26 ม.ค. 2021 เวลา 03:07 • ธุรกิจ
กำจัดความกลัว
1
ฟังไฟล์เสียงได้ที่ 👉🏻 https://youtu.be/AH7M09wn6Ck
....อุปสรรคใหญ่สุดของความสำเร็จ ความสุข ความมีประสิทธิภาพ คือ ความกลัว ....เราจะหนีจากความไม่สบายใจไปสู่ความสบายใจ ซึ่งการลด / กำจัด ความกลัว เป็นกุญแจสู่ ความเป็นมนุษย์+บรรลุศักยภาพสูงสุดของตัวเอง
....ความต้องการมีตัวตน คือ ต้องการใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่....บุคลิกภาพ = พรสวรรค์ ความสามารถ ความสนใจ การเรียนรู้ ศักยภาพในแบบตัวเอง
....การขาย ไม่ใช่การสร้างความต้องการใหม่ แต่ที่ซื้อสินค้า เพราะช่วยบรรเทาความไม่พอใจตอนนี้ ไปสู่ความพึงพอใจที่หวังไว้ เพราะฉะนั้น หากลูกค้าที่มีความต้องการอยู่แล้ว แต่กำลังไม่พอใจ
....การที่ลูกค้าไม่ซื้อสินค้า เพราะสัมผัสได้ถึงความเสี่ยง ความกลัว ไม่ได้รับความพอใจ / ประโยชน์จากสินค้า กลัวเลือกผิด กลัวคนอื่นไม่เห็นด้วย ....ต้องทำให้ลูกค้าเชื่อว่า ซื้อสินค้าเราดีกว่าเอาเงินไปใช้อย่างอื่น และตัดสินใจถูกต้องแล้ว
....การใช้คำรับรองจากบุคคลที่มีชื่อเสียง+ได้รับความเคารพนับถือ พูดถึงสินค้าในแง่ดี ช่วยขจัดความกลัวออกจากลูกค้า รู้สึกว่าสินค้านี้ได้รับการยอมรับแล้ว ลูกค้าจะซื้อ
.....การกำจัดความกลัวเพื่อดึงศักยภาพออกมา ต้องเข้าใจก่อนว่า ความกลัวทีจุดเริ่มต้นยังไง (พิจารณาตั้งแต่วัยเด็ก) ส่งผลต่อตัวเองอย่างไร ทำสิ่งใดเพื่อลดทอนความกลัวในตัวเอง + ผู้อื่นให้เหลือน้อยที่สุด คำถามคือ
1. ตอนนี้เราอยู่ตรงจุดไหน
2. เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร (พิจารณาต้นตอความกลัว)
3. เราต้องการจะอยู่ตรงจุดไหนในอนาคต
4. เราจะไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร
....ความกลัวเป็นสิ่งที่เรียนรู้จากทารกกับทางที่เราโตมา เป็นวิธีคิด+รู้สึกกับตัวเอง+โลกรอบตัว ซึ่งเด็กเกิดมาไม่มีความกลัวโดยสิ้นเชิง มีความเชื่อว่าฉันทำได้ และ ไม่เคยยับยั้งชั่งใจ ไม่สงวนท่าที ทำและพูดทุกอย่างที่ต้องการโดยไม่มีข้อจำกัด
....คำว่าไม่ได้ หยุด+อารมณ์โกรธ ทำให้เด็กรู้สึกตัวเองไม่ดีพอ ไร้ความสามารถ ไม่เอาไหน ทำให้ไม่กล้าลองสิ่งใหม่ที่แตกต่างจากเดิม ซึมซับคำว่าฉันทำไม่ได้ บ่มเพาะความล้มเหลว เกิดความคิดว่า ถ้ามันไม่ได้ผลล่ะ ทำแล้วล้มเหลวพ่อแม่จะโมโห ตำหนิ ไม่ยอมรับในตัวฉันไหม สั่นคลอนความมั่นคงปลอดภัย
....ปัญหาทุกอย่างในวัยผู้ใหญ่เกิดจากวัยเด็ก เด็กๆต้องการความรัก ทำให้ตอบสนองความต้องการส่วนลึก คือความมั่นคงปลอดภัย ไม่งั้นจะกลายเป็นคนขี้กังวล หวาดกลัว เขาวัดว่าตัวเองปลอดภัยแค่ไหนจากเวลาร้องไห้พ่อแม่มาปลอบเร็วแค่ไหน
....การควบคุมใครที่ง่ายและรวดเร็วคือ การไม่ให้ความรักและการยอมรับ ใช้ความรักเป็นเครื่องมือ ต้องทำในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการ ทำให้เกิดความกลัวในจิตใต้สำนึกว่าฉันต้องทำให้คนอื่นพอใจ พอโตจึงกลัวการถูกปฎิเสธ ให้ความสำคัญกับความคิดเห็น ไม่กล้าทำในสิ่งที่คนอื่นไม่พอใจ รู้สึกผิดเมื่อทำให้ใครไม่พอใจ พยายามทำให้ได้รับการยอมรับ+ความเห็นชอบ
....เพราะฉะนั้นพ่อแม่ควรให้ลูกตัดสินใจอย่างอิสระด้วยตนเองว่าอยาก / ไม่อยากทำอะไร + พ่อแม่สนับสนุน 100% เขาจะมีทางเดินเป็นของตัวเอง ไม่วิตก ไม่คล้อยตามคนอื่น ภูมิใจ มั่นใจในตัวเอง
....พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องสอนว่าลูกต้องทำอะไร แค่ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีเท่านั้นพอ
....เราสามารถทำลายความคิดแง่ลบได้โดยวิธีที่ทรงพลังที่สุด คือ พูดออกมาว่า ฉันทำได้ ความกลัวจะหายไปความมั่นใจจะมาแทนที่
....เปลี่ยนความกลัวว่าจะล้มเหลวในสายตาพนักงาน ให้เป็นเรื่องธรรมดา บอกว่าความคิดพลาดไม่ส่งผลเสีย การล้มเหลวเหมือนเป็นลมหายใจ ให้ทำสุดความสามารถ หากล้มเหลวใช้เป็นประสบการณ์ในการเรียนรู้และเดินหน้าต่อ ยินดีกับคนที่กล้าเสี่ยง ....การฉลองให้กับความผิดพลาด เป็นวิธีขจัดความกลัวความล้มเหลว
....สร้างสภาพแวดล้อมให้มีอิสระในการพูดคุย แสดงความคิดเห็นได้ชัดเจน เปิดเผย ไม่ต้องกลัวว่าจะโกรธ ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ จดจ่อกับวิธีแก้ปัญหามากกว่าตัวปัญหา มองสิ่งที่ทำได้ จดจ่อกับอนาคต เลิกหาคนผิดเพื่อมาตำหนิ เลิกวิจารณ์ หันไปรับผิดชอบ 100% ไม่งั้นจะไม่กล้าลองอะไรใหม่ๆ ไม่กล้าบอกข่าวร้ายกับคุณ เป็นการกำจัดอารมณ์แง่ลบที่ดีที่สุด เป็นการแทนที่ความคิดลบด้วยการคิดบวก (คนเราจดจ่ออะไรได้เพียงเรื่องเดียว) ทำให้ควบคุมความคิดที่มีต่อสถานการณ์ได้ทันที ทำงานราบรื่น ได้ผลงานดีสุด
....ธุรกิจเกิดจากปัญหา ใหญ่เล็ก หัวหน้าคือ นักแก้ปัญหา เอาชนะอุปสรรค ตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ขจัดความกลัว สร้างสภาพแวดล้อมแบบนี้
....ไม่มีคำล้มเหลวในความคิดผู้นำ มีแต่บทเรียนที่น่าสนใจและหลีกเลี่ยงไม่ได้ในโลกธุรกิจ
....เมื่อเกิดการผิดพลาด รับรู้ว่าเราต้องรับผิดชอบเอง+ได้เรียนรู้อะไรบ้าง + มองไปยังอนาคต ว่าครั้งต่อไป จะทำสิ่งนี้ ไม่ทำสิ่งนั้น เราจะไปจดจ่อกับอนาคตแทน การไปวิจารณ์จ่อจ่อกับอดีตที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้จะโกรธ ปกป้องตัวเอง หวาดกลัว ไม่กล้าเสี่ยงในอนาคต
....คำถาม ....อะไรคือเป้าหมายที่คุณกล้าฝันถึง ถ้าคุณรู้ว่าไม่มีทางล้มเหลว
เพิ่มการพัฒนาตัวเองวันละนิด
เหมือนเติมวันละ 1 องศา
1 วัน อาจจะไม่มีอะไร
10 วันไม่มีความต่าง
แต่ 100 วันล่ะ 1000 วันล่ะ
จะเปลี่ยนแปลงไปโดยแทบไม่เห็นร่องรอยเดิม
มาพัฒนาวันละ 1 องศา เพื่อเติมเต็มวงล้อชีวิตให้สมบูรณ์ไปด้วยกัน...กับเพจ #องศาที่หายไป
👍🏻เลื่อนนิ้วโป้งกด Like กด Share ให้จูลสักนิด..เพื่อชีวิตที่มีกำลังใจให้จูลนะคะ..ขอบคุณค่ะ
⭐️ติดตามที่ Blockdit
❤️ติดตามที่ Youtube
🥰คุยกับจูลได้ใกล้ชิดมากขึ้น ที่Line ค่า (Add ไว้ จะได้ทราบข่าวสารอัพเดตค่า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา