11 ม.ค. 2021 เวลา 11:13 • ประวัติศาสตร์
การระเบิดของนิวเคลียร์บน “อวกาศ”
การระเบิดที่เปลี่ยนกลางคืนเป็นกลางวัน
ในวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ.1958 (พ.ศ.2501) ก่อนเที่ยงคืนเพียงไม่กี่นาที ได้เกิดลำแสงสีขาวสว่างวาบไปทั่วบริเวณเกาะจอห์นสตัน เกาะปะการังเล็กๆ กลางมหาสมุทรแปซิฟิก
ท้องฟ้ายามค่ำคืนเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีฟ้า เจ้าหน้าที่ประจำฐานทัพอากาศต่างหาที่หลบกันจ้าละหวั่น
ลำแสงที่เกิดขึ้นนั้น คือการทดลองนิวเคลียร์บนชั้นบรรยากาศภายใต้ปฏิบัติการ “Operation Hardtack” เพื่อศึกษาผลกระทบของนิวเคลียร์ที่มีต่อชั้นบรรยากาศ
หัวรบนิวเคลียร์ที่ปล่อยขึ้นไประเบิดยังชั้นบรรยากาศนี้ มีพลังงานนิวเคลียร์ถึง 3.8 เมกะตัน เท่ากับระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิม่าจำนวน 250 ลูก
นิวเคลียร์ได้ระเบิดที่ความสูง 76 กิโลเมตร และส่องแสงสว่างไปทั่วบริเวณ สามารถเห็นได้ถึงฮาวายที่อยู่ห่างออกไป 1,500 กิโลเมตร
ที่ฮาวาย ผู้คนนับพันโทรศัพท์แจ้งตำรวจ กล่าวว่าได้พบเห็นลำแสงประหลาดบนท้องฟ้า
ท้องฟ้าเหนือฮาวายเปลี่ยนจากสีดำเป็นเหลือง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นส้มและกลายเป็นสีแดง
ระบบติดต่อสื่อสารของกองทัพและจราจรทางอากาศนั้นดับสนิทเป็นเวลาหลายชั่วโมง ระบบการติดต่อภาคพื้นดินก็ถูกรบกวนเป็นเวลานานกว่าเก้าชั่วโมง
สี่ปีต่อมา สหรัฐอเมริกาได้ทำการทดลองนิวเคลียร์อีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็นการศึกษาผลกระทบของนิวเคลียร์ต่อแม่เหล็กโลก
ปฏิบัติการนี้เป็นที่รู้จักในชื่อของ “Operation Fishbowl” และคราวนี้ การระเบิดจะระเบิดที่ความสูงเหนือครั้งก่อนมาก โดยจะระเบิดบริเวณที่ดาวเทียมโคจรรอบโลก
การทดลองสองครั้งนั้นล้มเหลว หากแต่ครั้งที่สาม ซึ่งทดลองที่เกาะจอห์นสตันในวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ.1962 (พ.ศ.2505) ในเวลา 11.00 น. ประสบความสำเร็จ โดยหัวรบนิวเคลียร์ในการทดลองครั้งนี้มีพลังถึง 1.4 เมกะตัน
ระเบิดนิวเคลียร์ได้ระเบิดที่ความสูง 400 กิโลเมตร และทำให้ไฟบนถนนทั่วฮาวายดับ วิทยุใช้การไม่ได้ โทรศัพท์ก็ไม่สามารถใช้การได้
1
บริเวณอื่นของมหาสมุทรแปซิฟิก แม่เหล็กไฟฟ้าได้ขยายไปทั่วบริเวณ ก่อนที่จะเกิดลำแสงออโรราสีแดงปกคลุมไปทั่วมหาสมุทรแปซิฟิก
1
สหภาพโซเวียตก็ไม่ยอมน้อยหน้า ได้มีการทดลองนิวเคลียร์เช่นกัน ทำให้ในปีต่อมา ค.ศ.1963 (พ.ศ.2506) สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตได้ลงนามในข้อตกลงที่จะทำการแบนการทดลองอาวุธนิวเคลียร์บนชั้นบรรยากาศ
1
น่าคิดว่าหากนิวเคลียร์เหล่านี้ใช้โจมตีประเทศต่างๆ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
คงได้แต่หวังว่าอนาคตจะไม่ต้องมีการใช้อาวุธนิวเคลียร์เช่นนี้อีก
โฆษณา