🔸บทนำ (ตอนที่ 5-1)🔸หน้า (34) - (35)
▪️เทพชีวีแห่งกฤษณะเทพ▪️
“ศรีกฤษณะ” เติบใหญ่ในทุ่งโกคุลา ย่านใกล้เคียงกับพฤนทาพันบนฝั่งแม่น้ำยมุนา ที่ซึ่งบิดาคือวาสุเทพ ได้นำท่านหนีมาทันทีที่ท่านคลอดจากครรภ์นางเทวกีมารดาในคุกที่เมืองมถุรา (ประตูที่ปิดลั่นดาลเปิดทางให้อย่างน่าอัศจรรย์ บรรดาผู้คุมพากันหลับใหล วาสุเทพจึงนำทารกหนีมาได้อย่างปลอดภัย จนถึงบ้านที่รับเลี้ยงทารกน้อยกฤษณะ)
พ่อแม่บุญธรรมที่รับเลี้ยงกฤษณะคือ นายโคบาลนันทา กับภรรยาใจดีชื่อยโสธา ตอนเป็นเด็กอยู่ที่พฤนทาพัน กฤษณะทำให้ทุกคนฉงนสนเท่ห์ด้วยความฉลาดเกินวัยของท่าน และการแสดงพลังอำนาจที่เหลือเชื่อหลายอย่าง ความสนุกรื่นเริงของท่านมักเกิดจากการเล่นแผลง ๆ แบบเด็ก ๆ ที่ให้ทั้งความสนุกสนานและความยินดี แต่บางครั้งผู้คนก็พากันอกสั่นขวัญหนี เมื่อถูกความสนุกของกฤษณะเล่นงานเอา
ครั้งหนึ่งเหตุการณ์ทำนองนี้ ทำให้ยโสธาได้เห็นถึงเทพภาวะของเด็กที่เธอให้การเลี้ยงดู ทารกกฤษณะชอบฉกและกินเนยแข็งที่สาวรีดนมวัวได้ทำไว้ ครั้งหนึ่งท่านอัดเนยแข็งไว้เต็มกระพุ้งแก้มทั้งสองข้าง จนยโสธาเกรงว่าเด็กจะสำลัก เธอจึงรีบบีบปากกฤษณะให้อ้าออก แต่แทนที่จะเห็นเนยแข็ง (เรื่องเล่าของชาวบ้านบอกว่าเป็นโคลน) เธอกลับเห็นจักรวาลทั้งจักรวาล – วิศวรูป หรือกายที่ไร้ความสิ้นสุดขององค์พระผู้สร้าง รวมทั้งตัวเธออยู่ในปากนั้น ด้วยความครั่นคร้าม เธอหันหน้าหนีจากภาพจักรวาลนั้น และยินดีที่ได้ลูกน้อยกลับมากอดไว้แนบอกอีกครั้ง
กฤษณะเป็นที่รักของทุกคนในหมู่บ้าน เพราะนอกจากรูปงามลักษณะดีแล้ว ยังเป็นเด็กมีมารยาท มีเสน่ห์ ที่ใคร ๆ ก็อดรักไม่ได้ ท่านคือผู้ทรงไว้ซึ่งความรักแห่งสวรรค์ ให้ความสุขแก่ทุกผู้คน ท่านเป็นผู้นำ และเป็นเพื่อนกับเด็ก ๆ ทั้งโคปา (ชายเลี้ยงโค) และโคปี (สาวเลี้ยงโค) ที่ช่วยกันเลี้ยงโคของหมู่บ้านในสภาพแวดล้อมที่ร่มรื่น
โลกที่ติดอยู่กับกามคุณ และเห็นว่าการบริโภคกามเป็นหนทางเดียวที่จะสนองความพอใจ ยากที่จะเข้าใจความรักแห่งสวรรค์อันบริสุทธิ์กับมิตรภาพที่ไร้กามราคะเจือปน การตีความตามตัวอักษรถึงการเกี้ยวเล่นของศรีกฤษณะกับบรรดาสาวเลี้ยงโคในลักษณะเช่นนี้ เป็นความวิตถารโดยแท้ ในที่นี้สัญลักษณ์คือ 'ความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างบรมวิญญาณกับธรรมชาติ' ซึ่งเมื่อร่ายรำไปด้วยกันย่อมรังสรรค์ทิพยลีลา การเริงเล่นที่เซ่นสรวงความบันเทิงแก่สรรพสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง
ศรีกฤษณะกับเสียงขลุ่ยสวรรค์อันน่าหลงใหลของท่านเรียกผู้ภักดีทั้งหลายสู่ห้วงแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยสมาธิ เอิบอาบอยู่กับความรักอันอุดมด้วยพรแห่งพระเจ้า
ตอนที่ต้องจากพฤนทาพันเพื่อทำหน้าที่ขององค์อวตารให้บรรลุความสมบูรณ์ ด้วยการช่วยผู้มีธรรมเพื่อยับยั้งความชั่วนั้น ดูเหมือน กฤษณะจะยังเป็นเด็กอยู่ งานแรกของท่าน ในบรรดาการกระทำที่องอาจสามารถของท่าน คือการ 'สังหาร' กัญศะ แล้วปลดปล่อยวาสุเทพกับเทวกี บิดามารดาของท่านออกจากคุก หลังจากนั้น วาสุเทพได้ส่งศรีกฤษณะกับอนุซาคือพลราม ไปศึกษาศิลปวิทยาการที่อาศรมของมหาปราชญ์นามสนธิปาณี
เมื่อเติบโตขึ้น ศรีกฤษณะผู้มีสายเลือดขัตติยะได้เข้าต่อกรหลายครั้งหลายครากับราชาผู้ชั่วช้า ทรงสถาปนาราชธานีทวารกาบนเกาะนอกฝั่งตะวันตกของแคว้นคุชราต เกือบตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ ศรีกฤษณะมีเรื่องเกี่ยวพันอย่างมากมายกับตระกูลปาณฑพและตระกูลเการพ ซึ่งมีราชธานีอยู่ที่ตอนกลางของอินเดียเหนือ ใกล้กับที่ตั้งของนครเดลีในปัจจุบัน พระองค์มีส่วนทั้งในกิจการทางโลกและทางจิตวิญญาณให้แก่สองตระกูลนี้ ในฐานะพันธมิตรและที่ปรึกษา และมีบทบาทสำคัญเป็นพิเศษในการยุทธ์ที่ทุ่งกุรุเกษตรระหว่างปาณฑพกับเการพ
เมื่อศรีกฤษณะบรรลุหน้าที่ที่ต้องกระทำบนโลกนี้แล้ว ทรงปลีกพระองค์ไปอยู่ในป่า และได้ละสังขารจากพิษแผลธนูที่นายพรานยิงโดนท่านเพราะเข้าใจผิดคิดว่าท่านเป็นกวาง ขณะท่านพักอยู่ ณ ที่โล่งกลางป่า เหตุการณ์นี้เป็นไปตามคำพยากรณ์ถึงสาเหตุที่ท่านต้องละไปจากโลกนี้
(มีต่อ)
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
