10 ธ.ค. 2020 เวลา 09:05 • ประวัติศาสตร์
การพบเห็น “วิญญาณ” ผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์สึนามิและแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น ค.ศ.2011 (พ.ศ.2554)
ในวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ.2011 (พ.ศ.2554) ได้เกิดแผ่นดินไหวในบริเวณพื้นทะเลของเอเชียตะวันออก ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์ที่มีความสูงเท่ากับตึก 12 ชั้น โจมตีเข้ามาในชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น
เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 15,000 คน ผู้คนนับล้านต้องอยู่อย่างยากลำบากเนื่องจากไม่มีไฟฟ้าและประปา อาคารกว่า 120,000 หลังถูกทำลาย
แผ่นดินไหวที่โทโฮคุ (Tohoku Earthquake) ในครั้งนี้ (ตั้งตามชื่อบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหว) นับเป็นแผ่นดินไหวครั้งที่ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
แต่ภายหลังจากเกิดโศกนาฏกรรม นอกจากความเสียหายที่ตามมานับไม่ถ้วนแล้ว ยังมีรายงานการพบเห็น “วิญญาณ” ของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เป็นจำนวนมาก
มีรายงานจากคนขับแท็กซี่ว่าได้รับผู้โดยสารจากบริเวณที่เกิดเหตุ หากแต่เมื่อถึงที่หมาย ผู้โดยสารก็หายไปอย่างปริศนา และไม่ได้มีเพียงแค่รายเดียว
แต่ก่อนอื่น เราไปดูรายละเอียดคร่าวๆ ของโศกนาฏกรรมนี้ก่อนดีกว่าครับ
เหตุการณ์นี้เกิดในวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ.2011 (พ.ศ.2554) ได้เกิดแผ่นดินไหวนอกชายฝั่งโทโฮคุ ทำให้เกิดคลื่นยักษ์เข้าถล่มเมืองมิยาโกะทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น
คลื่นได้ทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้างกว่า 217 ตารางไมล์ ทำให้โรงพยาบาล โรงเรียน บริษัทห้างร้าน รางรถไฟ และอาคารต่างๆ ล้วนแต่ได้รับความเสียหาย อีกทั้งยังทำให้ระบบทำความเย็นในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิม่าล้มเหลว และเกิดการรั่วไหลของกัมมันตรังสี
ได้มีการประเมินความเสียหายทั้งหมด หากตีเป็นเงินไทย ความเสียหายทางการเงินจากเหตุการณ์ครั้งนี้จะอยู่ที่ราวๆ หกล้านล้านบาท หากแต่ธนาคารโลกได้ประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นว่าเกินกว่าเจ็ดล้านล้านบาท
3
แต่นอกเหนือจากความเสียหายทางเศรษฐกิจแล้ว ดูเหมือนว่าเรื่องราวลี้ลับ เหนือธรรมชาติ ก็เป็นสิ่งที่เริ่มเป็นที่กล่าวขาน
ในปีค.ศ.2016 (พ.ศ.2559) ได้มีการสอบถามจากผู้คนในบริเวณที่อาศัยอยู่ในอิชิโนะมากิ ซึ่งเป็นพื้นที่ๆ เคยได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยกลุ่มที่สอบถามส่วนมากคือคนขับแท็กซี่
1
ที่อิชิโนะมากินี้ มีผู้เสียชีวิตกว่า 3,097 คน สูญหายกว่า 2,770 คน อาคารได้รับความเสียหายกว่า 50,000 หลัง
1
คนขับแท็กซี่รายแรกได้ให้สัมภาษณ์ว่าในฤดูร้อน ค.ศ.2011 (พ.ศ.2554) ไม่กี่เดือนหลังจากเหตุการณ์นี้ ขณะที่ตนกำลังขับแท็กซี่ในบริเวณนี้ ก็ได้มีผู้หญิงมาโบกรถของตน และบริเวณที่โบกนั้นก็เปลี่ยวมาก
หญิงคนนั้นใส่เสื้อกันหนาวทั้งๆ ที่เป็นฤดูร้อน และก็ได้บอกให้ตนขับไปส่งยังบริเวณที่รกร้างของมินามิฮามะ
บริเวณที่หญิงสาวจะไปนั้นแทบจะเรียกได้ว่ารกร้าง คนขับจึงถามหญิงสาวถึงจุดหมายให้แน่ใจ หากแต่หญิงสาวก็ไม่ตอบ เงียบไปซักพัก ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า
1
“นี่ฉันตายไปแล้วหรือ?”
คนขับที่ได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจ รีบหันกลับไปมอง หากแต่หญิงสาวก็ได้หายไปแล้ว
คนขับแท็กซี่อีกรายก็ได้เล่าว่าตนได้รับผู้โดยสารในบริเวณที่เกิดเหตุ หากแต่เมื่อถึงจุดหมาย ผู้โดยสารก็ได้หายไปแล้ว
นอกจากนั้น ยังมีรายงานการพบเห็นวิญญาณของหญิงชราที่ตัวเปียกไปด้วยน้ำทะเล มักจะมาหลอกหลอนชาวบ้านในบริเวณนั้นอยู่เสมอ
ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เชื่อกันว่าเหยื่อจากเหตุการณ์นี้ตายอย่างกระทันหัน ไม่ทันตั้งตัว วิญญาณของพวกเขาจึงยังวนเวียนอยู่ในบริเวณนี้ รอวันไปสู่สุคติ
โฆษณา