17 ก.ย. 2020 เวลา 21:09
Just like a dream💕 Ep1.Born to be sales #
ภาพแม่ค้า (ยืมเขามา)ที่ดูคล้ายคลึงสมัยที่เรายังเด็ก มีแค่หาบ ใส่สินค้า สำหรับวางขาย ตรงไหนก็ได้
ยามที่เหนื่อยล้า เบื่อๆ หรือหมดหวังกับชีวิต สิ่งที่ช่วยปฐมพยาบาลหัวใจที่ดีที่สุด คือการได้นอนทอดกาย อยู่บนเตียงนอนนุ่มๆ แล้วปล่อยใจให้ลอยล่อง กลับไปในอดีต ภาพเก่าๆวิถีเก่าๆ อบอวนอยู่ในภวังค์ ทำให้ใบหน้าที่อ่อนล้า สิ้นหวัง จะผุดรอยยิ้มจางๆ ส่งผ่านให้หัวใจ สูบฉีดพลัง กลับมาอีกครั้งเสมอ❤️
วันนี้หลังจากกลับจากที่ทำงาน อาบน้ำปะแป้ง สบายตัวสบายใจ จึงเปิดทีวี ดูอะไรนิดๆหน่อยๆ ก่อนจะเข้านอน และเผอิญทีวีเปิดค้างไว้ ที่ช่องไทยพีบีเอส ซึ่งกำลังออกอากาศสารคดี เกี่ยวกับหมู่บ้านกะตา หมู่บ้านที่ติดริมแม่น้ำอิระวดี ในพม่า ภาพที่ถ่ายทอดออกมา ดูแล้ว ทำให้นิ่งเหมือนถูกมนต์สะกด มันเหมือนภาพเก่าๆในอดีต ในสมัยเราเด็กๆ จึงทำให้ บรรยากาศเก่าๆ เหล่านั้น เรียกเราย้อนนึก ไปในวัยเด็กอย่างอัตโนมัติ
ไม่มีช่วงเวลาไหน ที่จะมีความสุข มากเท่าวัยเด็กแล้ว ชีวิตในวันนั้น ยังเด่นชัดอยู่เสมอ เราเติบโตมากับยาย ดังนั้นไม่น่าแปลก ที่ได้ได้ฝึกฝน งาน marketingกับยาย มาตั้งแต่ตัวน้อยๆ ยายเป็นคนเก่ง แค่เพียงยายคิดว่า ฉันอยากจะทำสิ่งนั้นๆ. ยายก็ลงมือทำทันที และก็ทำได้ดีเสมอ ผลิตภัณฑ์ที่ยายสรรสร้าง มันเยอะแยะจนจำไม่ไหว ดังนั้นในตอนนี้ จะเล่าเฉพาะสิ่งหลักๆ ที่ทำบ่อยๆ จนปลูกฝัง งานขาย จนเข้าเส้นเลือด ให้ฟังละกัน😂
หลังจากเช็ดจนสะอาด ก็ตัดเฉพาะใบ. และพับแยกมัดรวมๆไว้เพื่อส่งให้ร้านค้า
ผลิตภัณฑ์ใบตองสด ซึ่งยายจะรับ order มาจากตลาด แม่ค้าต้องสั่งใบตองนี้ ไปใช้ในการห่อสินค้า สมัยนั้นใบตอง คือสิ่งที่ใช้ในการหีบห่อ เวลาขายของ ในตลาดสด ไม่ว่าจะเลือกซื้ออะไรก็ตาม ถ้าเป็นของสด ใบตองจะเป็นพระเอกเสมอ และตำแหน่งหน้าที่เรารับผิดชอบ สำหรับงานใบตอง คือนั่งเซ็ดใบตองให้สะอาด ทั้งสองด้าน ก่อนที่ยายจะริด มันออกด้วยมีดคมๆ แล้วจึงพับ วางเรียงเป็นพับๆ ก่อนนำไปส่งที่ตลาด
เนื่องจากสมัยก่อน บ้านแต่ละบ้านไม่มีรั้วกั้น และเมื่อเหลือพื้นที่ว่างๆ ของบ้านแต่ละหลัง หากใครใคร่ปลูกผักปลูกหญ้า ในพื้นที่คนอื่นๆ ก็ทำได้ไม่ว่ากัน ซึ่งต้นไม้ที่มักจะปลูกก็คือพืชล้มลุก อายุไม่มากเช่นกล้วย ปลูกทิ้งๆไว้ ไม่ต้องใส่ใจดูแลมาก แต่มันกลับงาม จนเป็นสวนกล้วยอยู่หลังบ้าน เลยเป็นหนึ่งในงานของยาย นอกเหนือจากปลูกกล้วย ก็ยังปลูกผักไว้กินเอง ไม่ว่าจะเป็นต้นหอม กระเทียม ผักชี ถั่วฝักยาว กวางตุ้ง ผักบุ้ง คะน้า กระหล่ำปลี กระหล่ำดอก และอืนๆ เท่าที่จะมีเมล็ด มาหว่านลงในแปลงได้
ผลิตภัณฑ์จากต้นกล้วย อีกชนิดหนึ่ง ที่ทำส่งตลาดคือเชือกกล้วย ก็เป็นเป็นผลพวง. ที่มาจากต้นกล้วยเช่นกัน โดยนำส่วนที่เป็นลำต้น มาตัดออกเป็นท่อนยาวๆ แล้วลอกออกเป็นกาบๆ เสร็จแล้วใช้มีด กรีดยาวๆ ไม่หนามากและไม่บางมาก ออกเป็นเส้นๆ แล้วนำไปตากแดดให้แห้งสนิท จึงเก็บมัดรวมกัน เพื่อส่งให้ร้านขายหมู เพื่อใช้มัดห่อสินค้าแทนเชือกฝาง
โลกในตอนนั้น สุดแสนจะ clean เพราะพลาสติกหรือวัสดุเลียนแบบธรรมชาติ แทบจะไม่มีให้เห็น การห่อสินค้าเพื่อขาย จึงใช้ใบตอง หรือใบไม้ที่มีขนาดใหญ่ๆห่อหุ้ม แล้วใช้ตอกไม้ไผ่ หรือเชือกกล้วย เป็นตัวรัด แทนเชือกหรือยาง
การทำเชือกกล้วย before & after
หากย้อนเวลาได้ อยากจะพาทุกคนเดินตลาดสมัยโน้น จะเห็นว่า packaging ในสมัยนั้น clean และมีเสน่ห์ หามาได้ไม่ยาก ย่อยสลายง่าย ที่คุ้นตากว่านั้น คือแม่บ้าน ที่เดินจ่ายตลาด จะต้องมีตะกร้า มาจากบ้านทุกคน พอซื้อของเสร็จ ก็หยิบของใส่ตะกร้า แทบไม่ต้องกังวล กับขยะ ภายหลัง
ตระกร้าจ่ายตลาด ในแบบนี้ ที่คนไปจ่ายตลาด จำเป็นต้องมีติดกาย รวมถึงลักษณะการหีบห่อสินค้าใตเวลานั้น
ผลิตภัณฑ์ถัดมา คือถ่าน ด้านหลังบ้าน จะเป็นลานกว้าง มีต้นไม้ใหญ่ครึ้ม เป็นสถานที่สำหรับ สุมฝืนด้วยแกลบ แล้วจุดไฟ เผาให้เป็นถ่าน. หน้าที่เราคือเก็บถ่านที่เผาแล้ว นำมาดับสนิท ด้วยการคีบ แล้วจุ่มน้ำ หลังจากนั้น. ผึ่งให้แห้ง ใส่รวมไว้ในเข่ง และหากมีคนสั่งซื้อ เขาจะมีภาชนะ มาใส่ แล้วขนกลับเอง และยังไม่ต้องจ่ายตังค์ เพราะเดี๋ยวจะมี พนักงานทวงหนี้ ถึงบ้านลูกค้าแต่ละบ้าน โดยตรง นั่นเป็นหน้าที่เรา
ซึ่งเป็นงานไม่ง่าย. เพราะลูกค้า มักจะผัดผ่อน และมีของแถมคือถูกหมา แต่ละบ้านไล่กัด บางครั้งก็มีรอยเขี้ยวที่น่อง กลับมาพร้อมคราบน้ำตา แต่เนื่องจากเป็นความสามารถพิเศษ ในการทวงหนี้ เราจะได้เงินกลับมาครบถ้วน บางบ้าน ก็จะแถมขนมมาให้คนทวงหนี้อีกด้วยเพราะเอ็นดู จนยายชื่นชมเป็นอันมาก😅😅(เดี๋ยวตกงานเมื่อไหร่ จะไปรับจ้างทวงหนี้นอกระบบ)
ถ่านไม้ เมื่อเผาได้ที่ คีบถ่านแดงๆ จุ่มน้ำให้ดับสนิท และผึ่งให้แห้ง เพื่อรอขาย
นอกจากใบตอง เชือกกล้วย และถ่านแล้ว สินค้าหลักอีกชนิด ก็คือขนม ยายจะทำเองประจำๆ อยู่ 2 อย่างคือข้าวต้มมัด กับขนมเทียน หน้าที่ของเรา สำหรับงานนี้คือ ฉีกใบตอง เป็นแผ่นเล็ก เพื่อเตรียมทำห่อข้าวต้ม และขนมเทียน แต่หากจะให้ห่อเอง คงเจ๊งแน่ๆ เพราะเคยลองแล้ว แตกกระจัดกระจาย ดังนั้นจึงได้แค่เป็นลูกมือเล็กๆน้อยๆตอนทำ แต่ตอนขาย มันคือหน้าที่หลัก ของแม่ค้าตัวน้อย บางครั้งกลับมานั่งนับตังค์คืนยาย หลังจากขายของหมด มักจะมีสินค้าสูญหายบ่อยๆ เพราะแม่ค้าเหนื่อย เลยแอบกินเอง ระหว่างทาง😂
เสียดาย ที่ตอนนั้น ยายสอน ไม่ใส่ใจฟัง จนกระทั่งวันนี้ ก็เลยยังทำขนม 2 ชนิดนี้ไม่เป็น😅
งานเสริมของยาย อีกสิ่งคือ ข้าวเกรียบว่าว job นี้จะทำเฉพาะ ตอนที่วัดมีงานวัด ยายจะเตรียมของแต่หัววัน เพราะข้าวเกรียบว่าว จะขายดีตอนค่ำๆ และงานวัดมักจะมี ช่วงต้นฤดูหนาว อากาศค่อนข้างเย็น ข้าวเกรียบว่าวอุ่นๆ จึงเป็นที่นิยม ของเด็กๆ ไม้ไผ่ถูกเหลาให้เหมาะมือ ส่วนปลาย สับให้แยกออกเป็น แฉกๆ เหมือนมือคน กางออก 5 นิ้ว 2อัน สำหรับใช้ประคอง ข้าวเกรียบ ไปมาเบาๆ เวลาที่ต้องย่างกับถ่านร้อนๆ ให้มันพองตัวจนทั่ว
ลูกค้าจะนั่งยองๆรอให้ยายปิ้ง ส่วนเราจะรับ order และนำตอกไม้ เสียบผ่านข้าวเกรียบอย่างเบามือ ตามจำนวนแผ่นที่ลูกค้าสั่ง แล้วขมวดปม. ให้เป็นวงกลม สำหรับหิ้ว เพื่อไปนั่งกิน ในระหว่างหนังกลางแปลงฉาย. จำได้ว่าตอนช่วงฝึกเสียบตอกกับข้าวเกรียบใหม่ๆ ถูกยายเอาไม้ปิ้งข้าวเกรียบตีเอา เพราะเสียบตอกจนข้าวเกรียบแตก ไปหลายสิบแผ่น😂😂 และแน่นอนที่สุด. ลูกค้าเด็กๆ ที่มารับของ ก็มักจะทำแตกกระจาย ตรงหน้าร้านประจำๆ จึงทำให้ เราขายดิบขายดี 😁😁
ร้านข้าวเกรียบโป่งของเรา ที่ใช้ตอก รูปด้านขวามือ ร้อยข้าวเกรียบเป็นพวงเมื่อลูกค้าสั่งซื้อ
ร้านขายข้าวแกง หาบหม้อแกง เปิดเลือกให้ราดกันได้เลย ลูกค้าจะยืนทาน หรือนั่งม้านั่ง ที่ทางร้านเตรียมมาให้
ขนมปลากริมตาล กับบัวลอยเผือกร้อนๆ พร้อมเสริฟ
หรือจะเป็นก๋วยเตี๋ยวอาแป๊ะ ที่ตอนกลางวันจะหาบแร่ขาย พร้อมด้วยเสียงเคาะไม้ ดังก๊อกๆเพื่อเรียกลูกค้า
นอกเหนือจากที่เล่ามาข้างต้น ยังมีอาชีพ ทีสุจริต ทำแล้วได้ตังค์อีกมากมาย เช่น รับจ้างดายหญ้า รับจ้างตัดหัวปลาสร้อย เพื่อนำปลาไปทำปลาเค็ม และปลาย่าง ส่วนหัวปลาที่เหลือ ก็จะเอาไปหมักน้ำปลา ยายยังเก่งเรื่องสมุนไพร เนื่องจากยายจะทำลูกประคบขาย. และรักษาคนที่ป่วยด้วยโรคริดสีดวง
ตอนนั้นจำได้รางๆว่าอุปกรณ์การรักษา คือเต่าถ่าน ซึ่งเอาเก้าอี้เหล็ก ที่เจาะตรงที่นั่งให้กลวง และมีสุ่มเลี้ยงไก่ คลุมด้วยผ้าห่มผืนโต และเมื่อจะรักษา คนป่วย ต้องเอายาสมุนไพร ยัดไว้ที่ก้นตัวเอง และเข้าไปอยู่ในสุ่มไก่ โผล่ออกมาแค่หัว เหมือนอบเซาว์น่า ไม่มีผิด เคยถามยายว่า คนที่มารักษาทำไม ต้องเข้าไปอยู่ในสุ่มไก่ ยายตอบว่า ต้องเอาแผล นั่งลนไฟอ่อน แผลจะได้แห้งไว😳😳ฟังแล้วสยอง ขั้นตอนเรื่องรักษานี้. ยายไม่ให้เรายุ่ง เราจึงไม่ค่อยจะรู้ถึงรายละเอียด
ลูกประคบ ที่ข้างใน ต้องมีสมุนไพร หลายชนิด ถูกตำรวมกัน และนำมาห่อผ้า แล้วมัด เพื่อใช้ในการประคบร้อน
พูดถึงเรื่องลูกประคบ ยังไม่จบ เราเป็นฝ่ายผลิต แต่เรื่องที่จดจำ ลืมไม่ได้เลยก็คือ ขั้นตอนการหาวัตถุดิบในการมาผลิต ที่เรามักจะอิดออดยาย จนถูกด่าบ่อยๆ ก็เป็นเพราะว่า ต้นส้มป่อย ซึ่งต้องใช้ใบอ่อน มันดันมีขึ้นอยู่เป็นดงใหญ่ ที่หลังป่าช้าในวัด ถึงแม้จะเตรียมพละกำลังทั้งหมด มาอย่างดี แต่ป่าช้าก็ทำให้หวาดผวาได้เสมอ
สมัยนั้น รถราไม่เยอะ ป่าช้าคือส่วนที่คนไม่ค่อยจะเดินผ่าน บริเวณรอบๆ มีโลงศพที่ใช้แล้ว แต่ศพไม่ได้เผา เขาจะมีที่เก็บศพ โดยก่อปูนและเอาโลงเสียบยัดเข้าไว้ หรือบางราย แยกเอาแต่ศพไปฝัง โลงก็ยังเหลืออยู่. กองสุมที่ใต้ต้นโพธิ์ แล้วดงส้มป่อย ก็ดันมีที่นั่นเพียงแห่งเดียว. เราปวดใจมากทุกครั้ง เวลาที่ยายเปรยๆว่า “พรุ่งนี้จะทำลูกประคบ”😢😢
อารมณ์ป่าช้าหลังวัด ปรมาณภาพนี้ได้อยู่ แต่ประสบการณ์ตรงของเรามันน่ากลัวกว่านี้ คือมันมีกองซากอารยธรรม ของคนตาย กองเป็นกลุ่มๆ ชวนสยอง อยู่ประกอบด้วย😢😢😢
ขอเล่าต่อเรื่องป่าช้าอีกนิด มีวันหนึ่ง เรากำลังสะกดตัวเอง ให้รีบรูดใบส้มป่อยอยู่นั้น โดยปกติ ความเงียบ มันที่สุดอยู่แล้ว ประมาณว่า เสียงหัวใจของเรา ดังเป็นเสียงกลองของวงร๊อคทีเดียวเขียว ตรงนั้น จะมีนกชนิดหนึ่ง ร้องอยู่ประจำๆ เสียงช่างเข้ากับบรรยากาศยิ่งนัก และมนุษย์ ซึ่งเป็นนักจิตนาการขั้นสูงอย่างเรานะหรือ มือก็ระวิงกับการเก็บสมุนไพร แต่ใจไม่ได้อยู่ตรงหน้าเลย
ตอนนั้นมันล่อกเล่ก ฟุ้งซ่าน มีอยู่ครั้งหนึ่ง นั่งนึกย้อนไปก็ขำจนน้ำตาไหล เพราะวันนั้น จำได้ว่า วิ่งกระเจิง ออกจากป่าช้า. เพราะลุงสัปเหร่อ เดินมาจากไหนไม่รู้ มาร้องทักจากด้านหลัง 😂😂😂ถ้าไม่ฟุ้งซ่าน ก็คงไม่วิ่งแทบเหาะ จนสมุนไพรหล่นกระจัดกระจาย แบบนั้น แล้วท้ายสุด ยังงัย ก็ต้องกลับไปเก็บอีกอยู่ดี
ยืมรูปเขามาอีกแล้ว นี่คือบายศรี เป็นงานใบตอง สำหรับนำไปใช้ในงานพิธีต่างๆ
ยังไม่หมด สำหรับความสามารถพิเศษของยาย ด้วยนิสัยยาย ไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนหวาน แต่ที่น่าทึ่งคือเวลาทำงานฝีมือ ยายก็ทำได้วิเศษสุดๆอีกเช่นกัน. มือป้อมๆพับใบตองกลับไปกลับมา รวดเร็ว แต่งานที่ออกมาดูเนี๊ยบเป็นที่สุด งานนี้ เด็กอย่างเรา ช่วยได้แค่ นั่งทำไม้กลัด เพื่อใช้ในการกลัดใบตองให้ยายได้เท่านั้นเอง พอเราโตขึ้นมาหน่อย. ยายพยายาม สอนเราทำ แต่ความไม่รักดีของเรา จึงไม่สนใจ จนทำให้วันนี้มานั่งนึกเสียดาย แต่ทำอะไรไม่ได้แล้ว
และที่หักมุมสุดๆคือผลิตภัณฑ์งานฝีมือประเภทตามภาพ ยายก็ไม่ย่อหย่อน เห็นยายนั่งคิ้วขมวดกับเศษไม้อยู่พักใหญ่ ในมือถือค้อนกับสิ่วอยู่ พอเราไปวิ่งเล่นพักใหญ่กลับมา ก็จะเห็นหมอนไม้ หรือ ไม้นมสาวสำหรับไว้นวดหลัง วางอยู่ แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ตรงหน้ายายแล้ว ในวันที่อากาศร้อนจัด อยู่ๆยายก็ไปหยิบตอก มาสานพัด ใช้เวลาไม่นานนัก เราก็ได้พัดลมมือถือมาใช้งานแล้ว นอกจากนั้น กระบุง ตระกร้า และอะไรก็ได้ที่ยาย อยากจะทำ ก็ทำได้เสมอ
ขออีกสักนิดปิดท้าย งานเย็บปัก ชุนผ้า ยายก็ไม่ด้อย ผ้าห่มของเราจึงมีสีสันสดใส ที่สำคัญไม่ต้องซื้อ เพราะยายไปขอเศษผ้ามาจากร้านตัดผ้า แล้วมาคัดชิ้นใหญ่ๆหน่อย ตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า กองไว้ก่อน แล้วมานั่งเย็บต่อกันเป็นแผ่นใหญ่ ขนาดผ้านวม ลองคิดดู ต้องอดทนขนาดไหน เย็มมือน๊ะ ไม่มีจักรเย็บผ้า
ส่วนเศษที่เหลือยายจะจับมันมาถักเป็นเหมือนผมเปียยาวๆ แล้วจึงจับมาม้วนเป็นวงกลมอีกที. แล้วจึงมานั่งเย็บแต่ละเส้นให้ยึดติดกัน เป็นพรมเช็ดเท้า. นอกนั้นกระเป๋านักเรียนเรา หมวก ผ้าพันคอในหน้าหนาว ก็ล้วนฝีมือยายทั้งสิ้น และโชคดีน๊ะ ที่เราเอาถ่านบ้าง อย่างน้อย เย็บผ้าเป็น ปักชุนได้บ้าง ถักโคเชและนิตติ้งพอได้ ร้อยมาลัยได้นิดหน่อย เป็นเพราะไม่เอาถ่านมามากๆๆ เลยได้มาอย่างละนิดเดียว😁
นอกจากนั้น ยังมีอะไรอีกมากมายเกี่ยวกับยาย จะเล่าต่อไปใน Ep. ถัดไป ถ้าไม่เบื่อกันเสียก่อน ด้วยความสามารถ มากมายของยาย ที่บอกเล่ามานี้ จะบอกว่า มันติดมากับหลานคนนี้เพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น คือเรื่องการเป็นนักขาย จนถึงวันนี้ ขอยกยอตัวเองนิด เพราะติดความสร้างสรรค์จากยายมา จึงได้ต่อยอดให้ใช้ชีวิตได้ไม่ยากนัก โดยเฉพาะ อาชีพนักขาย และนักทวงหนี้เนี่ย เอาตัวรอดมาได้จนวันนี้ เพราะอาจารย์ดี จากการเลี้ยงดูแบบยาย และพอวันว่าง นอนทอดกาย หลับตาลง นึกถึงยาย ก็มีรอยยิ้มเสมอ โชคดีที่เกิดเป็นหลานยาย
📌โตมากับยาย และยายอยู่ในใจเสมอ💕
โฆษณา