โจไปจากโปรตุเกสในปีค.ศ.1993 (พ.ศ.2536) โดยเธอพาเจสสิกาไปด้วย รวมทั้งโน้ตโครงร่างของแฮร์รี พอตเตอร์ และสามบทแรกของ “แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ (Harry Potter and the Philosopher's Stone)”
มิถุนายน ค.ศ.1997 (พ.ศ.2540) “แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ (Harry Potter and the Philosopher's Stone)” ได้ออกวางจำหน่ายในสหราชอาณาจักร ซึ่งสำนักพิมพ์ Bloomsbury ก็ขอให้โจใช้นามปากกา เนื่องจากสำนักพิมพ์เกรงว่าเด็กผู้ชายอาจจะไม่อยากอ่านหนังสือที่เขียนโดยผู้หญิง
1
โจจึงใช้นามปากกา “เจ.เค. โรวลิง (J. K. Rowling)” โดยนำชื่อของย่าและของเธอมารวมกัน
“แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ (Harry Potter and the Philosopher's Stone)” ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม มีแฟนๆ ตามอ่านเป็นจำนวนมาก และต่างก็เฝ้ารอเล่มต่อไปของแฮร์รี พอตเตอร์
“แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ (Harry Potter and the Chamber of Secrets)” ตามออกมาในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1998 (พ.ศ.2541)
เมื่อแฮร์รี พอตเตอร์เล่มสาม “แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน (Harry Potter and the Prisoner of Azkaban)” ออกวางจำหน่าย โจก็พบว่าไม่เพียงแต่เด็ก หากแต่ผู้ใหญ่ก็ติดแฮร์รี พอตเตอร์งอมแงม