9 ธ.ค. 2020 เวลา 03:38 • สุขภาพ
ป่วยเพราะไม่รู้ EP.06 | “ไข้เลือดออกกลายพันธุ์”
เรื่องราวความเจ็บป่วยของฉันเริ่มต้นเมื่อตอนที่ฉันอายุ 12 ปี ฉันเป็นโรคไข้เลือดออก เข้ารักษาที่โรงพยาบาลจนหายเป็นปกติ อีก 2 ปีต่อมาหลังจบชั้นมัธยมปีที่ 3 ฉันได้เข้าทำงานโรงงาน ทำงานได้ไม่นานฉันมีอาการวูบ หน้ามืด อ่อนแรง ตัวซีดตามร่างกายมีรอยเขียวเป็นจ้ำๆ ได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาล
ผลการตรวจพบความดันโลหิตต่ำและมีภาวะเลือดจาง แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นภาวะเกล็ดเลือดต่ำ สาเหตุเป็นผลมาจากการเป็นไข้เลือดออกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาการของโรคอาจจะรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นโรคธาลัสซีเมียได้ ต้องรับประทานยาต่อเนื่องและไปพบแพทย์เป็นประจำทุกเดือน
ธาลัสซีเมีย
ชีวิตประจำวันของฉันอยู่แต่ในโรงงาน ถึงแม้ว่าร่างกายจะไม่ค่อยแข็งแรงแต่เป็นลูกจ้างจึงไม่มีทางเลือก ต้องทำงานเหมือนกับลูกจ้างคนอื่นเจ็บป่วยบ่อย ต้องเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาลเป็นประจำ การรับประทานยาติดต่อกันนานเป็นสิบๆ ปี ทำให้ตัวของฉันมีแต่กลิ่นยาออกมาทั้งทางปาก จมูก และผิวหนัง ถึงแม้ว่าจะเบื่อหรือเหม็นแค่ไหนก็ต้องทน เคยซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมารับประทานอยู่ระยะหนึ่งตามคำแนะนำของเพื่อน แต่ไม่เห็นผลจึงหยุดรับประทาน
ต่อมาฉันได้แต่งงานมีครอบครัว สามีทำงานก่อสร้างรายได้ไม่แน่นอน เมื่อมีลูกคนแรกภาระค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้น ฉันจึงต้องทำงานมากขึ้น คงเป็นเพราะทำงานหนักพักผ่อนน้อยและความเครียดสะสม ทำให้เกิดภาวะแท้งคุกคามเมื่อตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง ฉันจึงตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อมาดูแลตัวเองและลูกในท้อง
เมื่อไม่ได้ทำงานก็มีเวลาดูแลตัวเองมากขึ้นช่วงนี้ฉันมีสุขภาพดีขึ้น ไม่ค่อยป่วยเหมือนเมื่อก่อน ภาวะแท้งคุกคามก็หายไป เมื่อครบกำหนดก็คลอดลูกโดยปลอดภัยช่วงนี้ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับการเลี้ยงลูก
เวลาผ่านไปปีกว่า เมื่อลูกคนที่สองอายุได้ 1 ขวบ มีเวลาว่างมากขึ้นจึงได้ซื้อจักรเย็บผ้าไฟฟ้า มารับงานตัดเย็บเสื้อผ้าที่บ้านได้ทำงานและดูแลลูกไปด้วย ช่วงแรกงานเย็บผ้ายังไม่มาก แต่เมื่อคนรู้จักมากขึ้น ก็มีงานเข้ามาให้ทำจำนวนมาก แต่ละวันฉันแทบไม่ได้ออกไปไหน นั่งติดอยู่กับจักรเย็บผ้าทั้งวัน
เย็บผ้า
เวลาผ่านไปปีกว่าภาวะเกล็ดเลือดต่ำกำเริบขึ้น ฉันมีอาการหน้ามืด ตัวซีดและรอยจ้ำตามร่างกายมากขึ้น ทั้ง ๆ ที่กินยาทุกวันไม่เคยขาด ช่วงนี้ต้องเข้าโรงพยาบาลเดือนละ 2-3 ครั้ง พบว่าสาเหตุที่เป็นตัวเร่งที่ทำให้เกิดภาวะเลือดจางเพิ่มขึ้น มาจากกระแสไฟฟ้าจากจักรเย็บผ้าไฟฟ้าที่ฉันสัมผัสเป็นประจำทุกวัน เมื่อรู้สาเหตุฉันจึงตัดสินใจเลิกอาชีพเย็บผ้า
เมื่อไม่ได้เย็บผ้าแล้วจึงมีเวลาว่างมากขึ้น ด้วยความที่เป็นคนชอบรับประทานผัก ฉันจึงเริ่มปลูกผักรับประทานเอง โดยไม่ใช้ยาหรือสารเคมี นอกจากจะได้ผักมาทำอาหารแล้ว ยังได้ออกกำลังกายด้วย ผักที่โตเต็มที่นอกจากใช้ทำอาหารในครอบครัวแล้ว บางส่วนก็แจกจ่ายให้เพื่อนบ้านและขายไปบ้าง
ปลูกผัก
ต่อมาการปลูกผักของฉันเป็นที่รู้จักมากขึ้นเมื่อมีคนมาติดต่อซื้อผักเพิ่มขึ้น ฉันจึงคิดจะปลูกผักอย่างจริงจัง ขยายพื้นที่ปลูกผักเพิ่มมากขึ้น การปลูกผักฉันต้องทำเองทุกอย่างคนเดียวทั้งพรวนดิน ถอนหญ้า ปลูกผัก รดน้ำผักจนถึงเก็บผักขาย ซึ่งเริ่มตั้งแต่เช้าทุกวันเพราะกำลังใจจากลูกและคนในครอบครัว ถึงแม้ว่าช่วงแรก ๆ ร่างกายจะยังไม่แข็งแรงพอ แต่ฉันก็อดทนกับความเหน็ดเหนื่อย จากการทำงานใช้แรงทุกวันรวมถึงการรับประทานผักที่ปลูกเองไม่ใช้สารเคมีเป็นประจำ
สุขภาพร่างกายของฉันค่อยๆ แข็งแรงขึ้นอาการวูบ หน้ามืดและรอยเขียวจ้ำตามร่างกายหายไป กลิ่นยาที่สะสมในร่างกายก็หายไป ผลตรวจความดันโลหิตและเกล็ดเลือดเป็นปกติ ฉันหายจากภาวะเกล็ดเลือดต่ำอย่างเด็ดขาดตั้งแต่เริ่มปลูกผักจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 4 ปีแล้วฉันไม่เคยนอนโรงพยาบาลด้วยโรคเกล็ดเลือดต่ำอีกเลย
ใครจะคิดว่าการเป็นโรคไข้เลือดออกในวัยเด็กเพียงครั้งเดียว จะส่งผลกระทบมากมายต่อชีวิตของฉันในเวลาต่อมา ยาที่ดีที่สุด แพทย์ที่เก่งที่สุดและโรงพยาบาลที่ทันสมัยที่สุด อาจจะไม่ใช่คำตอบของการรักษาที่ดีที่สุดเสมอไป การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เลือกรับประทานอาหารที่ดีมีคุณภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนอย่างเพียงพอและไม่มีความเครียด เป็นคำตอบของการรักษาที่ดีที่สุดและแพทย์ที่เก่งที่สุดคือตัวเรานี่เอง
อย่างไรก็ดี เนื่องจากทั้งหมดเป็นเรื่องเล่าจากปากของผู้ป่วยเอง บางเรื่องอาจไม่ตรงกับข้อเท็จจริงทางการแพทย์ ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ
เนื้อหาทั้งหมดมาจากหนังสือ "ป่วยเพราะไม่รู้" โดย มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)
โฆษณา