9 ก.พ. 2021 เวลา 08:21 • นิยาย เรื่องสั้น
15) Day1 ; Tokyo skytree
“ไหนว่าจะกระโดดตึกด้วยกัน”
เอพริลยืนห่างไปราว 10 เมตร และยังกำลังทำท่าถอยอีก
https://m.pantip.com/topic/34591317?
ธันว์กวักมือ
เอพริลส่ายหน้าจากทางไกล
เขาหัวเราะในใจ นี่จะไปกระโดดที่ชั้นสูงกว่านี้ไม่ใช่เหรอ ชวนเขามาแล้วก็หนีไปยืนตัวสั่นอยู่โน่น
ช่าง..น่าแกล้ง
“เฮ่ยยยย ไม่เอาซิ ชวนมาแล้วต้องมาโดดด้วยกัน” เขาเดินไปถึงตัว
“มาด้วยกันตายด้วยกันเลือดสุพรรณเอ๋ย” คว้ามือเล็กนั่นแล้วดึง
แล้วก็ลาก ต้องใช้คำว่าลาก เพราะอีกฝ่ายเหมือนตอกขาปักหมุดที่จุดเดิม
“ไม่อาวว ไม่อาวววววววว” เสียงท้ายชักโหยหวน
ยิ่งถูกลากเข้าใกล้พื้นกระจก เจ้าตัวยิ่งกดตัวลงต่ำ ในที่สุดก็ทิ้งร่างลงนั่งแปะกับพื้น
ธันว์ยิ่งสนุก
“มาเถอะน่า” ลากพรืดเดียว เขายืน
ส่วนเอพริลกำลังนั่ง อยู่บนพื้นใส หลับตาปี๋
“ถ้านั่งแล้วยังกลัว ก็นอนเลยสิ” เอพริลส่ายหน้า ยังคงหลับตา
“นอนลงเถอะ ผมมีเรื่องอยากเล่า” กระแสเสียงจากเล่นๆเมื่อครู่กลายเป็นจริงจัง
เอพริลชะงัก ลืมตาหันมองเขา แล้วเลยนอนเคียงกันอยู่บนพื้นตรงนั้น
รอบตัวเงียบ วันธรรมดาคนน้อยจนเจ้าหน้าที่เดินไปทำอย่างอื่นอีกมุม
เสียงธันว์ดังแผ่ว เหมือนมาจากไกลๆ
“ตอนคุณชวนผมก็ตกใจ การที่คนเราเกิดอารมณ์ชั่ววูบอะไรสักอย่าง สติมันหดหายไปได้จริงๆ” น้ำเสียงเรียบเรื่อย
“พอมาอยู่ตรงนี้ เหมือนอยู่ระหว่างความเป็นความตาย เหมือนว่าที่แท้คนเราก็ตายง่ายหรอกนะ จนรู้สึกว่า เออนะ ชีวิตคนเราทั่วไปก็ไม่ได้ยาวนานจนต้องเก็บความเสียใจไปสิ้นอายุขัยนี่” เขากางสองแขนออกใช้มือหนุนรองศีรษะจากพื้นล่างเป็นกระจก ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงพยายามกดให้เรียบ
1
“ผมกับแฟนคบกันมาตั้งแต่ผมอยู่ปีสุดท้าย เขาเรียนจบก่อนแล้ว ผมเป็นลูกข้าราชการครู ส่วนพ่อแม่เขาเป็นคนมีฐานะของจังหวัด ผมเรียนจบ พ่อเขาบอกให้ผมทำงานเก็บเงินก่อน ซึ่งผมก็ว่าดี ผมเลยทำงานหามรุ่งหามค่ำ อยู่เวรแทบทุกคืน วัยยังหนุ่ม สบายอยู่แล้ว”
“ทำงานครบปีเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง ผมก็อยากแต่งงาน” กลืนน้ำลาย ก่อนนิ่งไปนาน
“แต่เขาขอเรียนต่อโท ผมก็แล้วแต่เขา”
เอพริลหนุนหัวเลียนแบบเขา มองขึ้นข้างบนอย่างพยายามไม่มองหน้าเขา อาจจะทำให้เขากล้าเล่ามากขึ้น
“ผมใช้ทุนครบ 3 ปี ผมก็อยากเรียนต่อบ้าง เขาก็ว่าตามใจเพราะเขากำลังจะขอทุนเรียนปริญญาเอก” เอพริลร้องอ๋อในใจ นี่ไง มาญี่ปุ่นตอนนี้
“ช่วง 4 ปีที่ผมเรียนต่อเฉพาะทาง ผมก็ยุ่ง เรียนหนักแทบไม่มีเวลากินเวลานอน เรียนทางหนึ่ง ไปอยู่เวรโรงพยาบาลเอกชนตอนกลางคืนอีกทางหนึ่ง เพราะผมผ่อนคอนโดไว้เป็นเรือนหอ” เอพริลชำเลืองเสี้ยวหน้าด้านข้าง
“ผมแอบซื้อตั๋วเครื่องบินไว้ เรียนจบเฉพาะทางแล้วกะว่าจะมาเซอร์ไพรส์เขาที่นี่” เสียงแผ่วอย่างกดอารมณ์ เอพริลขยับเข้าไปใกล้ ไหล่เกือบชนไหล่
“ซื้อตั๋วแล้ว ผมได้เซอร์ไพรส์จากเขาก่อน มาในรูปภาพพรีเวดดิ้ง...” เขาทอดสียง ยกมือขึ้นลูบหน้า
มือเล็กที่ถูกเขาดึงลากมา ไปแตะที่ข้อศอกเขาก่อนบีบเบาๆ ด้วยความเห็นใจแล้วดึงกลับมาหนุนศีรษะเหมือนเดิม
“ผมไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่พักใหญ่ ไหนจะต้องอ่านหนังสือเพื่อสอบให้ผ่าน เพื่อให้ชีวิตไปต่อได้ในฐานะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ”
เสียงแผ่วเบา
“ตั๋วครั้งนี้เหรอคะ” ธันว์พยักหน้า แล้วนิ่งไปนาน แต่เอพริลสัมผัสได้ว่าธันว์รู้สึกดีขึ้นหลังจากได้เล่า เรื่องของเขาก็น่าเห็นใจไม่น้อย
1
“เรื่องอะไรก็ตาม ถ้ามันเกิดขึ้นแล้ว เราเปลี่ยนเรื่องราวไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนผลกระทบต่อความรู้สึกเราได้ค่ะ ไม่มีอะไรทำร้ายจิตใจเราได้ นอกจากความคิดเราเอง” เอ่ยปลอบเบาๆ
1
“ความเจ็บปวดก็เหมือนกัน มันวนเวียนอยู่ไม่หาย เพราะเราเอาเรื่องราวกลับมาคิดซ้ำๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยิ่งคิดถึงเท่าไร่ยิ่งเหมือนมีดกรีดลงลึกในหัวใจตัวเองเปล่าๆ”
1
ธันว์เบือนหน้าหันมอง เห็นเพียงด้านข้าง เพราะเอพริลนอนหนุนแขนมองขึ้นไปด้านบนนิ่ง พูดเสียงเรียบเรื่อย
“จะดีกว่าไหม ถ้าปล่อยให้เป็นไปโดยเข้าใจว่าสิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นตั้งอยู่แล้วสิ่งนั้นก็ดับไป นี่คือธรรมชาติของสรรพสิ่ง ไม่ว่าเรื่องดีเรื่องร้ายมันก็ชั่วคราว แค่ใจไม่โหยหา ไม่เก็บมาทำร้ายตัวเองซ้ำๆ นั่นต่างหากคือยาแก้ที่ดีที่สุด”
1
ธันว์หนุนบนสองมือของตัวเอง มองเอพริลนิ่ง “คุณเป็นคนเข้มแข็ง”
เอพริลเอี้ยวหน้า สองคนนอนมองกันอยู่ในระยะไม่ไกลนัก เอพริลหมุนหน้า หันไปมองขึ้นบนอีกครั้ง พูดอย่างใจลอย
“ฉันไม่รู้หรอกค่ะว่าฉันเป็นคนเข้มแข็งหรือเปล่า ฉันแค่รู้ว่าจะสร้างกำลังใจให้ตัวเองได้ยังไง” เอพริลยิ้มเศร้าก่อนเปลี่ยนเป็นเสียงร่าเริงขึ้น
“และฉันพยายามตามให้ทันความคิดของตัวเอง” ยิ้มน้อยๆ
“อย่างตอนนี้รู้ตัวว่า อยากร้องเพลง”
คนที่นอนข้างๆ มองไปรอบๆ ยังไม่ใครมาต่อคิวตรงกระจกใสที่นอนอยู่ เขาเอ่ยง่ายๆ ตามใจคนอยากปลอบ
“เอาสิ ผมอยากฟัง”
เอพริลกระแอม ก่อนเสียงหวานใสดังเบาๆพอให้ได้ยินกันสองคน
คนหนึ่งร้อง คนหนึ่งหลับตาฟัง
🎼 เมื่อวันที่ชีวิต เดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน จนบางครั้งคนเราไม่ทันได้ตระเตรียมหัวใจ
ความสุขความทุกข์ ไม่มีใครรู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ จะยอมรับความจริงที่เจอได้แค่ไหน
เพราะชีวิตคือชีวิต เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกไป
มีสุขสมมีผิดหวัง หัวเราะหรือหวั่นไหว เกิดขึ้นได้ทุกวัน
อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน
อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด 🎼
✨✨✨✨✨ Live and Learn*
คำพูดโดนใจข้างบน หาอ่านได้จากเพจ’ไม่ใช่สิ่งนี้หรอกหรือความสวยงามของชีวิต’ และฟังเพลงนี้เต็มๆจากคุณเอพริลตัวจริงได้ที่นี่ค่ะ Live and Learn
1
ขอบคุณภาพจาก Pantip โดย Dady bear ค่ะ🙏🏽
ตอนก่อนๆค่ะ 😘😘

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา