24 ธ.ค. 2020 เวลา 01:30 • ปรัชญา
วันนี้ Career Fact ขอนำเสนอเรื่องราวคุณทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก่อนมาเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้แทนราษฎรรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรไทย เขาต้องผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง ตัวตนเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ติดตามได้ที่นี่
#จุดเริ่มต้น
คุณทิม พิธา ลิมเจริญรัตน์ เติบโตมาในครอบครัวนักธุรกิจ
คุณพ่อต้องการปลูกฝังให้เขาพึ่งพาตัวเองและสื่อสารภาษาอังกฤษได้ จึงส่งเขาไปเรียนมัธยมที่ประเทศนิวซีแลนด์ ณ เมืองแฮมิลตัน ซึ่งเป็นเมืองชนบทเล็กๆ มีประชากรเพียงแสนคนเศษ
ชีวิตการเรียนที่นิวซีแลนด์แตกต่างกับชีวิตการเรียนที่กรุงเทพอย่างสิ้นเชิง จากเมื่อก่อน หลังเลิกเรียนสามารถไปเล่นเกม เล่นกีฬากับเพื่อนฝูง แต่เมื่อย้ายไปอยู่ที่นิวซีแลนด์ เขาต้องทำงานหารายได้เสริมอย่างการเก็บสตอเบอรรี่ รับจ้างพาสุนัขไปเดินเล่น และทำงานพาร์ทไทม์ในร้านอาหาร
ชีวิตชนบทที่แวดล้อมไปด้วยป่าและภูเขา อาจไม่ได้หวือหวาเท่าชีวิตในเมืองแต่ยังมีข้อดีแฝงอยู่บ้าง มันทำให้เขาเป็นคนที่มีความสุขกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆในชีวิต
#ก้าวแร
หลังเรียนจบมัธยมที่นิวซีแลนด์ คุณพิธาเดินทางกลับประเทศไทย ณ ตอนนั้น เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เขาสนใจเข้าศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์เพราะหลงไหลเรื่องฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ แต่คุณพ่ออยากให้เรียนด้านบริหารธุรกิจ เพื่อมารับช่วงต่อธุรกิจที่บ้าน สุดท้ายเขาจึงเข้าศึกษาต่อที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี (BBA) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
แม้ว่าไม่ใช่คณะอันดับหนึ่งในดวงใจ แต่เขาสามารถจบมาพร้อมเกียรตินิยมอันดับ 1 เอกการเงิน ทำให้มีโอกาสมากมายเรียงรอเขาอยู่ในอนาคตแต่แล้ววิกฤติเศษฐกิจต้มยำกุ้งก็เกิดขึ้นปีที่เขาเรียนจบพอดีเขาส่งใบสมัครงานไปมากกว่า 50 ใบ ก่อนจะได้การตอบรับจากบริษัท Boston Consulting Group (BCG) ในตำแหน่งที่ปรึกษาธุรกิจ
#BCG
เมื่อเข้ามาสู่วงการที่ปรึกษาธุรกิจ แน่นอนว่าการแข่งขันค่อนข้างสูง เพื่อนร่วมงานล้วนจบมาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก คุณพิธาต้องทำงานหนัก นำเสนองานให้โดดเด่น สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ใหญ่เห็นถึงศักยภาพ เขามองว่าทักษะสำคัญในการทำงานที่ทุกคนควรมีคือการวิเคราะห์ข้อมูล (Analytical Skill) และการสื่อการ (Communication Skill)
“ถ้าคุณวิเคราะห์ข้อมูลเป็นแต่สื่อสารออกมาไม่ได้
หรือถ้าคุณสื่อสารได้ดีแต่วิเคราะห์ข้อมูลไม่เห็นภาพ
มันก็เท่านั้นไม่สามารถทำให้เกิดประโยชน์ได้
#ชิมลา
ครั้งทำงานอยู่ที่ BCG คุณพิธาได้รับโอกาสเข้าไปเป็นที่ปรึกษาภาครัฐ ในการสร้างยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวหลังเหตุการณ์สึนามิครั้งใหญ่ปี 2547
“มันเป็นการเปิดโลกอีกใบ จากที่เคยทำงานให้บริษัทเอกชน แค่คิดวิธีทำกำไรให้ได้มากที่สุด พอมาทำงานกับภาครัฐ เราต้องทำความเข้าใจใหม่ สร้างกำไรให้ได้มากที่สุด ไปพร้อมๆ กับการรักษาสมดุลเรื่องปากท้องของประชาชน” - คุณพิธากล่าว
การเข้ามาทำงานในภาครัฐทำให้เขาได้เจอกับ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกในรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เขาได้รับการเชิญชวนให้ไปอยู่ทีมที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี ประจำกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลัง นับเป็นการเข้าสู่แวดวงการเมืองอย่างเต็มตัวในตำแหน่งข้าราชการ
#ปฏิภาณ
การเข้ามาทำงานในภาครัฐ ทำให้คุณพิธามีโอกาสได้ตัดสินใจ ได้วิเคราะห์ข้อมูลที่มีความสำคัญต่อชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชน เขาเข้าใจว่าอำนาจเป็นดาบสองคม หากใช้อย่างถูกต้องจะช่วยให้ประเทศก้าวหน้า แต่หากใช้ในทางที่ผิด มันอาจหมายถึงปากท้องของประชาชน
ตั้งแต่นั้น เขาตั้งปฏิภาณไว้เมื่อปี 2005 ถึงการเป็นนักการเมือง เมื่อครบวาระการทำงานเป็นทีมที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี เขาจึงถือโอกาสเดินทางไปเรียนต่อปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกา ด้านการเมือง การปกครองที่ Harvard University และด้านบริหารธุรกิจที่ MIT
#ก้าวไกล
หลังจากใช้เวลาเตรียมตัวสั่งสมประสบการณ์ทั้งด้านการศึกษาและภาคธุรกิจมาร่วมทศวรรษ ในปี 2018 เขาได้รับการเชิญชวนจากคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้เข้าร่วมเป็น ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ถือเป็นการกลับสู่เส้นทางการเมืองของเขาอีกครั้งในรอบ 13 ปี
แม้ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นสู่บทบาทใหม่ของเขา ในตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล “Move Forward Party” สานต่ออุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ เป็นกระบอกเสียงให้กับคนตัวเล็ก เป็นความหวังในการนำพาประเทศกลับไปสู่ระบบประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์
#Takeaway
“สองคำที่อยู่ในชีวิตเสมอคือความสำเร็จ (Succesful) และความพึงพอใจ (Satisfied)”
ณ ช่วงวัยหนึ่งของคุณพิธา เขาอยากประสบความสำเร็จ อยากเป็นที่หนึ่งในทุกอย่าง เรียนก็ต้องเป็นที่หนึ่ง ทำงานก็ต้องเป็นที่หนึ่ง แต่เมื่อคิดว่าต้องประสบความสำเร็จ หลายๆ ครั้งมันคือการตัวเองไปเปรียบเทียบบนมาตราฐานของคนอื่น ในทางกลับกันหากคิดแค่การได้รับความพึงพอใจ มันคือการทำในสิ่งที่ตัวเองรักบนมาตราฐานของตัวเอง มันก็จะเป็นความสุขอีกแบบหนึ่งเช่นกัน
“การประสบความสำเร็จและมีความพึงพอใจในตนเองอาจเกิดขึ้นได้พร้อมๆ กัน แต่ส่วนใหญ่แล้วชีวิตมักต้องเลือกระหว่าง Successful กับ Satisfied ซึ่งมันไม่มีถูกไม่มีผิด อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางไหนให้กับชีวิตของตัวเอง” - คุณพิธากล่าว
#ชีวิตหลังเส้นทางการเมือง
สุดท้ายนี้ Career Fact ได้ถามคุณพิธาว่า
“มองชีวิตหลังเส้นทางการเมืองไว้เป็นอย่างไร?”
“เป้าหมายในอีก 10 ปีข้างหน้าของผม
คือการเป็นเลขาธิการสหประชาชาติคนแรกของประเทศไทย”
คุณพิธาวางเป้าหมายชีวิตที่เหลือไว้อย่างชัดเจน
ทั้งการเป็นเลขาสหประชาชาติ การเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย
จนถึงบั้นปลายชีวิตที่ต้องการกลับไปสู่ชนบท เรียบง่าย
เลือกเดินในทางที่เขาเชื่อ เดินหน้าทำตามความฝัน
เหมือนที่เขาเคยตั้งปฏิภาณในการเข้ามาสู่แวดวงการเมือง
จนสุดท้ายเขาสามารถทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเอง
“Career Fact เพราะทุกอาชีพมีเรื่องราว”
#careerfact
………………
สามารถติดตามเรื่องราวดีๆ ต่อได้ที่ Career Fact เพราะทุกอาชีพ... มีเรื่องราว (อย่าลืมกด See First เพื่อไม่ให้พลาดคอนเท้นท์ดีๆ)
โฆษณา