#จันทร์เจ้าขาบทที่4ตอนที่9,
(30/9/2020)
สวัสดีครับ เพื่อนๆ
ขอส่งจันทร์เจ้าขา ให้เพื่อนๆได้อ่านกันให้เพลิดเพลิน ในคืนวันพุธนี้นะครับ 😇💚💚💚
สุขสันต์วันพุธครับ
..
..
บทที่ 4 ขจรมาลา
ตอนที่ 9 พิจารณาไต่สวน (2)
#ณ.โลกวิญญาณไม่ไกลจากประตูบริเวณป่าช้าเก่าเวียงกุมกามเมืองเชียงใหม่อำเภอยางเนิ้ง(อ.สารภี)
“ขอเริ่มการไต่สวนเจ้าอุบลวรรณา ณ.บัดนี้..”
พระวัยทัตเอ่ยประกาศการเริ่มพิจารณาคดี พร้อมกับขยับมือโบกอากาศเบื้องหน้า เหนือลานพิพากษาให้ปรากฏภาพความทรงจำสุดท้ายของเจ้าน้อยพรหม ขึ้นอีกครั้ง..
เจ้าอุบลวรรณาซึ่งได้ขึ้นให้การ ก็ยืนนิ่งใช้ความคิดขณะที่ มองภาพเหล่านั้นด้วยความอัศจรรย์ใจ..
..
..
ภาพสุดท้าย ในความทรงจำของวิญญาณหลงทางเจ้าน้อยพรหม เป็น ภาพการร่ายรำดาบสาปแช่งที่หน้าเรือน เจ้าอุบลวรรณา ..
และเมื่อผีเจ้าน้อยพรหมย่างเท้าเข้าสู่ธรณีของเรือนเจ้าอุบลวรรณา .. บรรดาแผ่นยันต์และเหล่าหุ่นพยนต์ของหมอผีชาวพม่า ก็ปรากฏพุ่งเข้าร้อยรัด มัดเจ้าน้อยพรหม จับขังเข้าไว้ในหม้อดินอาคม..ในที่สุด
แล้วภาพก็วูบมืดดับลง..
“จากภาพความทรงจำดังกล่าว พวกเราเห็นได้ชัดว่าเจ้าอุบลวรรณา ร่วมกับ หมอผีชาวพม่า ได้ทำการจับเจ้าน้อยพรหม ..
และเมื่อเจ้าน้อยพรหม ถูกควบคุมอยู่ในหม้ออาคม ..
ก็พบว่า เหตุการณ์ร้ายในเมืองเชียงใหม่ ยิ่งทวีความน่ากลัวสยดสยองกว่าเดิม โดยมีผู้พบเห็นทั้งมนุษย์ และสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ สามารถเป็นพยาน ได้ว่า ...
ในเหตุการณ์ฆาตกรรม และเพลิงไหม้ ในเรือนต่างๆ ในเมืองเชียงใหม่นั้น
.. ปรากฏว่ามี ผู้ที่มีลักษณะบ่งชัดว่า น่าจะเป็นผีไร้ศีรษะเจ้าน้อยพรหม เป็นผู้กระทำเหตุร้ายอันน่าสยดสยองนั้น และยังอยู่ในทุกเหตุการณ์อีกด้วย..
เจ้าอุบลวรรณา ในฐานะเป็นผู้ครองครองและควบคุมหม้อสะกดวิญญาณเจ้าน้อยพรหมไว้..
ดังนั้น อีกนัยหนึ่ง จึงอาจกล่าวได้ว่า เจ้าอุบลวรรณาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการควบคุมเจ้าน้อยพรหม ให้ก่อเหตุร้ายในเมืองเชียงใหม่นี้..
เจ้าอุบลวรรณาจะแก้ต่างในเรื่องนี้ อย่างไร.. ขอจงพูดให้ชัดแจ้งในลานพิพากษาอันศักดิ์สิทธิ์นี้เถิด..”
พระวัยทัตพูดเสร็จ จึงผายมือให้เจ้าอุบลวรรณา เริ่มชี้แจง..
“ข้าเจ้า บ่ะฮู้บ่ะหัน(ไม่รู้ไม่เห็น) ในเรื่องนี้ เลยเจ้า..
ข้าเจ้า ยะก๋านยะงาน ..
ใจ๊หมอปี๋ หม่องวิ๋นเข้าหยุบ (จับ) เจ้าน้อยพรหม..ตามคำสั่งเจ้าปี้ทิพเกสร น่ะเจ้า..
เจ้าน้อยพรหมก่กึ๊ดแต่แป๋งกรรมชั่วก่อน ..เถิงเป๋นจะอี้..
หมอผีหม่องวิ๋น ยะหยังกั๋นต่อ (จะทำอะไรกันต่อ) ข้าเจ้า บ่อฮู้ฟ้า (ไม่รู้เรื่อง)
นะเจ้า..”
เจ้าอุบลวรรณากล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหา ด้วยว่า..การร่วมจับเจ้าน้อยพรหม กับหมอผีชาวพม่า ก็ด้วยเป็นไปตามคำสั่งของเจ้าทิพเกสร ...
และ เมื่อจับเจ้าน้อยพรหมได้แล้ว หมอผีพม่าก็เอาหม้อสะกดวิญญาณจากไป ..ไม่รู้ไม่เห็นอะไรอีก..
..
..
..
“โอ๊ย ขี้จุ๊แต้ๆ..ไค่ฮาก(อยากอาเจียน) เน๊าะ โยนบะเยง(เจ้าชายเมกุฏิ์)”
นัต “มินเล” เอ่ยขึ้นอย่างหมั่นไส้ ต่อท่าทางการให้การของเจ้านางอุบลวรรณา ..กับ เจ้าชายเมกุฏิ์ พร้อมทำท่าแกล้งอาเจียน..
แต่เลือดพิษ และอวัยวะภายใน กลับพุ่งไกลออกมาโดนที่ศีรษะ ..นัตช่างตีเหล็ก
”มินมหาคีรี” ที่นั่งอยู่แถวข้างหน้า..จนเลอะเทอะทั่วศีรษะที่มีผมบางหรอมแหรม..
นัต”มินมหาคีรี” หันมามองด้วยดวงตาโกรธลุกเป็นไฟ พลางเอามือลูบผมหรอมแหรม ..
แล้วจึงคว้าเครื่องดนตรีของคุณหมอชอว์(ในร่างคนธรรพ์) ที่วางอยู่บนบัลลังก์..ฟาดสวนลงที่กะโหลกของ นัต”มินเล” ที่แตกอยู่บ้างแล้ว..เต็มแรงด้วยความโมโห..
“โป๊กกกก!!!”
จนทำให้เกิดไฟลุกท่วม นัต
”มินเล” และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายที่คล้ายสมรภูมิย่อมๆ ของคณะลูกขุน นัต 36 ตน
เมื่อนัต”มินคยี” ผู้พี่ของนัต”มินเล” คว้าไส้ที่กองอยู่ข้างๆของ ..นัตพระเจ้าอนิรุทธมหาราช ผู้ซึ่งสิ้นพระชนม์ด้วยถูกควายขวิดไส้ทะลัก..เอามาฟาดที่ศีรษะส่วนที่โล้นเหน่งของนัตช่างตีเหล็ก
”มินมหาคีรี”..อย่างจัง..
และบังเอิญว่า ส่วนตับ ที่ติดกับไส้นั้น กลับกระเด็นลอยไปเสียบติดอยู่ ..ขลุ่ยวิเศษของนัตนางฟ้า ”มานีเลย์ “ จนเกิดเหตุปะทะเพิ่มอีกหนึ่งคู่..
และตามมาด้วยเสียงกรีดร้องหัวเราะโหยหวนของเหล่านัตหญิง “เลย์ พาร์” มีครรภ์ ในชุดสีดำทั้ง 4 .. ที่ชอบใจกับความวุ่นวายนี้..
..
..
..
“แหะๆ..โชคดีของกระผมยิ่งนักนะขอรับคุณหลวง ..
ที่กระผมรู้สึกสังหรณ์จึงมิได้นั่งอยู่ในคณะลูกขุนนั้น..
มิฉะนั้น ป่านนี้ กระผมคงมีไส้ ตับ ม้าม หัวใจ เป็นเครื่องประดับ เช่นนัตนางฟ้ามานีเลย์ ในขณะนี้เป็นแน่ เลยนะขอรับ.. แหะๆ”..
คุณหมอชอว์หัวเราะ แห้งๆ และยกแขนขึ้นปาดเหงื่ออีกครั้ง ..เมื่อเห็นเหล่านั้นตีกันด้วยอวัยวะภายใน และของวิเศษ ทวีความรุนแรงและวุ่นวาย..ยิ่งขึ้น
..
..
“หยุด !!!!!!..”
“หยุด ทำตัวเป็นเด็กเล่น ตีกันได้แล้วนะเจ้าคะ..
บรรดาคณะลูกขุน นัตนอกกำแพงทุกตน..”
คุณหนูฆฤณ ตะโกนด้วยเสียงแหลมใส สูงขึ้น ห้ามความวุ่นวายของเหล่านัต พร้อมกับชี้นิ้ว และทำท่าดุดันแยกเขี้ยวพูดราวกับยักษ์ร่างใหญ่ ว่า..
“หากผู้ใดยังคิดจะสร้างความวุ่นวายอีก.. เดี๋ยว
ฆฤณ ผู้เป็นบุตรของ
ท่านท้าวเวสสุวรรณจะจับกิน..ให้หมดทุกตน เลยนะเจ้าคะ !!”
“หึหึหึ“ ท่านท้าวเวสสุวรรณ พยายามกลั้นหัวเราะ กับท่าทางอันห้าวหาญ ของลูกสาวคนโปรด แล้วจึงมองด้วยสิทธิอำนาจไปยังเหล่าคณะลูกขุน ก่อนที่จะยกกระบองทรงฤทธิ์กระแทกลงกับพื้น..
“ตึง ตึง “
“ขอให้สำรวมอาการ และร่วมไต่สวนในคดี กันต่อเถิด..”
เหล่าคณะนัต ..จึงเกรงกลัวได้สติ กลับมาสำรวม ..
จัดแจงเก็บอวัยวะของตน แล้วเช็ดคราบอันสกปรกนั้นเสีย..
“ท่านพ่อ เจ้าคะ.. ลูกฆฤณ อยากจะขอเบิกตัว หม่องวินและผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สยดสยองที่เมืองเชียงใหม่ขึ้นให้การพร้อมกับเจ้าอุบลวรรณา ได้รึไม่เจ้าคะ..
คุณหนูฆฤณ เอ่ยขอท่าน
ท้าวเวสสุวรรณด้วยความสุภาพ..
ท่านท้าวเวสสุวรรณพยักหน้ารับ แล้วจึงหันไปหารือกับพระวัยทัต..
“ขอพระวัยทัตช่วยแจ้งข้าด้วยว่า หมอผีหม่องวิน นี้สิ้นอายุขัยแล้ว หรือไม่..”
พระวัยทัต จึงหยิบไม้เท้าจตุรอาชาขึ้นวาดกลางอากาศ พิจารณาหา ชาตะ มรณะของหมอผีหม่องวิน..แล้วจึงตอบว่า ..
“หม่องวินผู้นี้ ได้ถูกฆาตกรรม ก่อนเวลาสิ้นอายุขัยจริง ถึง 26 ปี อันเนื่องมาจากบาปหนัก.. ขณะนี้เป็นวิญญาณเร่รอนหลงทางอยู่ ขอรับ ..ท่านท้าวฯ..
ถ้าเช่นนั้น กระผมจึงขออำนาจของท่านท้าวฯ เรียกวิญญาณหมอผี หม่องวิน และเหล่าผู้เสียชีวิตนั้น ขึ้นให้การ ตามความปรารถนาของท่านท้าวฯ และคุณหนูฆฤณ นะขอรับ..”
“ขอให้เป็น ตามที่พระวัยทัตกล่าวแล้วเถิด..”
ท่านท้าวเวสสุวรรณกล่าวอวยชัย พร้อมอนุญาติให้พระวัยทัตเรียกบรรดาเหล่าวิญญาณพยาน ขึ้นให้การ..
..
..
“ ขอเชิญ นำตัววิญญาณผีเร่ร่อนหลงทางหม่องวิน และวิญญาณผู้ประสบเคราะห์อันถึงแก่ชีวิต จากเหตุการณ์ที่เชียงใหม่ ขึ้นให้การ ณ.บัดนี้..”
พระวัยทัตประกาศก้องด้วยถ้อยคำที่เต็มด้วยสิทธิอำนาจ..พร้อมไฟสีเขียว ที่พุ่งขึ้นปรากฏหนาแน่น..
ขึ้นในคอกไต่สวนของเจ้าอุบลวรรณา..
“เจ้าหม่องวิ๋น.. นี่เจ้า..”
เจ้าอุบลวรรณาอุทานด้วยความตกใจ เมื่อไฟสีเขียวค่อยๆมอดลง .. และปรากฏร่างของหม่องวินจ้องหน้าด้วยความเคียดแค้น พร้อมกับร่างไหม้เกรียมของผู้เคราะห์ร้าย ที่ส่งกลิ่นน่าสะอิดสะเอียน อย่างยิ่ง..
..
..
#ณ.บริเวณด้านหลังงานเลี้ยงตำหนักในเขตพระนคร
“คุณไกรสร!!” คุณหนูน้อยซ์เผลออุทานเสียงดัง จนคุณไกรสรเดินเข้ามาใกล้ และทำสัญญาณจุ๊ปากให้ เบาเสียงลง
“ทำไมต้องทำหน้าตกใจ ราวกับเห็นผี เช่นนั้นละครับ คุณหนูน้อยซ์..”
คุณไกรสรยิ้มทักคุณหนูน้อยซ์ และจี้ถามต่ออีกว่า..
“ตามหาคุณหนูพา พบหรือยังนะขอรับ คุณหนูน้อยซ์
กระผมรู้สึกเป็นห่วงคุณหนูพาเช่นกัน จึงเดินมาชวนคุณหนูน้อยซ์ .. ไปเดินตามหากันอีกสักรอบ น่ะขอรับ..”
คุณหนูน้อยซ์ค่อยๆรวบรวมความคิด ขณะที่จ้องหน้าคุณไกรสรนิ่ง ก่อนที่จะตอบด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว ว่า..
“เราอย่าอ้อมค้อม เสียเวลากันเลย นะเจ้าคะ..”
“เราถามคำถามตรงๆกันคนละข้อ โดยสลับกันถาม แบบตรงประเด็น.. กันไปเลยจะดีกว่านะเจ้าคะ...
คุณไกรสรกล้าเล่นเกมคำถามนี้ กับหนูน้อยซ์หรือไม่ นะเจ้าคะ..”
“ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ กล้าสิขอรับ..ขอเชิญคุณหนูน้อยซ์เริ่มถามก่อนได้เลยนะขอรับ..”
คุณไกรสร ตอบคุณหนูน้อยซ์ แทบจะในทันที..
คุณหนูน้อยซ์พยักหน้ายิ้มรับ ยกมือไหว้สวัสดีขอบคุณสวยงาม.. แล้วจึงเริ่มคำถามแรกว่า..
“คุณไกรสรคิดแผนร้ายต่อสยาม อย่างไรกัน..รึเจ้าคะ”
คุณหนูน้อยซ์ยิ้มตาหยี รอฟังคำตอบจาก คุณไกรสร..
ที่สะอึกนิ่ง ต่อคำถาม ที่แสนจะตรงไปตรงมาของข้าหลวงตัวน้อยจากปักษ์ใต้ คนนี้..
..
..
จบบทที่ 4 ตอนที่ 9
..
..
#เกร็ดเพิ่มเติม
-นัตสองพี่น้องตระกูล Taungbyon คนพี่ชื่อ Min Gyi คนน้องชื่อ Min Lay ทั้งคู่เป็นเสนาบดีในราชสำนักของพระเจ้าอนิรุทธมหาราช คนพี่ “มินคยี/มินจี” เป็นคนสุขุม เงียบขรึม เคร่งศาสนา ส่วนคนน้อง “มินเล” เป็นนักรักเจ้าสำราญ ..
ทั้งสองพี่น้องนับถือศาสนาอิสลาม การบูชาต้องเลี่ยงการถวายหัวหมู ความตายของสองพี่น้องมาจากช่วงที่กำลังควบคุมการก่อสร้างศาสนสถานให้พระเจ้าอนิรุทธมหาราชอยู่นั้น พวกเขาจัดหาอิฐมาก่ออาคารได้ไม่ทันใจกษัตริย์ จึงถูกลงโทษด้วยการสั่งให้ตัดอัณฑะทิ้ง จนกระทั่งเสียชีวิต
สองพี่น้องได้รับการสถาปนาให้เป็นนัตลำดับที่ 9 บนเขาโปปา ดังนั้น ชาวบ้านที่อยู่รายรอบกรุงพุกามเป็นที่รู้กันโดยนัยว่า จะต้องเลี่ยงทุกอย่างที่เป็นหมายเลข 9 (Lucky Number ของพม่า)
เราจะไม่พบบ้านเลขที่ 9 หมายเลขลำดับสิ่งของต่างๆ ละแวกนี้จาก 8 จะข้ามไปเป็น 10 เลย และไปไหนมาไหนเป็นหมู่คณะ มักไม่นิยมการเดินทางจำนวน 9 คน
-ในกรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เช่น จำนวนของผู้เข้าประชุมมี 9 คน จะไปตัดไปเพิ่มใครก็ไม่ได้ มีวิธีแก้เคล็ดด้วยการเอาก้อนหินมาวางบนโต๊ะ 1 ก้อน แล้วขานชื่อก้อนหินนั้น ว่าเป็นผู้ร่วมประชุมคนที่ 10
นัตองค์สำคัญก็คือพระเจ้าอนิรุทธมหาราชนั่นเอง พระองค์สิ้นพระชนม์ด้วยถูกควายขวิดไส้ทะลัก
คนที่บูชานัตองค์นี้ ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการสายนักบริหารที่ต้องการเลื่อนขั้น ตำแหน่ง ยศถาบรรดาศักดิ์ให้สูงขึ้น..
สวัสดี และขอจบเพียงเท่านี้
ขอบคุณครับ
ร้อยเรียงจันทร์เจ้าขา
(T.Mon)
30/9/2020
ข้อมูลสนับสนุนส่วนหนึ่ง:
-มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 11 - 17 ตุลาคม 2562, คอลัมน์ ปริศนาโบราณคดี