Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
PattraDear
•
ติดตาม
13 ธ.ค. 2020 เวลา 15:35 • ไลฟ์สไตล์
มีคนบอกว่า ชีวิตก็เหมือนมาราธอน พอได้ลองวิ่งฮาล์ฟ มาราธอนจริงๆ จึงได้รู้ว่า...
01
ช่วงหกกิโลสุดท้ายก่อนถึงเส้นชัย เเม้ขาจะหนัก และตึงขนาดไหน ก็ไม่ทรมาณเท่าความหิวที่เกิดขึ้น ความหิว จึงเป็นแรงพลักชั้นดีในการวิ่งต่อไปจนจบ ความทรมาณ ความอยาก ความต้องการ ความกระหาย ถูกเเปรเปลี่ยนเป็นพลังในการทำบางสิ่งบางอย่างที่บางทีก็คิดว่าไม่น่าจะทำได้ ให้ประสบผลสำเร็จในที่สุด ชีวิตก็เช่นกัน
02
ช่วงสิบกิโลเมตรเเรก นักวิ่งต่างออกตัว ไปอย่างรวดเร็ว ต่างฝ่ายต่างมุ่งมั่นที่จะวิ่งไปให้ถึงเส้นชัยเป็นคนเเรกๆ เเละเร็วๆ เรียกได้ว่ามีพลังเท่าไหร่ใส่เต็ม เเต่ฮาล์ฟมาราธอนไม่ใช่การใส่พลังเต็มที่รวดเดียวจบ เพราะระยะทางยี่สิบเอ็ดกิโลเมตร เป็นระยะที่ถ้าหากร่างกายเเละจิตใจไม่ได้ถูกฝึกซ้อมมา ก็ยากที่จะไปให้ถึงในเเรงเเรกที่ใส่ลงไป จะจบฮาล์ฟมาราธอนได้เเบบไม่ทรมานร่างกายมาก ต้องผ่านการฝึกซ้อมวิ่ง ต้องรู้จังหวะของร่างกาย รู้ว่าร่างกายเราวิ่งระยะยาวได้เเค่ไหน ต้องสปีดไปในช่วงกิโลเมตรไหน ต้องผ่อนเเรงในจังหวะไหน วิ่งในเพซของเราจริงๆ ไม่ต้องสนใจความเร็วคนรอบข้าง โฟกัสที่วิถีการวิ่งของเรา ชีวิตก็เช่นกัน
03
ก่อนหน้าจะลงสนาม มีเป้าว่าในปี 2563 นี้ต้องจบมาราธอนให้ได้สักครั้ง เเต่เพราะสถานการณ์ COVID19 (นั่นไงโทษโควิดอีกละ55) ทำให้การซ้อมเริ่มลำบากขึ้น สวนสาธารณะปิด เป้าที่จะจบมาราธอนจึงขยับ เเต่ก็นั่นล่ะ พอได้มีโอกาสลงสนามอีกครั้งจึงไม่ลังเลลงสมัครวิ่งในงาน วิ่งเพื่อสร้าง KMITL Go Beyond The Limit ที่ระยะ 21 กิโลเมตร เเม้จะซ้อมวิ่งไปได้ไม่เท่าไหร่ ขาดซ้อมบ้างตามจังหวะของงานที่ถาโถมเข้ามา เเต่ก็ตั้งใจเเล้วว่ายังไงต้องลงสนามให้ได้ เป้าหมายจากเดิมที่อยากทำเวลาล่าเหรียญ ก็ลดลงเหลือเพียง ขอเเค่วิ่งให้จบ ในเพซที่ได้เคยซ้อมมาคือ ไม่เกินเพซ 9 วิ่งจบไม่เกิน 3 ชั่วโมง เมื่อเป้าหมายชัด ก็ทำให้วางแผน วางกลยุทธ์เเละวิ่งในจังหวะเเละความเร็วที่สม่ำเสมอ จึงวิ่งได้ตามเป้าสำเร็จ ชีวิตก็เช่นกัน
04
ระหว่างทางวิ่งช่วงกิโลเมตรที่สิบ เป็นอะไรที่ทรมานมาก วิ่งมาตั้งนานเพิ่งมาได้เเค่ครึ่งทางเอง ขาก็เริ่มล้า เริ่มปวดตึง ยกขาเเต่ละก้าวเริ่มยากเเล้ว ขณะที่กำลังใจเริ่มหด กลับมีพี่พี่สตาร์ฟในงานที่ยืนข้างทางตะโกนสุดเสียงถึงนักวิ่งว่า "สู้ๆ เหลืออีกแค่ครึ่งทางเอง" ก็ทำให้ฉุกคิดเเละมีกำลังใจขึ้นบ้างว่า นั่นสิ วิ่งมาได้ตั้งครึ่งทางเเล้ว เหลืออีกแค่ครึ่งทาง ต้องวิ่งต่อให้ได้ ประกอบกับเพื่อนๆนักวิ่ง ที่เเม้สีหน้าจะอิดโรย บ้างมีเริ่มเดินกันเเล้ว เเต่ก็ยังมุ่งหน้าต่อ เเละหลายคนยังคงวิ่งไปต่อเเม้จะไม่เร็วเหมือนจังหวะเเรกที่ปล่อยตัว เเต่ก็ยังวิ่งไปข้างหน้า เริ่มทำให้มีกำลังใจเพิ่มขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนร่วมทาง การวิ่งระยะไกล สิ่งที่ต้องต่อสู้กลับไม่ใช่คนที่วิ่งข้างๆ เเต่คือการต่อสู้กับใจตนเอง หลากหลายความรู้สึกท้อ อยากเลิก อยากหยุด เเต่ถ้าอีกใจบอกว่าไม่ ขอเเค่ก้าวต่อ เดี๋ยวก็ถึงเส้นชัย มันก็ถึงจริงๆ ชีวิตก็เช่นกัน
1
05
ในยี่สิบเอ็ดกิโลเมตร บนเส้นทางเลียบมอเตอร์เวย์ ทางที่ไม่ชอบที่สุดคือต้องวิ่งข้ามสะพาน เป็นอะไรที่ท้อเเละเมื่อยมาก ขาลงไม่เท่าไหร่ เเละขาขึ้นนี่สุดเเสนจะลำบาก วิ่งขึ้นใช้เเรงเยอะ ทำเวลาได้ช้ามากกว่าจะขึ้นไปได้ เเต่ขาลงกลับลงง่ายดายมาก หากปล่อยตามเเรงโน้มถ่วงกลับไหลลงได้อย่างเร็ว เเต่ก็ต้องระวัง เพราะเสี่ยงที่จะล้มได้ง่ายสุด ช่วงขึ้นลงสะพาน ความยากง่ายที่ต่างกันทำให้นึกถึงชีวิต ชิวิตก็คงเป็นเช่นกัน
06
เวลาล่วงเลยผ่าน เริ่มวิ่งตอนตีสี่ ผ่านมาซักสิบสามกิโลก็เข้าช่วงหกโมงเช้าพอดี ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีให้เห็น วันนี้รู้สึกว่าท้องฟ้ายามเช้าสวยกว่าทุกวัน ทำให้เเม้จะล้าจากการวิ่งเเต่ก็อดยิ้มไม่ได้ อย่างน้อยก็ได้เห็นฟ้าสวยๆในกรุงล่ะนะ จริงๆเเล้วอาจจะเป็นเพราะร่างกายเริ่มหลั่งสารเอนโดรฟิน ทำให้รู้สึกยิ้มง่าย มีความสุขได้ง่าย ในช่วงก้าวผ่านเเต่ละกิโลเมตร ถ้าไม่ได้เจ้าสารเอนโดรฟินคงไม่ได้วิ่งไปยิ้มไป แม้ขาจะปวด เเต่กลับยิ้มสุขใจ ในเส้นทางชีวิตที่มีเป้าหมายที่อยากไปให้ถึง หากมีคนที่เปรียบเสมือนเอนโดรฟินมาทำให้ระหว่างทางฝันได้มีรอยยิ้มได้ก็คงจะดีไม่น้อย
07
ช่วงสามกิโลเมตรสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัยเป็นอะไรที่ ทั้งหิว ทั้งเหนื่อย ทั้งล้า ไม่อยากวิ่งเเล้วขอเดินยาวๆได้ไหม เเต่พอหันมองนาฬิกาข้อมือเห็นเพซเฉลี่ยเเละเวลาที่ผ่านมา ก็คำนวนทันที โหต้องวิ่งไม่เกินเพซเเปด ถึงจะจบได้ในสามชั่วโมง เอาไงดี หรือจะไม่เเคร์เรื่องเวลาจบละ ลากยาวไปเลยดีไหม เเต่อีกใจก็เสียดายอุตส่าทำเวลามาได้ตามเป้า จะมาตกม้าตายตอนจบเนี่ยนะ บางทีความเสียดายในความพยายามที่ผ่านมาก็เป็นแรงผลักที่ทำให้ต้องไปต่อให้ได้ตามเป้าไว้ สำคัญที่สุดเลยคือ ไม่อยากรู้สึกผิดกับตัวเองที่ยอมเเพ้ง่ายไปทั้งๆที่อีกนิดก็ถึงเป้าหมายเเล้ว ไหนๆก็ทำเเล้วทำให้เต็มที่ดีกว่า ชีวิตก็เช่นกัน
08
วิ่งจบเเล้ว ที่เพซ 08.26 นาที/กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 59 นาที เฉียดฉิวเเต่ก็ตามเป้า จังหวะเท้าก้าวข้ามเส้นชัยเป็นอะไรที่ เย้! ทำได้เเล้ว ยิ้มกริ่ม เเละขาก็หมดแรง พร้อมๆกับเสียงท้องร้องดัง หิวมาก วันนี้สำเร็จไปแล้วหนึ่งระยะ เเต่เป้าหมายใหญ่คือจบมาราธอน 42.125 กิโลเมตร เเม้จะรู้ตัวว่าต้องซ้อมอีกเยอะ เเต่ก็มั่นใจลึกๆว่าจบมาราธอนได้เเน่นอน ยี่สิบเอ็ดทำได้เเล้ว ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร สี่สิบสองก็ไม่น่าจะเกินเอื้อม หรือว่าเเท้ที่จริงเเล้ว เราก็เเค่ต้องชนะไปทีละเป้าหมายเล็กๆเท่านั้น เเละเส้นชัยใหญ่ ก็คงไม่ใช่เเค่ความฝันอีกต่อไป ชีวิตก็เช่นกัน
วิ่งเพื่อสร้าง โรงพยาบาลพระจอมเกล้าลาดกระบัง
วิ่งเพื่อทบทวนตัวเอง
วิ่งเพื่อสุขภาพร่างกายที่ดี
13.12.2020
1 บันทึก
11
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
PattraDear Diary Life Series
1
11
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย