11 พ.ย. 2020 เวลา 11:45 • ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ “ทาส”
“ทาส” มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่นับพันปี
ทาสยุคแรกๆ คือเชลยที่ถูกจับในสงคราม และถูกบังคับให้เป็นทาส
ที่อียิปต์ ทาสนั้นมีความสำคัญมาก โดยทาสส่วนมากคือนักโทษสงคราม อาชญากร และลูกหนี้ที่ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้
ชาวอียิปต์จะทำการซื้อทาสจากดินแดนใกล้เคียง และบังคับให้ทาสโกนหัว เพื่อที่จะได้แยกแยะทาสออกจากคนทั่วไป
ทาสในอียิปต์โบราณ
ทางด้านกรีกโบราณ ชีวิตของทาสนั้นไม่โหดร้ายเท่าที่อียิปต์
ทาสในเรือนอาจจะสามารถเก็บเงิน และซื้ออิสรภาพให้ตนเองได้ และกลายเป็นพลเมืองเต็มตัว
ส่วนอาณาจักรโรมัน ภายหลังจากที่โรมันได้เข้ายึดครองดินแดนต่างๆ ก็ได้จับตัวนักโทษจำนวนมาก และบังคับให้เป็นทาส
มีการแบ่งทาสออกเป็นสองส่วน คือทาสในเรือน และทาสของรัฐ
ต่อมาจนถึงราวค.ศ.100 (พ.ศ.643) เจ้านายชาวโรมัน คือผู้ที่ชี้ความเป็นความตายให้แก่ทาส โดยทาสบางรายก็ได้รับการฝึกให้เป็นนักรบ
ทาสในโรมัน
ต่อมา ในราวปีค.ศ.150 (พ.ศ.693) ได้เริ่มมีการปรับปรุงกฎหมาย และทาสก็ได้รับการปฏิบัติที่ดีขึ้น
ต่อมา ได้เกิดระบบที่เรียกว่า “ข้าแผ่นดิน (Serfdom)” ซึ่งก็มีลักษณะคล้ายทาส ต่างกันตรงที่ว่า เจ้านายจะไม่ได้เป็นผู้ครอบครองทาส
ในหลายๆ กรณี ข้าแผ่นดินเหล่านี้จะทำงานบนแผ่นดินของเจ้านาย แลกกับการได้รับความคุ้มครอง โดยเจ้านายก็อาจจะแบ่งที่ดินบางส่วนให้
แต่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 เป็นต้นมา ทาสก็เริ่มจะมีบทบาทมากในยุโรป
ในเวลานั้น ชาติในยุโรปได้เริ่มจะหาเส้นทางใหม่ๆ ไปยังดินแดนที่ยังไม่เคยสำรวจ
การกวาดต้อนทาสผิวดำของชาวยุโรป
ในช่วงกลางศตวรรษที่ 15 นักสำรวจชาวโปรตุเกส ได้เริ่มออกสำรวจตามแนวชายฝั่งแอฟริกา เพื่อหาเส้นทางใหม่ๆ ไปอินเดีย
ระหว่างการสำรวจนี้เอง ได้มีการกวาดต้อนทาสกลับมาด้วยเป็นจำนวนมาก และได้นำทาสออกขายที่ตลาดค้าทาส
การค้าทาสแก่อาณานิคมอเมริกา ได้เริ่มต้นขึ้นในต้นศตวรรษที่ 17
1
ในช่วงแรก ทาสจะเป็นอิสระหลังจากรับใช้เจ้านายเป็นเวลา 21 ปี แต่ภายหลัง เวอร์จิเนียและแมรีแลนด์ก็ได้ออกกฎหมายที่กำหนดให้คนผิวดำต้องเป็นทาสตลอดชีวิต อีกทั้งยังกำหนดว่าบุตรที่เกิดจากทาสก็ต้องตกเป็นของเจ้านายของทาส
3
ทาสในสหรัฐอเมริกา
ที่สหรัฐอเมริกานั้น ทาสมีความจำเป็นมาก โดยเฉพาะกับรัฐทางใต้ หากแต่ก็ได้มีชาวอเมริกันหลายคนที่ต่อต้านการมีทาส และช่วยเหลือทาสอย่างลับๆ เกิดเป็นเครือข่ายที่เรียกว่า “ทางรถไฟใต้ดิน (Underground Railroad)” (ผมเคยเขียนซีรีส์เรื่องนี้ สามารถหาอ่านได้เลยครับ)
2
ในศตวรรษที่ 20 หลายๆ ชาติได้พยายามที่จะยกเลิกการมีทาสอย่างถาวร
1
ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง องค์การสหประชาชาติก็ได้ประกาศว่า
“คนทุกคนมีสิทธิในชีวิตและเสรีภาพ”
สำหรับที่ประเทศไทยนั้น “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” (รัชกาลที่ 5) ก็ได้ทรงเลิกทาสอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มต้นตั้งแต่ปีค.ศ.1874 (พ.ศ.2417) เป็นต้นมา
1
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” (รัชกาลที่ 5)
ถึงแม้ในทุกวันนี้ อาจจะไม่มีทาสอย่างชัดเจนแล้ว แต่สังเกตได้ว่าคนรอบตัวหลายๆ คนเป็น “ทาสแมว” นะครับ
1
โฆษณา