12 พ.ย. 2020 เวลา 09:43 • ธุรกิจ
SET ประกาศรายชื่อ 124 บจ. “หุ้นยั่งยืน”
Cr: Pixabay
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ประกาศรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน” หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) ประจำปี 2563 (11 พ.ย. 2563)
โดยในปีนี้มีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รายชื่อหุ้นยั่งยืนถึง 124 บริษัท เพิ่มขึ้นจาก 51 บริษัท ในปี 2558 (เพิ่มขึ้นกว่า 143%)
จากข้อมูลดังกล่าวได้สะท้อนว่าในปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนไทยให้ความสำคัญอย่างมากในการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อม และบรรษัทภิบาล (ESG) ในกระบวนการดำเนินงานมากขึ้น
Cr: Pixabay
แล้ว “หุ้นยังยืน” คืออะไร?
เราอาจจะจำกัดความได้ว่า “หุ้นยั่งยืน” เป็นหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มี “การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน” โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG)
1
เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนตามแนวทางของการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Investment)
Cr: www.setsustainability.com
หรืออาจจะกล่าวกันอีกนัยหนึ่งได้ว่านักลงทุนมองภาพไกลๆ ของ บจ. เหล่านี้ในระยะยาวว่าจะสามารถดำเนินกิจการได้อย่างยั่งยืนยาวนาน และไม่ได้ล้มหายตายจากไปง่ายๆ
รวมไปถึงเป็นกิจการที่ไม่ได้คิดถึงแต่ผลกำไร หรือผลประโยชน์ของตัวธุรกิจเองเพียงอย่างเดียว แต่คำนึงนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ด้วยนั่นเองครับ
เรียกได้ว่าเป็นหุ้นที่นักลงทุนมองแล้วว่าจะสร้างผลตอบแทนเคียงข้างพวกเขาไปได้ในระยะยาวก็คงจะไม่ผิด
การประเมินความยั่งยืน / Cr: www.setsustainability.com
โดยรายชื่อหุ้นยั่งยืน 124 บริษัท ในปีนี้เป็นบริษัทจดทะเบียนใน
* SET จำนวน 114 บจ.
** mai จำนวน 10 บจ.
ประกอบด้วยบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มต่างๆ ดังนี้
ทรัพยากร 21 บริษัท
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง 21 บริษัท
กลุ่มบริการ 20 บริษัท
กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม 17 บริษัท
กลุ่มเกษตรและอุตสาหรรมอาหาร 16 บริษัท
และกลุ่มอื่นๆ
โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 9.63 ล้านล้านบาท ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 หรือคิดเป็น 67% เมื่อเทียบกับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดทั้งหมดของ SET และ mai ซึ่งเท่ากับ 14.39 ล้านล้านบาท
ดูรายชื่อ บจ. ที่ได้รับคัดเลือกได้จากลิงก์นี้ครับ https://bit.ly/3plAeXR
จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่านักลงทุนในปัจจุบันเทน้ำหนักให้ความสำคัญกับเรื่องของ ESG มากขึ้น และถึงแม้ตัวเลขในงบการเงินจะสำคัญต่อ Sentiment ของนักลงทุนมาก
Cr: freepik.com
แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน บจ. ต่างๆ จะต้องให้น้ำหนักกับเรื่องความยั่งยืนมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน รวมถึงต้องพยายามเรียงร้อยเรื่องราวนี้เข้ากับธุรกิจ และตัวเลขทางการเงินให้ได้ อย่างเช่นที่ บจ. ใหญ่ๆ ของไทยเขาทำเรื่องนี้กันมานานแล้วนั่นเองครับ
# ขยายความเพิ่มเติม "ความแตกต่างระหว่าง SET vs mai"
* SET - ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นแหล่งระดมทุนระยะยาวของบริษัทไทยและบริษัทต่างประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่มีผลการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องมีทุนชำระแล้วหลัง IPO ตั้งแต่ 300 ล้านบาทขึ้นไป
** mai - เป็นแหล่งระดมทุนของธุรกิจที่มีศักยภาพขนาดกลางและเล็ก ซึ่งมีทุนชำระแล้วหลัง IPO ตั้งแต่ 50 ล้านขึ้นไป โดยเน้นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง และมีแนวโน้มการเติบโตดีในอนาคต
Source: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา