พูดถึงโรงเรียนก็ชวนให้นึกถึงสมัยที่เพิ่งมาถึงนิวยอร์ก ตอนนั้นด้วย วีซ่า F-1 ผมก็ต้องไปเรียนคอร์สภาษาอังกฤษของคนต่างชาติที่เราเรียกว่า ESL ย่อมาจาก English for Second Language ที่ก่อนจะเข้าเรียนต้องมีการสอบวัดระดับกันก่อนว่าใครเก่งระดับไหน จะได้จัดลงห้องเรียนกันให้ลงตัว ให้เหมาะสมกับระดับภาษาของตัวเอง
การสอบวัดระดับเข้าเรียนของโรงเรียนก็ง่าย ไม่ต้องมี ONet, ไม่ต้องเอาคะแนนเฉลี่ย สามปี สี่ปีมาคำนวณ ไม่มีเงินแป๊ะเจี๊ยะ หรือเงินบำรุงห้องสมุดยุทโธปกรณ์ หรืองบซื้อเครื่องบินสำหรับ VIP อะไรให้มันปวดตับ โดยมีข้อสอบให้สองแบบ แบบแรกคือ multiple choice, A B C D อันนี้ง่ายครับ พวกแกรมม่านั่นแหละ past tense, present tense, verb ช่องสอง ช่องสาม ที่เรา ๆ ท่องกันเป็นนกแก้วนกขุนทองตอนเด็กไง ว่าไปแล้วเด็กไทยเรา แกรมม่าน่าจะแข็งกว่าหลาย ๆ ประเทศนะครับ ก็เราเริ่มเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่อนุบาลยันจบมหา’ ลัย เวลาเราดูหนัง ดูซี่รี่ย์ต่างชาติก็ต้องซาว์ดแทรค ซับไทย เพลงฝรั่งมากมายก็ติดหู ติดชาร์ตบ้านเราเต็มไปหมด แต่...นั่นไม่ใช่ผมครับ เพราะผมจำไม่ได้เลย พวก past tense, future tense เนี่ย มันคืออะไร? ปัจจุบันกูยังไม่มีเลย แล้วกูจะไปรู้เรื่องของอนาคตได้ยังไงวะ MATAFAKA!