10 ม.ค. 2021 เวลา 16:36 • หนังสือ
“1 ปีกับชีวิตที่ผมอยู่ในอเมริกา Season 2: Coming Home”
🌹 "เรื่องราวของเด็กหนุ่มชาวไทยที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางดินแดนสนธยานามว่าอเมริกากำลังดำเนินต่อ และใกล้เข้ามาแล้วกับคำว่าจุดสิ้นสุดของการผจญภัยในอีกครึ่งปีหลังนี้"
อย่างที่เราบอกตอนต้นว่า อ่านเล่ม 1 จบเราต้องขวนขวายหาอ่านเล่ม 2 โดยด่วน
ความเดิมตอนที่แล้วมันยังค้างยังคา พอๆกับความรู้สึกหน่วงที่วิกกี้มีให้พี่เจมนั่นแหละ
พอได้เล่ม 2 มาอ่าน อ่านช่วงปิดปีใหม่พอดี ใช้เวลาไม่นานก็จบ
เปิดตอนต้นมา ด้วยคำนำอันชวนให้น้ำตาไหลนั้น มันคือที่พี่เขียนไว้ว่า “10 ปี กว่าจะจบ แทบตาย”
แค่ประโยคเล็กๆสั้นๆแค่นี้ แต่มันมีอิมแพคกับเรามาก จากคนเคยมีประสบการณ์คล้ายๆกัน
ย้อนชีวิตตัวเองนิดนึงว่าเราเคยแต่งนิยาย ค้างไว้ตั้งแต่ม.ปลาย พอขึ้นมหาลัยก็ไม่มีเวลาเขียน
จนกระทั่งเรียนจบ ทำงาน ไม่มีเวลาอีก ดีที่ลาออกเร็วเลยได้กลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง
รวมทั้งสิ้นที่ใช้เวลาเขียนนิยายเล่มนั้นก็คือ 9 ปี นับจากตอนอายุ 16 ได้ตีพิมพ์เป็นรูปเล่มตอนอายุ 24
เห็นมั้ยว่าชีวิตไม่เคยง่าย กับการใช้ชีวิตโดยที่มีพล็อตในหัวแต่กลั่นกรองมันออกมาไม่ได้
ไม่ใช่ว่าไม่อยากเขียนหรอก แต่ตัน สนิมเกาะ กลัวว่ากลับไปเขียนแล้วมันจะไม่ต่อเนื่อง
เราอ่านต้นฉบับนั้นซ้ำเยอะมากก่อนกลับมารีไรท์อีกครั้ง เป็นการรีไรท์ให้รีเบิร์ทอย่างแท้จริง (Good rewriting makes perfect rebirth.)
—— ตัดภาพมาที่เรื่องของพี่เจมในหนังสือ ——–
เล่มสองนี้จะเป็นการขยายเส้นเรื่องจากเล่มที่ 1 และเป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องจากงาน Homecoming
ความที่มันแฝงไปด้วยดราม่าเล็กๆ แต่พี่เจมยังเล่าเรื่องได้อย่างมีรสชาติ มันเลยทำให้หยุดอ่านไม่ได้อีกครั้ง
จนกระทั่งอ่านจบ เราค้นพบว่าเราชอบบางประโยค บางพาร์ทของเรามากจนต้องเอา post it มาแปะคั้นหน้า
ไม่น่าเชื่อว่าความรู้สึกของคนเราก็ประหลาดนะ ที่เราสามารถแสดงอารมณ์ออกมาได้มากกว่า 1 แบบให้กับหนังสือใน 1 เล่ม
บ้างก็ให้เราหัวเราะ บ้างก็ให้เราฉุกคิด บ้างก็ให้เราเสียน้ำตา
ไม่รู้ใครเป็นเหมือนกันไหม แต่ตั้งแต่กลางเล่มไป เราเอาใจช่วยไปกับพี่เจม
โมเม้นต์ที่พี่หงุดหงิด เราก็เอาใจช่วย (พาร์ทเด็กเม็กซิกันคือที่สุดดด)
พาร์ทที่พี่อับจนปัญญา หมดหนทาง สับสน เราก็เอาใจช่วยตามอีก
จนค่อนเล่ม ตอนใกล้จะกลับไทย เราก็รู้สึกใจหายเหมือนกับพี่เจมไปด้วย
แน่นอนว่าพาร์ทสุดท้ายของหนังสือ คือพาร์ทที่เราเสียน้ำตา
จากการอ่านมา 2 เล่ม เราได้รู้จักตัวละคร ได้ผูกพันไปโดยไม่รู้ตัว
พอเกิดเหตุการณ์ขึ้น แน่นอนว่าเรารู้สึกเหมือนถูกเหวี่ยงไปมา มึน จุก พูดไม่ออก
ยิ่งตอนได้เห็นภาพประกอบ ที่วิกกี้ถ่ายรูปคู่พี่เจมตอนวันจบการศึกษา เป็นอะไรที่จุกจริงๆ
ที่จุกเพราะตื้นตันแทน อย่างน้อยพี่ก็ไม่มีอะไรค้างคากับเขาแล้วนะ…
ถ้าถามว่าพาร์ทไหนชอบที่สุดของเล่มนี้ คำตอบคือไม่มี เพราะชอบทุกพาร์ทเท่ากัน
ถ้าเปรียบเล่มแรก ทำความรู้จักกันเพียงผิวเผิน พอห่างกันก็แค่รอเวลามารู้จักกันใหม่
แต่พอเล่มสอง ความรู้สึกมันลึกซึ้งขึ้น เมื่อรู้ตัวว่าต้องจบ ต้องจากกันมันก็ยากขึ้นที่จะทำใจ
…ไม่อยากให้จบเลย แม้การผจญภัยนี้พี่ได้ถ่ายทอดจนหมดไส้หมดพุงแล้วก็ตาม
นี่ล่ะมั้งที่ทำให้นักอ่านหลายคนรีบไปกดติดตามเพจชี้ดาบ มันคือกลยุทธ์ใช่มั้ย ตอบบบ 5555
แต่แน่นอนว่ามันได้ผล เรายังคงรอคอยการกลับมาอัพเดทเรื่องราวชีวิตชาวอีเฟรต้าตามโพสต์ต่างๆ
จนเวลาผ่านไปหลายยยยยปี ล่าสุดพี่เจมก็เพิ่งกลับไปเยือนอีเฟรต้าอีกครั้ง เป็นการรียูเนียนที่แสนคิดถึง
นี่แอบรอให้เล่าการผจญภัยคราวนี้เป็นรูปเล่มอีกนะ จัดไปเลย เล่ม 3 ของซีรี่ย์ชุดนี้
(ถ้ามีภาค 3 จริง จะตั้งชื่อ season ยังไงดีนะ … Sweet Home Ephrata ไปเลยเอ้าา 555)
สุดท้ายนี้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่ ไม่เป็น และไม่เคยได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนแบบใครเขา
(แม้แต่ work & travel ก็ไม่เคยได้ไป มารู้ตัวว่าอยากไปตอนอายุเกินแล้ว งือ T_T)
แต่เราก็ดีใจที่ได้อ่านเรื่องราวของนักเรียนไทยในต่างแดนคนหนึ่ง
ตอนอ่านไปก็มโนไปนะว่าถ้าฉันเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ฉันคงทำอย่างนี้ บลาๆๆ
การอ่านหนังสือ มันสอนอะไรเราได้แบบเนียนๆว่า
ทุกอย่างมันไม่ได้สวยงาม แต่ทุกอย่างมันก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป
การเดินทางย่อมมีทั้งจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุด
หากแต่สิ่งที่สำคัญคือ ความทรงจำที่หลงเหลือ ที่ติดตรึง ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ณ สถานที่ที่อบอวลไปด้วยตัวเราในอดีต มันจะยังคงมีกลิ่นอายของเราแฝงอยู่ในนั้นเสมอ
ทุกบทเรียนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตคือการเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตต่อไป
การให้อภัย การลดอีโก้ การบอกขอโทษ การกล่าวขอบคุณ คือสิ่งที่ง่ายที่สุดแต่มนุษย์ส่วนใหญ่ปฏิเสธที่จะทำ
โอกาส อาจไม่ได้มีเสมอไป หากไม่คว้าไว้ อาจเสียใจไปตลอดชีวิต
…ขอบคุณนะ พี่เจม….
ใครสนใจ ไปทักทายพี่เจมเขาได้ ที่นี่
เพจ Facebook ชี้ดาบ >> https://web.facebook.com/CHIDAHP/
P.S. “Even a fleeting relationship can be meaningful”…เราเขียนประโยคนี้ลงในสมุดบันทึกและส่งมอบให้กับนักเรียนแลกเปลี่ยนคนนั้นในวันที่เขาต้องกลับอเมริกา ถึงแม้ว่าเขาจะกลับไปก่อนที่พี่เจมจะประกาศตีพิมพ์หนังสือเล่ม 1 เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ เขาไม่ได้อยู่รออ่านก่อน…แต่ไม่เป็นไร เราเชื่อว่าถ้าวันหนึ่งเขากลับมาไทยอีกครั้งแบบที่พี่เจมกลับไปอีเฟรต้า วันนั้นเราจะยื่นหนังสือฉบับแปลนั่นให้กับเขา เผื่อเขาจะได้นึกถึงวันที่เขายังเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ไทย…แล้วเราจะรอวันที่เธอกลับมา Homecoming นะ…

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา