6 พ.ย. 2020 เวลา 09:46 • ปรัชญา
๕๖. จากสมุดอนุทิน
คำท้าของขลุ่ย ปี่ ฯลฯ มีว่า
“เร็วสิ ลองเข้ามาเล่นกับข้า ถ้าพลังสมาธิของเจ้าถึงระดับพอจะล่วงรู้ความจริงในตัวข้า จงลองแล้วเราจะบรรเลงเพลงด้วยกัน”
แล้วเราก็เข้าไปลองเล่นอย่างจริงจังสลับกับความเบื่อหน่าย ครั้งแล้วครั้งเล่า ปีแล้วปีเล่า เราก็เป่าขลุ่ย ปี่ ร้องเพลง แต่ก็ล้มเหลว เราเอาชนะเครื่องมือไม่ได้ หากแต่ประสบการณ์บอกว่า เราไม่มีวันชนะเรามีแต่วันเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ
อยู่มาวันหนึ่ง ความเป็นไปเกี่ยวกับเครื่องมือก็ปรากฏให้เห็น ร่างกายคือเครื่องมือ และใจเป็นอันเดียวกับกาย และชีวิตเป็นอันเดียวกับปี่ ขลุ่ย และทุกสิ่งที่เนื่องกับชีวิต
คำของชีวิตต่อขลุ่ย มีว่า “ชีวิตแสดงออกผ่านเครื่องมืออันสัตย์ซื่อและเป็นอนันต์ มีดนตรีอันเป็นอนันต์อยู่ในขลุ่ย เพราะว่าหัวใจที่บ่มความรู้สึกถึงความสุกสว่าง คือแหล่งที่มาของดนตรี”
เราเริ่มเรียนรู้เพลงจากเครื่องมือ เราเคยคิดจะเป่าขลุ่ยให้เป็น และเบื่อหน่ายที่เป่าไม่เป็น แล้วเราก็เริ่มบ่มความรู้สึกของหัวใจ วันแล้ววันเล่า แล้วอยู่ต่อมา เราพบว่ามีเพลงขลุ่ยผิวแผ่วออกมาจากใจ และความซึ้งใจในหัวใจตนเป็นอันเดียวกับความงามในเพลงขลุ่ย
๓ พ.ย.๒๕๓๐
จากหัวใจ เราพบว่ามันรู้จักขลุ่ยราวมิ่งมิตร และแล้วหัวใจกับขลุ่ยก็รักกันมากขึ้น
กัลยาณมิตรทั้งคู่ค่อย ๆสรรค์สร้างการงานแห่งมิตรภาพวันแล้ววันเล่า
ทั้งผู้เป่าและขลุ่ยค่อย ๆ เลือนหายไปในการงานแห่งมิตรภาพ
ท่วงทำนองกับจังหวะจะโคนค่อย ๆ กระซิบกระซาบกันไป แล้วศิลปะค่อย ๆล้มตัวลง หลอมละลายตัวเองเป็นทองคำปูลาดเป็นถนนชีวิต
ก้าวย่างของมันเองพิพากษาวันเวลา และใช้งานมันอย่างงดงามคุ้มค่า
๒๖ ธ.ค.๒๕๓๐
ผู้สิ้นแรงจูงใจ อยู่เหนืออารมณ์ที่เข้ามาจูงใจย่อมอยู่เหนือความงามเหนือศิลปะ
เส้นร่างที่ผิด ๆ หลายเส้นนั่นเองทำความงามสมบูรณ์ให้แก่ภาพ เช่นเดียวกับความล้มเหลวนานาประการหากชีวิตยังคงแช่มชื่นอยู่ได้ ความงามก็อยู่ตรงนั้น
การสังวรในความผิดพลาดนั้นเองคือมรรค คือการก้าวไป ก้าวไปสู่ความผิดพลาดน้อย จนถูกต้อง
แต่ความถูกต้องนั้นงดงามด้วยภูมิหลังของความผิดพลาด
๔ ม.ค.๒๕๓๑
ในการสร้างสรรค์ศิลปะ การเกิดภาพนิมิต (Vision) การเห็นรวดเดียวตลอดนั้นเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญยิ่ง
ต่างว่านายช่างผูกลายตามแบบฉบับของครูหาประสบการณ์มาเรื่อย มาถึงวันหนึ่ง ขณะหนึ่ง เกิดเห็นลายโบกสะบัดในมโนนึก เขาเห็นรวดเดียวและทั้งหมด ต่อแต่นั้นเขาก็สร้างงานจนได้ตามเห็น การแตกลายละเอียดก็ตามมา
หากไม่เกิด Vision แล้วการแตกลายก็เกิดจากฝีมือ เป็นเพียงความฉลาดในการเรียบเรียง (ถ้อยคำ- ในกวี สีเส้นในจิตรกรรม) สีสัน เส้นสายเท่านั้น หามีพลังสร้างสรรค์ไม่
๙ เม.ย.๒๕๓๑
เสน่ห์แห่งศาสนาในงานศิลปะเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะว่ามันเป็นความสุขใจเงียบ ๆ บริสุทธิ์ ห่างไกลความเหลวแหลก
หากว่าการก้าวหน้าในทางศิลปะเป็นเหตุให้เสน่ห์แห่งศาสนาในงานต้องหมดสิ้นไป ก็ควรที่ศิลปินต้องสังวรและรู้ว่ากำลังหลงทาง
งานศิลปะแห่งศาสนา (ซึ่งมี Religious Touch เป็นลักษณะ) นั้นเป็นงานเชื่อมอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต เป็นงานเหนือกาลเวลา มีเสน่ห์มนต์ขลังอยู่ในตัวมันเอง
การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ต้องสังวรว่ามันเข้ามาทำลายเสน่ห์แห่งบรรยากาศของศาสนธรรมหรือไม่
รามเกียรติ์ นาฏลักษณ์ (Dance) ของชาวฮินดูในรามายณะนั้น มีอาการภวังค์และสมาธิสูงทั้งนี้เพราะเป็นระบำทางศาสนา เป็นการบวงสรวง
การกระทำนี้เป็นศาสนกิจ (หรือดังที่เรียกว่าศุขศาสนา) ศิลปินฮินดูจะใส่ใจทุก ๆ ตอนและแสดงท่วงท่าอย่างลึกซึ้ง แม้ตอนที่ชาวพุทธมองข้าม เช่น ตอนชตายุ (สดายุ) เข้ารบราวันตอนลักสีดา ท่วงท่าของชตายุของชวานั้นสง่า นิ่ง และเคลื่อนไหวอย่างงดงาม
๒๖ เม.ย.๒๕๓๑
จากหนังสือ: อันเนื่องกับทางไท (พุทธิปัญญาสู่งานศิลป์ มรดกของแผ่นดินไทย ที่คนไทยทุกคนควรรู้)
โฆษณา