27 ก.ย. 2020 เวลา 03:03 • ประวัติศาสตร์
“โครงการเลเบินส์บอร์น (Lebensborn Program)” โครงการผลิตเด็ก “อารยัน” ของนาซี
พรรคนาซีนั้นทำเรื่องชั่วช้ามากมายหลายเรื่อง
แต่เรื่องที่ไม่ค่อยมีคนรู้ และน่าสนใจเรื่องหนึ่ง คือเรื่องของ “โครงการเลเบินส์บอร์น (Lebensborn Program)”
โครงการนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการขาดแคลนประชากร
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ทหารเยอรมันเกือบสองล้านคนต้องทิ้งชีวิตในสงคราม ซึ่งทำให้ขาดคนที่จะผลิตประชากรได้จำนวนมหาศาล
อีกทั้งในยุค 20 (พ.ศ.2463-2472) และยุค 30 (พ.ศ.2473-2482) ผู้คนก็ไม่ค่อยแต่งงาน ได้มีเด็กที่เกิดจากการท้องก่อนแต่งเป็นจำนวนมาก และในปีค.ศ.1935 (พ.ศ.2478) ก็ได้มีการคาดการณ์กันว่า ในเยอรมนี มีการทำแท้งมากกว่าปีละ 800,000 ราย
“Adolf Hitler” ผู้นำพรรคนาซี จึงเกิดความกังวลว่า หากปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป การสร้างสังคมที่มีแต่คนเชื้อสายบริสุทธิ์จะไม่อาจเป็นจริงได้
จึงได้มีการก่อตั้ง “โครงการเลเบินส์บอร์น (Lebensborn Program)” ขึ้นมา
โครงการนี้ คือการจัดหาการอำนายความสะดวกและการดูแลภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ของทหารในหน่วย SS ซึ่งสังกัดนาซี
ภรรยาของทหาร SS จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เนื่องจากกองทัพคาดหวังเด็กที่จะเกิดมาเป็นจำนวนมาก
แต่ก็ดูเหมือนแค่นี้จะยังไม่พอ
Adolf Hitler
ค.ศ.1935 (พ.ศ.2478) นาซีได้ออกโฆษณาชวนเชื่อ เชิญชวนให้หญิงสาวที่ท้องก่อนแต่ง และมีประวัติที่เหมาะสมในด้านสายเลือด เข้าร่วมโครงการเลเบินส์บอร์น
นาซีได้รับปากว่าหญิงสาวเหล่านี้จะได้รับการดูแลอย่างดี และภายหลังจากคลอดแล้ว ก็จะถูกส่งกลับบ้าน และหากหญิงสาวผู้นั้นไม่พร้อมที่จะเลี้ยงลูก นาซีเองก็จะหาครอบครัวอารยันที่พร้อมจะเลี้ยงให้
แต่การคัดเลือกหญิงเข้าโครงการนี้ก็เข้มงวด โดยหญิงผู้นั้นต้องมีสายเลือดบริสุทธิ์ มีการย้อนสายขึ้นไปถึงสามรุ่น ตรวจสอบตั้งแต่รุ่นทวด
แต่ดูเหมือนว่าแค่นี้ก็ยังไม่พอ ทางนาซีจึงจัดการให้หญิงสาวที่เหมาะสม ได้พบกับทหารนาซี และร่วมกันผลิตลูก
ในปีค.ศ.1938 (พ.ศ.2481) กฎหมายหย่าร้างของเยอรมนีทำให้ผู้ชายสามารถหย่ากับภรรยาได้ง่ายขึ้น ผู้ชายสามารถทิ้งภรรยาไปมีภรรยาใหม่ที่สามารถผลิตลูกได้ เป็นไปอย่างง่ายดาย
นี่ยิ่งทำให้หญิงสาวหลายคนเข้าร่วมกับโครงการนี้
มีการแข่งขันกันว่าใครจะสามารถผลิตลูกได้มากที่สุด โดยผู้ชนะจะได้สิทธิพิเศษหลายๆ อย่างเหนือคนอื่น
แต่ถึงโครงการนี้จะช่วยเพิ่มอัตราการเกิดได้บ้าง แต่ก็ยังไม่มากพอ จึงต้องมีการขยายโครงการนี้ออกไปนอกเยอรมนี
ในปีค.ศ.1939 (พ.ศ.2482) นาซีเริ่มจะให้ความสนใจในตัวเด็กของประเทศที่ตนเข้ารุกราน โดยเหล่าเด็กกำพร้าที่มีผมสีอ่อน ตาสีฟ้า เริ่มจะหายไปทีละคนสองคน และมาปรากฎยังค่ายของโครงการเลเบินส์บอร์น
ทหารหน่วย SS เริ่มจะลักพาตัวเด็กชาวโปแลนด์และยูโกสลาเวีย และนำกลับมายังเยอรมนีและล้างสมองเด็กเหล่านี้
เด็กคนไหนที่ไม่ยอมเข้ารับการฝึกหรือดื้อ ก็จะถูกส่งเข้าค่ายกักกัน และเสียชีวิตในที่สุด
เด็กที่ถูกลักพาตัวมานั้นจะถูกสอนให้ลืมชื่อเก่าและพ่อแม่ของตน โดยบางรายก็จะถูกป้อนข้อมูลว่าพ่อแม่ของตนนั้นไม่รักตนแล้ว และได้ทอดทิ้ง และในเวลานี้ เยอรมนีก็คือบ้านของพวกเขา
แต่ต่อมา โครงการนี้ก็ได้รับการต่อต้านและมีปัญหาอื่นๆ ตามมามากมาย โดยเฉพาะในช่วงปลายสงคราม ซึ่งเยอรมนีมีทีท่าจะพ่ายแพ้
ภายหลัง เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของเยอรมนี เหล่าประเทศที่เป็นอิสระจากนาซีก็ต้องพบเจอกับปัญหาสำคัญ นั่นคือจะทำยังไงกับเหล่าหญิงสาวในโครงการนี้ดี ซึ่งบางประเทศก็รับที่จะดูแลต่อ แต่บางประเทศก็ทอดทิ้ง ทำให้เหล่าหญิงสาวในโครงการนี้ต้องเอาตัวรอดกันเอง
โครงการนี้เป็นโครงการหนึ่งของนาซีที่ทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย และยังเป็นที่จดจำจนถึงทุกวันนี้
โฆษณา