7 พ.ย. 2020 เวลา 10:04 • ปรัชญา
๕๗. สัมภารบารมี
ความเชื่อประการหนึ่งซึ่งเคยแน่นแฟ้นและหนักแน่นมากในสังคมไทย แต่ทุกวันนี้กลับลางเลือนไปพร้อมกับความผันแปรทางจริยธรรม ศาสนธรรม การเมือง หรือแม้แต่เศรษฐกิจ คือความเชื่อเรื่อง “สัมภารบารมี” หรือการสั่งสมบารมีเพื่อพระโพธิญาณ
สัมภารบารมี เป็นเรื่องเกี่ยวพันกับการเวียนว่ายตายเกิด ซึ่งอาจถือเป็นเรื่องเหลวไหลสำหรับคนสมัยใหม่ที่มักเน้นหนักเรื่องเหตุผลนิยม
ความจริงความเชื่อเรื่องสัมภารบารมีนี้สำคัญมากนัก เนื่องจากเป็นแนวคิดที่สะท้อนความผูกพันระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ มนุษย์กับสัตว์ มนุษย์กับต้นไม้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องมองในมิติที่ลุ่มลึก ในลักษณะข้ามภพข้ามชาติจึงจะหนักแน่นและแน่นแฟ้น มิใช่เป็นมองเพียงช่วงชีวิตที่ปรากฏและตาย
สัมภารบารมีหมายถึงการสั่งสมบารมีเพื่อเข้าถึงฝั่ง จากฝั่งของภพชาติไปสู่ฝั่งพระนิพพาน ความเชื่อนี้ได้ถ่ายทอดมาควบคู่กับทุกชีวิต แม้องค์พระมหากษัตริย์ก็ดี หรือผู้นำที่มีบารมีใหญ่ บารมีกว้าง หรือแม้แต่ยาจกขอทานในอดีต ล้วนได้รับอิทธิพลจากความเชื่อนี้
หลักฐานที่เป็นพยานความเชื่อ เรื่องสัมภารบารมีในประเทศอินโดนีเซียคือ โบราณสถานโบโรบุโด “สัมภาระ” หรือ “ภารา” คำ ๆ นี้เปรียบได้กับคำว่า “โบโร”
โบโรบุโด จึงหมายถึง “ภาราภูธระ” หรือภูเขาแห่งการสั่งสมบารมี อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการสั่งสมบารมีเพื่อเข้าถึงพระโพธิญาณ
การใช้คำว่า “ภูธร” ซึ่งหมายถึงแผ่นดินแฝงนัยอุปมาว่า สัตว์ ต้นไม้ ทุกชนิดต้องอาศัยแผ่นดินนี้เจริญงอกงาม ถ้าไม่มีแผ่นดินก็ไม่มีสิ่งใดเหลือรอดได้ สิ่งนี้มีความสำคัญเพราะทำให้เกิดการวางทีท่าต่อสรรพสิ่งอย่างดียิ่ง
เก็บความจากการสนทนากับท่านเขมานันทะ ณ บ้านพักเขตมีนบุรี
๑๐ มกราคม ๒๕๓๗
รูปพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ซึ่งมีพระพุทธรูปประทับที่หน้าผากเป็นสัญลักษณ์ของเมตตาและปัญญา แต่มีรูปพระโพธิสัตว์อีกพระองค์หนึ่งซึ่งที่หน้าผากไม่ใช่พระพุทธรูป แต่เป็นพระสถูป
พระโพธิสัตว์องค์นี้คือ พระเมตไตรย ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้ในอนาคตและสถูปนี้เองที่เป็นสัญลักษณ์ของสัมภารบารมี
ความรางเลือนในความเชื่อเรื่องนี้ทำให้ความเอื้ออาทรในมิติที่ลุ่มลึกเหือดหายไป การฆ่าการทำลายจึงเกิดได้ง่ายขึ้น เพราะมนุษย์คิดว่าดีชั่วไม่มี ชาติหน้าไม่มี หากโกรธใครก็จัดการ วิกฤติการณ์ทุกทางจึงเกิดจากการสูญสิ้นรากฐานและความเชื่อมั่นในการสั่งสมบารมีเพื่อเข้าถึงฝั่ง
หากลองพิจารณาถึงคุณค่าด้านต่าง ๆ ที่สัมพันธ์กับเรื่องนี้ เช่น ผมเชื่อว่าทรัพย์สินมีทั้งที่มีวิญญาณครองและไร้วิญญาณครอง เช่น เงินทอง ลูกเมีย ช้างม้า ถือเป็นทรัพย์ ทรัพย์แปลว่า สิ่งชื่นชูใจ
โดยความเชื่อเดิมนั้น สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นด้วยอำนาจการสั่งสมบารมีทำให้ได้เมียดีได้ลูกดี
ดังนั้นถ้าผมจะหย่าเมีย ผมต้องคิดหนัก เพราะเคยรักกันมาเคยอธิษฐานร่วมบารมีกันมาหลายแสนชาติ จะมาทิ้งกันง่าย ๆ ได้อย่างไร
ความเชื่อที่แฝงอยู่ในส่วนลึกนี้เรียกว่าสัมภารบารมี ซึ่งจะเป็นกลไกป้องกันระงับความรุนแรงอย่างดีเยี่ยม
หรือถ้าผมไปเด็ดหัวจิ้งหรีด ก็เท่ากับผมทำลายบารมีของเขาและทั้งบารมีในตัวผมเองก็จะลดลงด้วย เพราะทำบาปและทำร้ายสัตว์ผู้น่าสงสาร ซึ่งกำลังสั่งสมบารมีขึ้นมาเพื่อเป็นมนุษย์ เพื่อเข้าถึงพระโพธิญาณ เช่นเดียวกันคุณค่าด้านอื่น ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน การรักษาศีล ประกอบอยู่ในความเชื่อเรื่องนี้ทั้งสิ้น
เก็บความจากการสนทนากับท่านเขมานันทะ ณ บ้านพักเขตมีนบุรี
๑๐ มกราคม ๒๕๓๗
โฆษณา