Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คลังความรู้ by SpokeDark
•
ติดตาม
14 พ.ย. 2020 เวลา 04:00 • ประวัติศาสตร์
กองทัพเดินด้วยท้อง! ประวัติศาสตร์การกินของเหล่าทหารตั้งแต่นักรบสปาร์ตันยันปัจจุบัน ระหว่างรบเขากินอะไร?
WIKIPEDIA CC CHRISTOPERLIN
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
มนุษย์ทำสงครามห้ำหั่นกันมาตลอดระยะเวลาหลายพันปี เคยสงสัยหรือไม่ว่าทหารในแต่ละยุคสมัยพวกเขารับประทานอะไรกันระหว่างรบ ทหารของใครที่ได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด อาหารของทหารในสงครามในแต่ละยุคมีการพัฒนาการไปอย่างไรบ้าง
ในสมัยกรีกโบราณชาวสปาร์ตาได้สร้างวัฒนธรรมการอุทิศตนให้กับการต่อสู้ เด็กน้อยวัยเพียง 7 ขวบก็ต้องเข้าค่ายทหารเพื่อฝึกแล้ว การฝึกฝนเข้มข้นและหนักหน่วงทำให้พวกเขาเชื่อฟังคำสั่งเป็นอย่างดีและมีความอดทนต่อความยากลำบากทั้งปวง นักรบชาวสปาร์ตาไม่ได้คาดหวังว่าตนเองจะได้รับอาหารที่เลิศหรู ขอเพียงแค่มีให้กินก็พอแล้ว ในสนามรบอาหารของพวกเขาคือน้ำซุปดำที่ทำจากเลือด ขาหมูต้มน้ำส้มสายชู ว่ากันว่าอาหารพวกนั้นน่าขยะแขยงจนขนาดที่นักรบสปาร์ตาต้องรีบต่อสู้ให้ชนะเพื่อที่จะได้ไม่ต้องทนกินมันอีกต่อไป
WIKIPEDIA PD
กองทัพของชาวโรมันที่ยึดครองโลกโบราณได้รับประทานอาหารคุณภาพดี มีอาหารหลักเป็นข้าวบาร์เลย์และข้าวสาลี ทหารจะได้เนื้อหนึ่งปอนด์ต่อวัน นอกจากนี้แล้วยังได้รับประทานอาหารชั้นดีอย่างเบคอน ชีสและไวน์ กองทัพของชาวโรมันยังเดินทางและเลี้ยงสัตว์ไปพร้อมๆ กันเพราะความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์สดๆ และปริมาณเนื้อสัตว์ปริมาณมากที่ต้องใช้เลี้ยงทหารในแต่ละวัน
ปี ค.ศ. 1095 พระสันตะปาปาเออร์บันที่ 2 ได้เรียกร้องให้ทำสงครามครูเสดครั้งที่ 1 ชาวยุโรปคนกว่า 100,000 คนตอบรับด้วยการเดินเท้าเข้าสู่เยรูซาเล็มเพื่อยึดเมืองคืน ในช่วงเวลานั้นไม่มีกองทัพที่จะคอยดูแลสวัสดิการ ทหารที่เข้าร่วมรบจะต้องนำอาหารติดตัวมาเอง อาหารของพวกเขามักจะเป็นเนื้อตากแห้ง โจ๊กพร้อมผลไม้หรือชีสถ้าสามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อเองได้ ทหารบางคนถึงกับต้องขายทรัพย์สินมาเป็นทุนรอนในการสู้รบเลยด้วยซ้ำ และในระหว่างการบุกโจมตีเอเคอร์ที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1189-1191 มีการหยุดโจมตีถึงสองครั้งเพื่อหาอาหาร ดังนั้นจึงพอจะอธิบายได้ว่าทำไมถึงได้ใช้เวลาถึงสองปีในการยึดเมือง
1
WIKIPEDIA PD
กองทัพของเจงกิสข่านที่ได้พิชิตดินแดนกว้างใหญ่มีการปันส่วนของโยเกิร์ตแห้ง ชาวมองโกลนั้นไม่ได้เร่ร่อนเป็นชาวนา แต่ส่วนใหญ่ดำรงชีวิตด้วยการบริโภคผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ พวกเขาแบ่งอาหารเป็นสีขาวและแดง อาหารสีขาวคือนม ในขณะที่อาหารสีแดงคือเนื้อสัตว์ นอกจากนี้เมื่อต้องเดินทางเป็นระยะเวลานานๆ ยังมีการเจาะคอม้าเพื่อดื่มเลือดม้าอีกด้วย
ในปี ค.ศ. 1683 ออตโตมันได้ปิดล้อมเวียนนาจนเกือบจะยึดเมืองได้โดยทหารราบที่เรียกว่า Janissary ออตโตมันมีการปันส่วนอาหารให้แก่ทหาร ทหารออตโตมันมีอาหารเป็นขนมปังที่อบใหม่ๆ เนื้อแกะรวมถึงอาหารฟุ่มเฟือยอย่างน้ำผึ้งและกาแฟ แต่เมื่อไม่มีขนมปังอบสดๆ พวกทหารก็จะกินบิตกิตที่ปรุงในกรุงอิสตันบูลแล้วส่งต่อไปให้แทน ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 มีการพบเตาอบขนมปังกว่า 105 เตาที่คาดว่าเป็นเตาสำหรับอบบิสกิตส่งไปให้ทหาร ในบางครั้งคนอบขนมปังที่ไม่ซื่อสัตย์ก็ใช้พวกฝุ่นดินแทนแป้งขนมปังทำให้ทหารที่รับประทานบิสกิตแบบนี้เกิดความเจ็บไข้ได้ป่วย
WIKIPEDIA PD
ในช่วงการปฏิวัติสร้างชาติอเมริกา กองทัพของจอร์จ วอชิงตันมีข้อได้เปรียบที่พวกเขาต่อสู้บนผืนแผ่นดินตัวเอง ดังนั้นการส่งเสบียงจึงเป็นไปได้ง่ายกว่ากองทัพของอังกฤษที่ต้องส่งเสบียงและอาวุธยุทโธปกรณ์ข้ามแผ่นดิน แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากสภาคองเกรสไม่มีอำนาจในการจัดเก็บภาษีทำให้ขาดเงินทุนในการซื้อเสบียงแก่ทหารและยังเกิดปัญหาจากการขนส่งทำให้ทหารนั้นอยู่ไปวันๆ โดยไม่มีการปันส่วนหรืออาจจะได้รับอาหารเพียงเล็กน้อยแถมเนื้อสัตว์ก็ยังมีสภาพไม่ดีนัก จนกระทั่งปี ค.ศ 1775 สภาคองเกรสได้ตัดสินใจกำหนดให้มีการปันส่วนเนื้อวัวหนึ่งปอนด์ และแป้งหรือขนมปังหนึ่งปอนด์ต่อวัน ถั่วสามปอนด์ต่อสัปดาห์ นมหนึ่งไพน์ต่อวัน เบียร์หรือไซเดอร์วันละหนึ่งควอทและกากน้ำตาลอีกเล็กน้อย แต่กองทัพก็ยังไม่สามารถจัดหาได้ตามประกาศจึงได้มีการขอบริจาคจากพลเรือน ภายหลังสภาคองเกรสได้กดดันให้จอร์จ วอชิงตันยึดอาหารแต่เขาปฏิเสธเนื่องจากว่าการกระทำนี้อาจส่งผลให้เกิดความแตกแยกได้
WIKIPEDIA PD
ปี ค.ศ. 1812 การเข้ายึดรัสเซียของนโปเลียนล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าเพราะความอดอยากและล้มตายของทหาร นโปเลียนเริ่มการเดินขบวนด้วยทหาร 600,000 นาย แต่มีเพียง 250,000 รอดชีวิต ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นข้อพิสูจน์อย่างดีว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง
ในช่วงสงครามกลางเมืองของอเมริกา กองทัพสหภาพได้รับประทานอาหารเป็นเนื้อสัตว์ แป้งและผักอบแห้ง จอห์น บิลลี อดีตทหารผ่านศึกกล่าวว่าเขาได้รับประทาน “เนื้อหมักเกลือและเนื้อสดแต่ไม่ค่อยมีแฮมหรือเบคอน มีขนมปังแข็งหรือขนมปังเนื้อนุ่ม มันฝรั่ง บางครั้งก็มีหอมใหญ่ ถั่ว ถั่วซีก ข้าว แอปเปิลแห้ง พีชแห้ง กาแฟ ชา น้ำตาล กากน้ำตาล พริกไทย เกลือ และสบู่ ในความเป็นจริง กากน้ำตาลถือเป็นเสบียงพื้นฐานของกองทัพสหรัฐตั้งแต่การปฏิวัติอเมริกา
ทหารอเมริกันในสงครามสเปน-อเมริกา เป็นคนกลุ่มแรกที่ได้รับอาหารกระป๋องในการปันส่วนทางทหาร แต่เทคนิคการบรรจุกระป๋องนั้นย่ำแย่จนทำให้เกิดการปนเปื้อนของแบคทีเรียจนทำให้เกิดอาหารเป็นพิษจนถึงชั้นเสียชีวิตหลังจากรับประทาน ซึ่งจำนวนผู้เสียชีวิตจากการรับประทานอาหารกระป๋องในขณะนั้นสูงกว่าผู้เสียชีวิตในสงครามเสียอีก
WIKIPEDIA PD
ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ทหารอเมริกันได้อาหารสำรองที่ถูกออกแบบมาเพื่อการเดินทางไกลในต่างประเทศโดยไม่ได้สนใจเรื่องรสชาติสักเท่าไหร่ ทหารได้รับประทานเนื้อ ผัก และแครกเกอร์ที่แข็งปั๋งจนบางคนเรียกมันว่าขนมปังกรอบของสุนัข รวมถึงยังมีบุหรี่และลูกกวาดในนั้นอีกด้วย
WIKIPEDIA PD
ต่อมาในสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพอเมริกาก็ได้มีการพัฒนาอาหารปันส่วนเสียใหม่ โดยออกแบบให้มีน้ำหนักเบา พกพาง่าย มีอยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบคือ C-ration, D-ration และ K-ration โดย C-ration และ D-ration ประกอบด้วยเนื้อวัวกระป๋อง มันฝรั่ง บิสกิต ลูกกวาดและกาแฟสำเร็จรูป รวมถึงยังมีบุหรี่ หมากฝรั่งมาพร้อมกับกระดาษชำระ มันถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นอาหารมื้อสุดท้ายจริงๆ ในกรณีที่ไม่สามารถหาอาหารอื่นๆ รับประทานได้แล้ว ส่วน D-ration คือช็อคโกแลตแท่ง
ในช่วงสงครามเวียดนามชุดอาหารปันส่วนของทหารแต่ละคนประกอบไปด้วยเนื้อ อาวุธ แครกเกอร์ คุกกี้ แอปเปิลซอสและเค้ก ในชุดปันส่วนของทหารยังมียารักษามาลาเรียชนิดเม็ด เกลือแร่ชนิดเม็ดและยาแก้ท้องร่วงด้วย
WIKIPEDIA PD
กองทัพอเมริกันได้เปิดตัวอาหารปันส่วนแบบใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1980 ที่เรียกว่า MREs (Meals, Ready to Eat) ทหารจะได้รับเป็นถุงปิดผนึกอย่างดีแทนกระป๋อง โดยมีอาหารมากมายหลายแบบรวมถึงอาหารโคเชอร์ ฮาลาลและอาหารมังสวิรัติ และในปี ค.ศ. 2018 มีการพัฒนาให้ MREs สามารถคงความสดได้นานถึง 3 ปี และทหารยังสามารถสั่ง MREs หมายเลข 23 ที่ประกอบไปด้วยพิซซ่า, ขนมปังแท่ง, พายบลูเบอรี, เครื่องดื่มโปรตีนรสช็อคโกแลตและคุกกี้ได้
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
WIKIPEDIA CC CHRISTOPERLIN
6 บันทึก
15
1
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ประวัติศาสตร์ II
6
15
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย