14 ธ.ค. 2020 เวลา 05:00 • อาหาร
#3 The Brain Club : FOOD
โคโคดะ เมนูปลาดิบกะลามะพร้าวจากฟิจิ
ฟิจิเป็นประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ประกอบด้วยเกาะ 322 เกาะ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งทางบกและทางน้ำ ชาวพื้นเมืองมีความอบอุ่นในการต้อนรับนักท่องเที่ยว
อาหารส่วนใหญ่ของชาวฟิจิ จะทำมาจากปลาตามธรรมชาติ และมะพร้าว โดยหนึ่งในอาหารยอดนิยมคือ " โคโคดะ ( Kokoda ) " แต่คนพื้นเมืองออกเสียงว่า " โคคอนดา ( Kokonda )" เป็นเมนูปลาดิบหมักให้สุกด้วยน้ำมะนาว เสิร์ฟคู่กับผักในกะลามะพร้าว
ปลาที่ใช้ทำโคโคดะ จะใช้ปลาท้องถิ่นที่จับได้สดๆ มีเนื้อแน่นขาวละเอียด และไม่มีก้างมากจนเกินไป โดยส่วนมากจะใช้ปลามาฮิมาฮิ ( ปลาอีโต้มอญ )
น่าเสียดายที่ปลาในฟิจิไม่อุดมสมบูรณ์เหมือนอดีต เนื่องจากการจับปลามากเกินไป และการพังทลายของหน้าดินทำให้น้ำมีมลพิษ ปลาหลายชนิดจึงสูญพันธุ์ไป แต่ปลามาฮิมาฮิยังคงมีจำนวนมากเหมือนเดิม เหมาะแก่การทำโคโคดะ
ปลามาฮิมาฮิ (ปลาอีโต้มอญ)
ตามแบบฉบับในการทำอาหารสไตล์นี้ การกินเมนูปลาดิบมักจะมาพร้อมกับเครื่องเทศต่างๆ เช่น พริก หัวหอม ขิง และผักชี
◾️ ส่วนผสม
- ปลาเนื้อขาว 500 ก.
- น้ำมะนาวสด ½ ถ้วย
- กะทิ ½ ถ้วย
- หอมแดง
- พริกแดงเม็ดใหญ่
- พริกเขียว
- ต้นหอม
- มะเขือเทศ
1. นำก้าง และหนังปลาออก ให้เหลือแต่เนื้อปลา
2. หั่นเนื้อปลาเป็นชิ้นเล็ก ๆ ประมาณ 1-2 เซนติเมตร (การหั่นชิ้นเท่า ๆ จะช่วยให้ปลาทุกชิ้น“ สุก” อย่าวทั่วถึงตอนหมัก )
3. นำเนื้อปลามาหมักกับน้ำมะนาวในชาม
4. ปิดฝาให้สนิท และแช่ไว้ในตู้เย็นประมาณ 3-5 ชั่วโมง ( กรดจากมะนาวจะทำให้ปลานุ่มและสุก )
 
5. หลังหมักเสร็จ เนื้อปลาควรมีสีขุ่นเข้ม เทน้ำที่เหลือออกให้หมด
6. ใส่น้ำกะทิลงไปในชามท่วมเนื้อปลา
7. หั่นผักและเครื่องเทศต่างๆ เป็นรูปสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
8. ใส่ผัก ,เครื่องเทศ และปรุงรสผสมลงไปตามความต้องการ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
9. นำมาเสิร์ฟแบบเย็นๆ โดยใส่ในลูกมะพร้าว ตกแต่งให้สวยงามน่าทาน
การเสิร์ฟคู่กับมะพร้าวถือเป็นจุดเด่นของเมนูนี้ เนื่องจากมะพร้าวถือเป็นของขวัญจากธรรมชาติของฟิจิ ส่วนประกอบหลักในอาหารท้องถิ่นเกือบทั้งหมดทำมาจากมะพร้าว
◾️ ประโยชน์ของปลาดิบ
การทานปลาดิบมีคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วน เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน A , D ,แร่ธาตุ และโอเมก้า 3 มีประโยชน์ต่อการทำงานของหัวใจและสมอง ( มีงานวิจัยบางส่วนพบว่าการนำปลาไปทอดให้สุก จะทำให้โอเมก้า 3 ลดลง)
การกินปลาดิบ มีข้อควระวังในเรื่องเชื้อโรค แบคทีเรีย พยาธิใบไม้ พยาธิตับและสารปรอท โดยมีคำแนะนำในการทานดังนี้
1. ปลาที่ใช้ทำควรเป็นปลาที่สดจริงๆ ไม่มีกลิ่นบูด ,กลิ่นเหม็นคาว หรือกลิ่นแอมโมเนีย
2. ไม่ควรทานบ่อยจนเกินไป ร่างกายจะได้รับสารอาหารไม่ครบ อาจเกิดพยาธิ แบคทีเรีย และสารปรอทสะสมในร่างกาย
3. ควรซื้อปลาที่ผ่านมาตรฐานการแช่ ทางสหภาพยุโรปมีกฎอนามัยให้แช่แข็งปลาที่อุณหภูมิ -30 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 - 24 ชั่วโมง หรือแช่แข็งที่อุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 1 สัปดาห์ จึงสามารถนำมาขายและเหมาะที่จะนำไม่ประกอบอาหาร เพราะการแช่แข็งที่อุณหภูมิขนาดนี้จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้
4. เมื่อซื้อปลามาแล้ว หากทานไม่หมด ควรแช่ปลาเก็บในตู้เย็น แต่ก็ไม่ควรแช่ทิ้งไว้นานเกินไป ควรนำมาบริโภคให้หมดภายใน 2-3 วัน
5. ห้องครัวต้องสะอาด ทำความสะอาดอุปกรณ์ทำครัว อุปกรณ์ในการรับประทาน และพื้นผิวบริเวณที่ทำอาหารให้สะอาด
6. ผู้หญิงมีครรภ์ควรหาไม้เกา เอ้ยย!! ควรหลีกเลี่ยงเมนูนี้ หรือถ้าอดใจไม่ไหว ควรระวังการกินและทำตามคำแนะนำเป็นพิเศษ เนื่องจากเชื่อโรคต่างๆ อาจเกิดอันตรายต่อน้องในครรภ์ได้ง่าย
ตอนกำลังหาข้อมูลแล้วเห็นภาพครั้งแรก แอดรู้สึกชอบมากๆ เลยนะ หน้าตาสวยน่าทาน. สีสันก็ดูสดใสมาก ถึงแม้ส่วนตัวแอดจะเป็นคนที่ไม่ชอบกินปลาดิบเป็นทุนเดิม เเต่เมนูนี้ก็ทำให้แอดอยากลองทานดูสักครั้งเหมือนกัน ดัวนั้น ถ้าใครเคยทานลองมาแล้ว ลองคอมเมนต์บอกแอดด้วยนะ ว่ารสชาติเป็นยังไง อร่อยถูกใจหรือเปล่า
สุดท้ายนี้ขอฝากติดตามบทความของสโมสรสมอง เพจความรู้ สาระดี เนื้อหาแน่น มีให้อ่านหลากหลายหมวดหมู่ โดยเฉพาะหมวดอาหาร ^^
แล้วเจอกันในบทความหน้าว่าจะเกี่ยวกับเมนูอะไร รอติดตามกันด้วยนะ Good Bye 💚
เขียนโดย แอดมิน : ตังเม (อาหาร)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา