24 พ.ย. 2020 เวลา 09:23 • หนังสือ
เลี้ยงลูกอย่างไร ให้เมืองไทยได้เยาวชนดี
นิสัยที่ดีของลูกมาจากไหน ?
ถ้าหากถามว่า การเลี้ยงลูก คืออะไร ?
คำตอบที่สั้นที่สุด คือการเพาะนิสัยดีๆ ให้แก่ลูก
นิสัยดี ๆ ที่ควรเพาะให้แก่ลูกนี้ มีอะไรบ้าง
คำตอบ คือ นิสัยขั้นพื้นฐาน 3 อย่าง
ได้แก่ ไม่โง่ ไม่แสบ ไม่แล้งน้ำใจ
การให้นมของแม่ก็เพาะนิสัยให้ลูกได้
พอจับหลักตรงนี้ได้แล้ว แทบไม่น่าเชื่อว่าแค่การให้นมแม่ที่่แตกต่างกันก็เพาะนิสัยลูกให้แตกต่างกันได้ เพราะว่าในขณะที่เด็กกินนม ถ้าคุณพ่อคุณแม่ให้ลูกน้อยย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำในทางที่ดี ลูกจะได้นิสัยดี แต่ถ้าลูกย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำในทางที่เลว ลูกจะได้นิสัยเลว
ยกตัวอย่างเด็ก 3 คน ที่ได้รับการให้นมจากคุณแม่ในลักษณะที่ต่างกันก็มีผลทำให้นิสัยออกมาไม่เหมือนกัน
คนที่ 1 ให้นมไม่ตรงเวลา
ในการป้อนนมให้ลูก คุณแม่ก็จะมีวิธีการให้นมอยู่ 2 แบบ คือ
1.เอานมใส่ขวดให้ลูกดูด
2.เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมของตัวเอง
แต่ไม่ว่าคุณแม่จะให้นมด้วยวิธีไหนก็ตาม เมื่อถึงเวลาให้นม คุณแม่ไม่ให้ อาจจะติดอะไรก็ตาม เช่น คุณแม่อาจจะยังไม่ค่อยมีฐานะดี เลยต้องไปทำงานเป็นลูกจ้าง งานกำลังยุ่ง ปลีกตัวเอานมมาให้ลูกกินไม่ได้ เมื่อถึงเวลากินนม แต่เกิดไม่ได้กิน ด้วยความหิวจัด ไม่รู้จะทำอย่างไร ลูกก็อ้าปากร้องดังลั่นอยู่ในเปล ต้องรอให้ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ค่อนชั่วโมง คุณแม่จึงค่อยมีเวลามาป้อนนมให้ลูกได้
ถามว่า ถ้าคุณม่ทำอย่างนั้นเป็นประจำอยู่ทุกวันๆ จะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้ ?
นิสัยแรก คือ นิสัยเจ้าโทสะ มักโกรธ เกิดขึ้นแล้ว!!!
โดยมีคุณแม่เป็นผู้เพาะนิสัยเจ้าโทสะนี้ ให้แก่ลูก
ถ้าไม่รีบแก้ไข ต่อไปข้างหน้า พอเด็กแค่หัดคลานได้เท่านั้น หยิบอะไรได้จะกระชากขาดหมด เช่น ถ้าไปหยิบอะไรของพี่สาวได้ จะกระชากขาดติดมือมาเลย หรือบางทีไปเห็นตุ๊กตาของคนอื่นกำลังเล่นอยู่ เกิดอยากเล่นบ้าง ก็จะตรงไปกระชากขาดติดมือมาเลย
ทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้เจ้าโทสะ โมโหร้าย กลายเป็นเด็กที่ไม่น่ารักไปก็เพราะว่าคุณแม่เป็นคนเพาะนิสัยให้ ถึงเวลากินไม่ให้กินอยู่เป็นประจำ เด็กต้องออกแรงร้อง ต้องเกรี้ยวกราดถึงจะได้กิน เมื่อคุ้นกับการแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดตั้งแต่อยู่ในเปลจึงได้กิน นิสัยมักโกรธจึงเกิดขึ้นมา หรือว่าบางทีคุณแม่ไม่ได้ยากจนหรอก แสนจะร่ำรวย แต่ว่ากำลังติดเล่นไพ่อยู่ พอได้ยินลูกร้องกินนม แทนที่คุณแม่จะรีบไป แต่เปล่าหรอก คุณแม่กลับเกรี้ยวกราด ตะโกนตวาดลูกในเปลว่า
"วู้ย มีปากร้องก็ร้องไปเถอะ ฉันกำลังจั่วไพ่มันๆ อยู่ ร้องได้ก็ร้องไป"
 
เพียงแค่นี้ คุณแม่ก็ได้เพาะนิสัยเจ้าโทสะเกิดขึ้นในตัวลูกแล้ว
ถ้าไม่แก้ไขต่อไปข้างหน้า เมื่อโตขึ้น เด็กคนนี้จะเป็นอย่างไร?
คำตอบก็คือ เด็กคนนี้จะมีนิสัยเลวๆ อยู่ว่า เวลาอยากได้อะไร ถ้าไม่ได้ จะต้องใช้กำลัง อาละวาด เข้าแย่ง ชิง ต่อย ตี ปล้นของคนอื่นมาให้ได้ เท่ากับว่าคุณแม่ได้ลูกเสือดุๆ มาตัวหนึ่ง
ทำไมนิสัยถึงได้แย่อย่างนี้ คุณแม่เพาะนิสัยเจ้าโทสะให้ตั้งแต่กินนมไม่ตรงเวลา
เด็กคนที่ 2 ให้นมตลอดเวลา
สำหรับการให้นมของเด็กคนที่ 2 นี้ แตกต่างจากเด็กคนแรก คือไม่ว่าจะถึงเวลากิน หรือไม่ถึงเวลากินก็ตาม คุณแม่ หรือพี่เลี้ยงก็แสนดีเหลือเกิน ชงนมใส่ขวดไว้เรียบร้อย แล้วก็เอาใส่ปากเด็กไว้ 24 ชั่วโมง ถ้าลูกหิวเมื่อไรก็จะมีนมให้ลูกดูดเองทันที และถ้าแม้ว่าลูกจะไม่หิว แต่น้ำนมก็จะไหลลงท้องของลูกเอง เป็นอันว่า ถึงลูกไม่หิว ลูกก็ต้องกิน ถ้าลูกหิวเมื่อไหร่ ก็ออกแรงดูดนมพั่บๆ เอง พอกินจนพุงกาง แล้วก็นอนหลับปุ๋ย เด็กคนนี้จะโตวันโตคืน ตัวอ้วนกลม อารมณ์ดี ไม่ร้องโยเยเลย
ถามว่า พอโตขึ้นมาอีกหน่อย เด็กคนนี้จะมีนิสัยเป็นอ่ย่างไร???
คำตอบคือ เด็กจะขี้เกียจ!!!!
เท่ากับว่าคุณแม่ได้ลูกหมูมาเลี้ยงไว้ตัวหนึ่ง ถึงบทที่คุณแม่จะเข็นให้เอาดีอย่างไร จะเข็นไม่ขึ้น เพราะขนาดเวลาปกติคุณแม่เรียกเท่าไหร่ ลูกก็ยังจะไม่หือไม่อือ ถึงเวลาได้คิดขึ้นมา คุณแม่อยากจะให้ลูกกระตือรือร้น แต่พอจะไปเร่งอะไรลูก ก็เร่งไม่ขึ้น แกจะเฉื่อยแฉะ ไม่เอาไหน แม้โตขึ้นมา เด็กนั่งกินข้าวอยู่ เพื่อนมาแกล้งเขกกบาล เด็กก็ยังหัวเราะแหะๆ แล้วก็กินข้าวต่อได้ กินแล้วก็นอน ก็เลยได้ลูกหมูขี้เกียจมาหนึ่งตัว
ถามว่าใครเพาะนิสัยให้เด็ก? แม่
เพาะนิสัยด้วยอะไร? นม
การให้นมลูก ก็เพาะนิสัยคนได้อย่างหนึ่งเหมือนกัน
เมื่อเอาภาพของเด็กที่เลี้ยงมาด้วย 2 วิธีมาเทียบกัน เราจะพบว่าในขณะที่เด็กคนแรกกินนมไม่ตรงตามเวลา คุณแม่จะได้ลูกเสือดุๆ มาตัวหนึ่ง หรือได้สุนัขบ้ามาตัวหนึ่ง ส่วนเด็กคนที่ 2 คุณแม่เอานมใส่ปากไว้ 24 ชั่วโมง คุณแม่ก็จะได้ลูกหมูมาตัวหนึ่ง อารมณ์ดี กินแล้วก็ร้องอู๊ดๆ ๆ พอร้องเสร็จแล้วก็นอนต่อ พอตื่นขึ้นมา ก็ลุกมากินใหม่ วนเวียนไปอย่างนี้
คนที่ 3 ให้นมเป็นเวลา
เรามาดูเด็กคนที่ 3 ถึงเวลากินนม คุณแม่ก็ให้กิน ถ้าไม่ถึงเวลากินนม คุณแม่ก็ไม่ให้กิน เท่ากับว่า คุณแม่ใช้นมที่ป้อนให้ลูก เพาะนิสัยอีกอย่างขึ้นมาให้ลูกแล้ว
ถามว่าเด็กคนนี้โตขึ้นมาแล้ว จะมีนิสัยเป็นอย่างไร?
คำตอบก็คือ นิสัยตรงต่อเวลา ตัวของเด็กแทบจะเป็นนาฬิกา ถ้าไม่ถึงเวลากิน จะไม่สนใจเรื่องกิน ถ้าถึงเวลาจะกินแล้ว ต้องได้กิน ถ้าไม่ได้กิน เด็กจะถามคุณพ่อคุณแม่เลยทีเดียว แต่ถ้าคุณแม่ให้กินเรียบร้อยแล้ว เด็กจะดี เรียบร้อย ก็เท่ากับว่าคุณพ่อคุณแม่เพาะนิสัยตรงเวลาเอาไว้ให้ลูก แล้วยิ่งถ้าฝึกทำอะไรเป็นเวลาอย่างนี้ ตั้งแต่เวลากินก็ตรงเวลา เวลาถ่ายก็ตรงเวลา ท้องไส้ของเด็กก็จะปกติหมด สุขภาพก็จะดี นิสัยของเด็กก็จะมีระเบียบวินัย แล้วเด็กก็จะไปของเขาได้ดี
เพราะฉะนั้น ถ้าให้เด็กย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ อย่างไร ก็จะได้นิสัยอย่างนั้น
จากเหตุผลตรงนี้เอง ที่ทำให้ปู่ย่าตายายของเราสาวไปจนกระทั่งพบว่า นิสัยของคนเรา เพาะขึ้นมาได้จากการย้ำคิด ย้ำพูด ย้ำทำ ตั้งแต่นอนแบเบาะเลยทีเดียว
นิสัยจากการดื่มนม
จากหนังสือ เลี้ยงลูกอย่างไรให้เมืองไทยได้เยาวชนดี
ส.ผ่องสวัสดิ์
เลี้ยงลูกอย่างไรให้เมืองไทยได้เยาวชนดี

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา