20 ม.ค. 2021 เวลา 03:11 • หนังสือ
#33 เล่ม 1 บทที่ 7 หน้า 180 ~ 186
...
ฉันเข้าใจความอ่อนล้าของเธอดี ฉันรู้ว่าเธอเหนื่อยกับการต่อสู้ดิ้นรน แต่ฉันจะบอกเธออย่างนี้ว่า : เมื่อเธอ "ติดตามฉันมาการดิ้นรนทั้งหลายจะมลายไป"
🔆จงมีชีวิตอยู่ในพื้นที่ของพระเจ้าแล้วเหตุการณ์ต่างๆจะเป็นดั่งพร🔆
...
...
...
N : ผมจะเข้าสู่พื้นที่ของพระเจ้าได้ยังไงถ้าผมยังตกงาน ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน เด็กๆต้องไปหาหมอฟัน การอยู่ในพื้นที่ทางปรัชญาอันสูงส่งนั้นดูแทบจะไม่มีทางแก้ปัญหาพวกนี้ได้เลยนะครับ?
G : ✴️ อย่าทิ้งฉันในเวลาที่เธอต้องการฉันมากที่สุดสิ
3
🔸นี่คือโมงยามแห่งการทดสอบอันยิ่งใหญ่
🔸คือห้วงขณะแห่งโอกาสยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ
🔸เป็น`โอกาสที่จะพิสูจน์`สิ่งที่เขียนมาทั้งหมดนี้
ตอนที่พูดว่า "อย่าทิ้งฉัน" ฉันดูคล้ายพระเจ้าโรคประสาทที่ชอบเรียกร้อง ซึ่งเราได้พูดถึงกันไป แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เธอ "ทิ้งฉัน" ได้เสมอตามที่ต้องการเลย ฉันไม่แคร์หรอก เพราะมัน`ไม่อาจเปลี่ยนสิ่งใดๆระหว่างเราได้`
ฉันเพียงแต่พูดเพื่อตอบคำถามเธอเท่านั้นเอง ช่วงที่อะไรๆเป็นไปอย่างยากลำบาก เธอมักจะ`หลงลืมตัวตนที่แท้จริงของเธอ` และ`ลืมเครื่องมือ`ที่ฉันให้ไว้เพื่อสร้างสรรค์ชีวิตอย่างที่เธออยากจะเลือก
✴️ตอนนี้ได้เวลาแล้วที่เธอจะ "กลับสู่พื้นที่ของพระเจ้าให้มากกว่าที่เคย"
2
★ประการแรก★ มันจะนำความสงบสุขยิ่งใหญ่สู่จิตใจเธอ จากใจที่สงบนั้นความคิดดีๆจะพรั่งพรู ความคิดซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาใหญ่หลวงที่สุดที่เธอคิดว่าตนกำลังเผชิญอยู่
★ประการที่สอง★ ในพื้นที่ของพระเจ้านั่นเองที่เธอจะรู้แจ้งในตัวตน
และนั่นคือจุดหมาย 🔸เป็นจุดมุ่งหมาย `เดียว` ของวิญญาณเธอ🔸
เมื่อเธออยู่ในพื้นที่ของพระเจ้า เธอจะรู้และเข้าใจว่า 🔹ทั้งหมดที่เธอประสบอยู่ล้วนเป็นสิ่งชั่วคราว🔹
1
ฉันจะบอกเธอให้ว่าสวรรค์และผืนโลกจะผ่านไป ทว่า`เธอไม่`
✴️มุมมองอันเป็นนิรันดร์นี้จะช่วยให้เธอมองดูสิ่งต่างๆด้วยความเข้าใจที่กว้างขึ้น✴️
1
เธออาจนิยามเงื่อนไขและสถานการณ์ปัจจุบัน `ตามที่มันเป็นจริง`ได้ นั่นคือ "เป็นเรื่องชั่วคราว ไม่ถาวร" แล้วเธอก็อาจใช้มันเป็นเครื่องมือ (เพราะนั่นคือสิ่งที่มันเป็น เครื่องมือชั่วคราวที่ผ่านมาและก็จะผ่านไป) ในการสร้างสรรค์สถานการณ์ปัจจุบัน
ก็แล้วใครเล่าที่เธอคิดว่าตัวเองเป็น?
ในความสัมพันธ์ต่อประสบการณ์ที่เธอเรียกว่า`การตกงาน` เธอคิดว่าเธอคือใคร?
และถ้าให้ตรงประเด็นขึ้นไปอีกก็คือ เธอคิดว่า`ฉันเป็นใคร`?
เธอคิดว่านี่เป็นปัญหาใหญ่เกินกว่าที่ฉันจะแก้ได้อย่างนั้นหรือ?
การออกจากความยุ่งยากนี้เป็นปาฏิหาริย์เกินกว่าฉันจะจัดการได้?
 
ฉันเข้าใจว่าเธออาจคิดว่ามันใหญ่เกินกว่าที่เธอจะจัดการแม้จะใช้เครื่องมือทั้งหลายที่ฉันให้ไว้ก็ตาม แต่เธอคิดจริงๆหรือว่ามันใหญ่เกินไปสำหรับฉันน่ะ?
N : ว่ากันตามเหตุผลแล้วผมรู้ว่าไม่มีงานไหนใหญ่เกินไปสำหรับพระเจ้าหรอก แต่ผมกลับรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ ไม่ใช่กลัวว่าพระองค์จะ `ทำไม่ได้` แต่กลัวว่าพระองค์ `จะไม่ทำ` ต่างหาก
G : เข้าใจล่ะ งั้นก็เป็นเรื่องของศรัทธาแล้วสิ
1
N : ครับผม
G : เธอไม่สงสัยในความสามารถของฉัน
แต่กังขา `ความปรารถนาที่ฉันมี`
N : พระองค์เข้าใจมั้ยครับ ผมยังเชื่อทฤษฎีที่ว่าอาจมีบางอย่างที่ผมยังต้องเรียนรู้อยู่
ผมไม่มั่นใจว่าผมควรได้รับทางแก้ปัญหาหรือเปล่า บางทีผมอาจจะควรมีปัญหาก็ได้ บางทีนี่อาจจะเป็นหนึ่งในบรรดา "สิ่งทดสอบ" ที่ความคิดทฤษฎีของผมพยายามจะบอกอยู่ตลอด
ผมเลยหวั่นๆว่าปัญหานี้`อาจจะ`ไม่ได้รับการแก้ไข ว่านี่คือหนึ่งในบรรดาสิ่งที่พระองค์กำลังจะตรึงผมอยู่ตรงนี้กับ...
G : บางทีนี่อาจเป็นเวลาที่ดีที่เราจะได้ตรวจสอบกันอีกรอบว่า `ฉันมีปฏิสัมพันธ์กับเธอ` อย่างไร
 
เพราะเธอคิดว่าปัญหาอยู่ที่ความปรารถนา`ของฉัน`
3
แต่ฉันจะบอกเธอเดี๋ยวนี้ว่าปัญหาอยู่ที่ความปรารถนา`ของเธอเอง`ต่างหาก
1
🔆ฉันปรารถนาให้เธอได้รับในสิ่งที่เธอปรารถนาต่อตัวเธอเอง🔆 ไม่มากหรือน้อยไปกว่านั้น
ฉันไม่ได้นั่งอยู่ที่นี่แล้วคอยตัดสินคำขอทีละข้อๆว่าอันไหนควรจะอนุญาตบ้าง
กฏของฉันคือ "กฏแห่งเหตุและปัจจัย"
(the law of cause and effect)
ไม่ใช่กฏ "แล้วเราจะได้เห็นดีกัน"
✴️ไม่มีอะไรที่เธอจะมีไม่ได้เมื่อเธอเลือก
1
✴️ฉันให้เธอก่อนที่เธอจะร้องขอเสียอีก
เชื่อไหมเล่า?
1
N : ไม่เชื่อครับ ผมเสียใจที่ต้องตอบอย่างนั้น ผมเห็นคำอธิษฐานมากมายหลายข้อที่ไม่ได้รับคำตอบ
G : ไม่ต้องเสียใจหรอก แค่อยู่กับความจริงก็พอ ความจริงของประสบการณ์เธอ ฉันเข้าใจและให้ค่ามัน ไม่เป็นไรหรอก
1
N : ดีครับ เพราะผม`ไม่เชื่อว่า` ไม่ว่าจะขออะไรผมก็จะได้รับสิ่งนั้น ชีวิตผมไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันอย่างนั้นเลย ความจริงผม`แทบ`ไม่ได้อะไรตามที่อธิษฐานด้วยซ้ำไป ครั้งที่ได้รับคำตอบผมก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีฉิบหายเลย
G : เลือกใช้คำได้น่าสนใจ ที่จริงดูเหมือนเธอจะมี`ทางเลือก`ในชีวิตอยู่นะ
1
เธอสามารถจะโชคดีฉิบหายหรือโชคดีวิเศษก็ได้ ฉันอยากให้เธอโชคดีอย่างวิเศษมากกว่า แต่แน่ล่ะ
 
✴️ฉันไม่เข้าไปยุ่งกับการตัดสินใจของเธอหรอก
1
ฉันขอบอกเธอว่า...
🔆เธอจะได้รับสิ่งที่เธอสร้างขึ้นมาเสมอ
🔆และเธอก็กำลังสร้างอยู่ทุกขณะ
1
✴️ฉัน`ไม่ตัดสิน`สิ่งที่เธอสร้างขึ้นมาหรอกนะ
✴️ฉันแค่`เสริมพลัง`ให้เธอสร้างมากขึ้นและมากขึ้น
1
▶️ ถ้าเธอ`ไม่ชอบ`สิ่งที่ตัวเองเพิ่งสร้างขึ้นมาล่ะก็
จงเลือกใหม่❗
1
งานของฉันในฐานะพระเจ้าก็คือ :
✴️ให้โอกาสนั้นแก่เธอเสมอ✴️
ตอนนี้เธอกำลังบอกฉันว่า...
★เธอไม่ได้รับสิ่งที่ต้องการเสมอไป★
แต่ฉันจะบอกว่า...
★เธอจะได้รับสิ่งที่เธอทำให้เกิดขึ้นเสมอ★
✴️✴️✴️ชีวิตเธอคือผลของความคิดที่เธอมีต่อมัน✴️✴️✴️
รวมทั้ง ★ความคิดอันชัดแจ้ง★
ซึ่งมีพลังสร้างสรรค์ที่ว่า : ✴️เธอ`แทบไม่ได้รับ`ในสิ่งที่ตนเลือกนั้นด้วย✴️
ตอนนี้เธอมองตัวเองว่าเป็นเหยื่อจากสถานการณ์ตกงาน แต่ความจริงคือ`เธอไม่ได้เลือกงานนั้นแล้ว` เธอเลิกตื่นในยามเช้าด้วยใจจดจ่อ ทว่าตื่นอย่างหวาดกลัว เธอไม่มีความสุขกับงานอีกต่อไป แต่เริ่มรู้สึกขุ่นเคือง เธอแม้กระทั่งฝันถึง`การทำอย่างอื่น`ด้วยซ้ำ
1
เธอคิดว่าอะไรพวกนี้ไม่มีความหมายอย่างนั้นหรือ?
เธอเข้าใจพลังอำนาจของตัวเองผิดไปแล้ว
1
ฉันขอบอกเธอนะว่า...✴️ชีวิตของเธอจะเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่เธอมีต่อมัน✴️
2
แล้วตอนนี้ล่ะ
เจตนารมณ์ของเธอคืออะไร❓
1
เธอตั้งใจที่จะ`พิสูจน์ทฤษฎี`ที่ว่า ชีวิตแทบไม่ให้อะไรตามที่เธอเลือกอย่างนั้นหรือเปล่า?
หรือเธอตั้งใจที่จะแสดงถึงตัวตนที่แท้จริงของเธอและฉัน?
N : ผมรู้สึกแย่จังเลย รู้สึกเหมือนถูกตำหนิและกระอักกระอ่วนเหลือเกิน
G : แล้วมันช่วยอะไรเธอได้ไหมล่ะ?
ทำไมถึงไม่เพียงแค่รับความจริงนั้นไว้เมื่อได้ยิน แล้วก็เคลื่อนเข้าหามัน?
1
ไม่ต้องว่าตัวเองหรอก
🔆แค่สังเกตว่าเธอได้เลือกอะไรไป
🔆และเลือกใหม่อีกครั้งก็พอแล้ว
2
N : แต่ทำไมผมถึงพร้อมที่จะเลือกแบบลบๆเสมอเลยล่ะครับ?
เสร็จแล้วก็กลับมาหวดก้นตัวเองที่ทำอย่างนั้น?
G : แล้วเธอจะคาดหวังอะไรได้ล่ะ?
เธอถูกบอกมาตั้งแต่เล็กว่าเธอน่ะ "เลว"
เธอยอมรับว่าตัวเองเกิดมาพร้อม "บาป"
★ความรู้สึกผิด★ คือ 🔹การตอบสนองที่เกิดจากการเรียนรู้ในภายหลัง🔹
เธอถูกสอนให้รู้สึกผิดเกี่ยวกับตัวเอง
`ก่อนที่จะทำอะไรเป็นเสียอีก`
1
เธอถูกสอนให้รู้สึกละอาย
ที่เกิดมาไม่สมบูรณ์แบบ
การหาว่าเธอมาสู่โลกอย่างไม่สมบูรณ์แบบนี้เองคือสิ่งที่นักการศาสนาของเธอให้ชื่อความขมขื่นนี้ว่า "บาปแรก" (บาปกำเนิด)
มันคือบาปแรก "แต่ไม่ใช่ของเธอหรอก"
มันคือบาปที่ `ถูกยัดใส่ตัวเธอ` จากโลกที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพระเจ้าเลย แต่ `คิดว่า` พระเจ้าอาจ หรือว่าสามารถสร้างสิ่งที่ `ไม่สมบูรณ์แบบ` ขึ้นมาได้
บางศาสนาของพวกเธอได้สร้างระบบความเชื่อทั้งหมดขึ้นจาก `ความเห็นผิดๆ` นี้
ซึ่งเป็นอะไรที่ตรงตามตัวอักษรเลยทีเดียวนั่นคือ "เป็นความเข้าใจผิด" (Misconception)
เพราะไม่ว่าสิ่งใดที่ฉันให้กำเนิด
และทุกสิ่งที่ฉันให้ชีวิตล้วนแต่สมบูรณ์แบบ
1
"ทั้งหมดคือภาพสะท้อนอันสมบูรณ์แบบของตัวความสมบูรณ์แบบเอง" ซึ่งสร้างขึ้นเหมือนและตามอย่างฉัน
แต่เพื่อจะหาความชอบธรรมให้กับมโนคติเรื่องพระเจ้าจอมลงทัณฑ์ให้ได้ ศาสนาของพวกเธอจึงต้องสร้างบางสิ่งเพื่อให้ฉันรู้สึกโกรธขึ้นมา เพื่อว่าแม้กระทั่งผู้มีชีวิตน่ายกย่องก็ยังต้องได้รับการช่วยให้รอดด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง ถ้าคนพวกนั้นไม่จำเป็นต้องได้รับการช่วยให้รอดจากตัวเองแล้ว พวกเขาก็ต้องได้รับการช่วยให้พ้นภัยจาก`ความไม่สมบูรณ์ที่ฝังอยู่ในตัวของพวกเขาอยู่ดี`
ดังนั้น (ศาสนาเหล่านี้กล่าวว่า) เธอควรจะทำอะไรบางอย่างกับเรื่องทั้งหมดนี้ และทำอย่างเร็วด้วยไม่อย่างนั้นเธอจะตกนรก
ที่สุดแล้วสิ่งนี้ก็อาจไม่ช่วยให้พระเจ้าที่พิลึกพิลั่น เจ้าคิดเจ้าแค้น และจอมโกรธเกรี้ยวนี้สงบลงได้ แต่กลับทำให้เกิด`ศาสนาต่างๆ`ที่พิลึกพิลั่น เจ้าคิดเจ้าแค้น และจอมโกรธเกรี้ยวขึ้นมาแทน
ดังนั้นศาสนาจึงทำให้ตัวเองคงอยู่ไปได้ชั่วกาลนาน อำนาจจึงยังคงกระจุกอยู่ในมือของคนไม่กี่คน แทนที่จะได้ 🔹ถูกส่งผ่านมือของคนหมู่มาก🔹
แน่นอน เธอจึงเฝ้าแต่ "เลือก"
`ความคิดที่ต่ำกว่า`
`มโนคติเล็กจ้อยกว่า`
`ความคิดเกี่ยวกับตัวเธอเองและอำนาจในตัวเองที่เล็กน้อยที่สุด`
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความคิดที่เกี่ยวกับฉัน
และพลังอำนาจของฉันเลย
เธอถูกสอนให้เป็นอย่างนั้น
N : พระเจ้าช่วย ผมจะ`ลบล้าง`คำสอนพวกนี้ออกไปได้ยังไงครับเนี่ย?
G : เป็นคำถามที่ดี และถามถูกคนแล้ว
1
เธอสามารถ`ลบล้าง`คำสอนพวกนั้นได้
✴️ด้วยการอ่านและอ่านหนังสือเล่มนี้
✴️จงอ่านมันรอบแล้วรอบเล่า
✴️จนกว่าจะเข้าใจทุกย่อหน้า
✴️จนกระทั่งคุ้นกับคำทุกคำ
1
🔆เมื่อใดที่เธอ`สามารถ` นำถ้อยความในนี้ไปพูดให้คนอื่นฟัง
1
🔆หรือระลึกถึงวลีต่างๆขึ้นมาได้ในห้วงยามอันมืดมิดละก็
2
เมื่อนั้นเธอจึงได้ ★ลบล้างคำสอน★ นั้นแล้ว
1
N : แต่ผมยังมีอะไรที่อยากถามอยู่อีกเยอะนะครับ มีอีกมากมายเลยที่ผมอยากรู้
G : จริงๆเธอเริ่มด้วยการจดรายการคำถามไว้แล้วนะ เรากลับไปตรงนั้นกันดีไหม?
(จบบทที่ 7)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา