13 ก.พ. 2021 เวลา 03:11
(28) Day 2: ฮาราจูกุ
“จะไปหาเธอไหมคะ”
คนพูดกำลังจดรายการหนี้ลงบนสมุดน้อยเล่มนั้น
ธันว์เหลือบมองแต่ไม่เห็นหน้าเพราะคนถามก้มจดจ่ออยู่ที่ตัวเลข
เขาไม่แน่ใจว่าคนถามกำลังคิดอะไร
คนถามเอง ก็ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงถาม ถามแล้วรีบหลบตา
จดเสร็จเก็บสมุด ยื่นขอเครปครีมของตนเองคืน
ธันว์ยังไม่มีคำตอบหรือเลี่ยงที่จะตอบก็ไม่รู้ได้ แต่ทีท่าครุ่นคิดนั้นทำให้เอพริลลอบถอนหายใจ ก่อนเปลี่ยนเรื่อง
“มีตั้ง 70 แบบแน่ะ” เธอพึมพำ
ฮาราจูกุยามเย็นเต็มไปด้วยชุดสีลูกกวาดแปลกตามากยิ่งขึ้น
ร่างสูงที่มือข้างหนึ่งซุกในเสื้อหนาตัวนอก อีกมือถือเครปครีมทีทำขึ้นจากแผ่นเครปรูปกรวยโปะด้วยครีมและสตรอเบอรี่สด เมื่อรู้ตัวว่าคนข้างๆกำลังคุยจึงหันมามอง
“ถ้าคุณช่วยกินสัก 3 แบบ จะเยี่ยมเลย” เอพริลกัดไส้ราสป์เบอรี่ในมือคำหนึ่ง
“เฮ่ย ไม่ไหวหรอก อิ่มเกินไป” ธันว์ดึงความคิดกลับมาตอบ
เพิ่งนึกออกว่าเธอพูดถึงเครปครีมเย็นร้านดังที่ไปยืนต่อคิวยาว
เหลือบมองอีกที หมวกไหมพรมสีส้มกลับมาทำหน้าที่เดิม แว่นตายังอยู่ แววตาที่เคยซุกซุนเป็นนิจ กลับคืนมาให้เห็น
“ฉันก็อิ่ม ฉันจะกินแค่ 1 แบบเท่านั้นแหละ แต่อยากให้คุณสั่ง 3”
ธันว์ยิ้ม “คือจะไม่รับผิดชอบใช่ไหม ชิมแล้วชอบก็จะขอแลก แต่ถ้าไม่ชอบก็ให้ผมกินต่อ”
“แหม…” เอพริลหัวเราะ ก่อนเปลี่ยนเรื่องอีกที
1
“ชอบโตเกียวไหมคะ”
“ก็ชอบนะ” เขาตอบขณะเดินข้างกัน
เขาเพิ่งรู้สึกชอบโตเกียวเอาเมื่อวันสองวันนี้เอง ก่อนมานั้นเขามาแบบไม่จุดหมาย จะไปไหนก็ไม่รู้ อาจจะหาที่พักสักที่แล้วหมกตัวอยู่ในนั้นจนกว่าจะคิดออกว่าไปไหน หรือจะไปหาใครคนนั้นตามจุดประสงค์การซื้อตั๋วเมื่อเดือนก่อน
เพียงแต่ตอนนี้ ยังไม่พร้อมจะไปหา
ไม่รู้จะไปเพื่ออะไร ไปเพื่อเห็นให้ชัด ย้ำถามให้แน่ใจ หรือเพื่ออะไร
เมื่อไม่ได้ตอบเอพริลไปตั้งแต่เมื่อถูกถาม ก็เลยเฉยเสีย
ฮาราจูกุขาออกคนหนาแน่นเบียดเสียด ธันว์แตะข้อศอกให้เอพริลเดินไปข้างหน้า เขาพยายามเดินเยื้องระวังหลังให้
การเดินกินเครปท่ามกลางผู้คนแปลกหน้าในเมืองใหญ่แบบนี้คนเดียวคงให้ความรู้สึกโดดเดี่ยว
แต่การเดินกินเครปเคียงคู่คนแปลกหน้าเมื่อวานซืน ช่วยดึงความรู้สึกนั้นให้อุ่นขึ้นได้อย่างน่าแปลกใจ
คนแปลกหน้าคนเดิมหันกลับมามองราวกับรู้ว่าอยู่ในความคิดคำนึง ขอบแว่นด้านล่างเปื้อนครีมสีเหลืองนวล
เอพริลเห็นสายตาเขาก็นึกรู้ ใช้นิ้วที่ไม่เปื้อนเปิดซิปเป้ ท่าคีบๆนั้นเก้ๆกังๆจนธันว์ช่วยเปิดและดึงกระดาษเช็ดหน้าออกมา
ดึงออกมาแล้ว เหมือนจะส่งให้แล้วแต่เปลี่ยนใจ เลื่อนตัวเข้าใกล้ แตะเช็ดขอบแว่นให้อย่างเบามือ
1
เอพริลคิดจะขยับถอย แต่ในที่สุดก็ยืนนิ่ง
เหลือบตามอง เห็นเพียงมือใหญ่ขยับคล่องแคล่ว
พอมือขยับออก มองเห็นตาค่อนข้างเรียวกับคิ้วที่ขมวดน้อยๆ
ตาสบกัน
แววตาเก้อผุดขึ้น
เอพริลถอยตัวเดินนำหน้า ครู่ใหญ่ถึงหันมา ใบหน้านั้นนิ่งทีเดียวตอนที่บอก
“เราไม่นั่งรถไฟฟ้าดีกว่านะคะ ชิบูย่าห่างไปแค่ 2 กิโลกว่าๆ เดินไปร้องเพลงไป แป๊บเดียวก็ถึง”
ธันว์พยักหน้า มือสองข้างซุกไว้ในกางเกง ใบหน้านิ่งพอกัน
“งั้นเริ่มเพลงแรกเลยไหม”
เอพริลรับคำ หันกลับเดินนำเขาไปเหมือนเดิม ครู่หนึ่งเขาถึงได้ยินเสียงร้องเพลงแผ่ว
🎼
My last night here with you?
Maybe yes, maybe no
I kind of liked it your way
How you shyly placed your eyes on me🎼
ทางเดินจากฮาราจูกุไปชิบูย่ายามอาทิตย์ใกล้ลับฟ้า อุณหภูมิเริ่มลดลง เอพริลดึงถุงมือออกจากเป้ ก่อนสวมโดยไม่มองหน้าเขา แล้วเริ่มเพลงที่สอง
เพลงนี้เขาแทบไม่ได้ยิน เหมือนเจ้าตัวตั้งใจร้องเสียงเบาลง
บางประโยคในเพลงฟังดูคุ้น จากที่เดินเยื้องหลัง เขาเลื่อนตัวเข้าไปใกล้เกือบเคียงข้าง
🎼 จะเอาดวงใจฉันค้นใจเธอ ให้เจอะสิ่งที่เธอนั้นเก็บไว้ 🎼
เอพริลร้องจบหันมาก่อนที่เขาจะทันตั้งตัว
ธันว์โยนหมวกในมือลงบนพื้น พูดเก้อๆ
“อีกเพลงนะ หาเงินกินข้าว”
✨✨✨
ฟังเพลง Eyes on me เต็มๆโดยเอพริลตัวจริงได้ที่นี่ค่ะ
เพลง ‘ค้นใจ’ by April ค่ะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา