลาดเงิน ก็ลงกองตราสารหนี้ได้นะ แต่มีข้อแม้ว่า
1. ต้อง DCA เท่านั้น อย่าซื้อตูมเดียว เช่น มีเงินเก็บ 1 แสนบาท อาจจะทยอย DCA เดือนละ 1-2 หมื่นบาท
2. ติดตาม NAV อย่างใกล้ชิด หลังจาก DCA ไม้แรกไปแล้ว คอยตามดูทุกๆ 3-5 วัน ถ้า NAV ดิ่งลงติดๆกัน 3 วันก็ขายออกมาก่อน แต่ถ้าผ่านไม้แรกไปต่อไม้สองแล้ว NAV ยังขึ้นไปเรื่อยๆก็น่าจะปลอดภัยแล้ว
3. ควรเลือกกองที่มีสัดส่วนพันธบัตรสูงๆสัก 40-50% เพื่อความปลอดภัย จากรูปจะเห็น NAV บางกองก็ยังทรงๆทรุด ซึ่งพอไปดูสัดส่วนการลงทุนแล้วเจอว่า เป็นกองตราสารหนี้ที่มีสัดส่วนของพันธบัตรรัฐบาลน้อย
ข้อมูล ณ วันที่ 19 สค. 2563 ที่มา: https://www.wealthmagik.com
ข้อดีของกองทุนตราสารหนี้
1. ผลตอบแทนดีกว่ากองทุนตลาดเงิน
2. ในสถานการณ์ปกติ โอกาสขาดทุนน้อยมากพอๆกับกองทุนตลาดเงิน
3. สภาพคล่องดีกว่าเทิร์มฟันด์ และ บัญชีฝากประจำ
ข้อเสียของกองทุนตราสารหนี้
1. ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ มีโอกาสขาดทุนได้เหมือนกัน ดังนั้นถ้าเราเพิ่งเริ่มลงทุนแบบ DCA ในกองทุนกลุ่มนี้ช่วงแรกๆ ต้องคอยดู NAV อย่างใกล้ชิดหน่อย แต่ถ้า DCA ไปได้มากกว่า 1 ปี ก็น่าจะปลอดภัยแล้ว
2. ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ผลตอบแทนที่ได้ไม่คุ้มกับความเสี่ยง ถ้ามีบริษัทเอกชนล้มขึ้นมาแบบกรณีการบินไทย (เครดิตเรตติ้ง ก่อนยื่นล้มละลายอยู่ที่ระดับ A) เราก็มีโอกาสที่จะขาดทุนในส่วนนี้ได้
ใน EP หน้า เราจะไปคัดกรองกองทุนตราสารหนี้กันแบบละเอียดแบบที่เราทำกองทุนตลาดเงิน อย่าลืมติดตามอ่านนะครับ
วันนี้สวัสดีครับ ชุบ ชุบ
ออมให้เงินโต วางแผนการเงินด้วยตัวเอง ใช้ภาษาบ้านๆ เข้าใจง่าย อ่านฟรีครับ
https://bit.ly/3mBhhio
อ่านแล้วมีคำถาม ถามได้ที่เพจตลอดเวลา ยินดีตอบคำถามอย่างมากๆครับผม
https://www.facebook.com/EzyFinPlan
ถ้าอ่านแล้วชอบ สั่งซื้อหนังสือออมให้เงินโตได้จากช่องทางต่อไปนี้นะครับ
Line : @proudorder
คลิก >
https://bit.ly/33z7RLe
หรือ > Lazada : PROUD
คลิก >
https://s.lazada.co.th/s.ZRnKa
2 บันทึก
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ออมให้เงินโต ภาคกองทุนรวม
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย