14 ก.พ. 2021 เวลา 05:34 • นิยาย เรื่องสั้น
(40)Day 4: Red Cross Hospital
“มานั่งตรงนี้ได้ไหม ผมอยากเห็นหน้า”
ธันว์พูดเป็นประโยคแรก
ตี 3 หลังจากฟังเพลงแล้วเขาก็หลับสนิทไปด้วยฤทธิ์ยาอีกครั้ง
เอพริลปรับเตียงให้อย่างเงียบที่สุด ช้าที่สุด ก่อนไปนอนขดตัวบนโซฟาตัวเดิม
พยาบาลเข้ามาวัดไข้ วัดความดันตอน 6 โมงเช้า ทำให้ทั้งคนไข้และคนเฝ้าไข้ตื่นพร้อมกันและต่างเก้อๆ
พยาบาลคนแรกออกไปแล้ว ไม่ทันที่จะได้ปรับสีหน้าคุยกัน พยาบาลทีมที่ 2 ก็เข้ามาเพื่อเช็ดตัวให้เขา หนึ่งในนั้นถามเอพริลว่าญาติจะเช็ดตัวให้เองไหม
เอพริลส่ายหน้าไวเป็นตุ๊กตาหัวกระดอน จนธันว์เดาได้และอมยิ้ม
ม่านเปิดหลังเช็ดตัวเสร็จ พยาบาลเดินออก เอพริลถึงได้ขยับเข้าไปในม่าน เข้าไปแล้วก็ทำเป็นเก็บของง่วนอยู่ จนธันว์พูดขึ้น
“มานั่งตรงนี้เถอะ” เสียงเขาออดซ้ำ เอพริลเลยต้องลากเก้าอี้เข้าไปนั่งชิดเตียงอีกครั้ง
“ทำไมต้องพันเฝือกไว้คะ กระดูกไม่ได้หัก” เสถามแก้อาการเก้อเขินของตัวเอง
“เขาดามไว้พยุงน่ะ ไม่ให้เส้นประสาทที่ต่อไว้มันฉีกขาดออกจากกัน คงดามไปแบบนี้อีก 3 อาทิตย์ กว่าเส้นประสาทจะติดหรือสร้างใหม่ก็คง 4 -6 อาทิตย์” เขาอธิบายน้ำเสียงปกติ ซึ่งทำให้เอพริลค่อยหายใจโล่ง
“กลับไปได้หยุดงานไหมเอ่ย”  เธอถาม คำลงท้ายบอกความชิดเชื้อ
“น่าจะไม่หยุด ผมยังมีงานสอนนักศึกษาแพทย์อยู่น่ะ งานอื่นก็ยังต้องทำ”
“ว้า! อดไปเยี่ยมเลย” คนพูดพูดแล้วก็ยกมือปิดปาก ก่อนแก้เก้อทำเป็นเกาๆจมูก
ธันว์ยิ้มหน้าใส ในใจยิ้มกว้างกว่าหน้า
นั่นไม่ใช่การทอดสะพานเล็กๆของเอพริลหรอกหรือ เพราะประโยคนี้ต้องตามด้วยการนัดหมายพบเจอ
1
เขากำลังจะพูด แต่ก่อนจะได้พูดก็มีแขกมาเยี่ยมไข้
คุณยายหิ้วอาหารมาหลายอย่าง ลูกชายและหลานชายก็มา มาแล้วก็ขอโทษขอโพยที่ทำให้ต้องเดือดร้อนไปด้วย ตบท้ายการเยี่ยมด้วยการเสนอที่พัก เพราะมีห้องว่างที่บ้าน
ร่ำลาโค้งต่ำขอบคุณแล้วจบด้วยประโยค “ต้องขอโทษด้วย” ตามธรรมเนียม
 
ทีมหมอเข้ามาตรวจตอนสาย ต่างฝ่ายต่างมีสีหน้ายินดีที่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ทดสอบมือแล้วก็น่าจะไม่มีปัญหา ล้างแผลดูแผลแล้วก็น่าจะปิดไว้ได้จนกลับบ้านที่ไทย
เลยขอบคุณกันเป็นพิธีใหญ่อีกครั้ง จนธันว์พูดตามเอพริลได้ไม่ติดขัด
บ้านคุณยายอยู่ริมทะเลสาบ
บริเวณบ้านกว้างอย่างคนพื้นถิ่น บ้านเดิมอายุไม่น้อย ส่วนที่ต่อเติมใหม่ที่ติดกันนั้นตกแต่งสบาย ห้องหนึ่งในนั้นถูกจัดให้เป็นที่พัก ซึ่งคุณยายดูจะถามแล้วถามอีกว่านอนห้องเดียวกันได้ไหม หรือจะใช้ห้องเพิ่ม มีอีกห้องของลูกสาวที่ไปทำงานโอซาก้า
เอพริลอึกอัก
ธันว์เดาส่งว่าต้องเรื่องห้องแน่ เลยขยับแขนขวาให้ดูด้วยท่าคล้ายจะห้อยร่องแร่ง
1
ห้องพักบ้านคุณยายเป็นญี่ปุ่นแท้คือโล่ง มีเพียงโต๊ะตัวเล็กและเบาะรองนั่ง
คุณยายชี้ให้ดูตู้ใส่เครื่องนอน และของใช้ในห้องน้ำ แล้วนัดหมายเวลากินอาหารเย็นด้วยกัน
เอพริลและธันว์ขอบคุณแล้วกลับมาสำรวจห้องที่พัก
เป้สองใบที่ลูกชายคุณยายไปขอคืนจากโรงแรมนั้น วางรออยู่ที่มุมห้อง
เอพริลเดินไปเปิดม่านออกกว้าง ก่อนร้องเอะอะ
ฟ้าใสยามบ่าย ฟูจิเผยโฉมตรงหน้า สวยจนเอพริลวิ่งกลับไปรื้อกล้องถ่ายรูป
ธันว์นั่งลงตรงระเบียง อากาศสด หายใจโล่ง ความกังวลหายไป และยิ่งหายไปเมื่อมองไปทางเอพริล เจ้าตัวกำลังพยายามถ่ายรูปฟูจิจากระเบียงห้องพัก
นึกถึงคำปลอบใจของเธอ ให้อยู่ตรงนี้กับคนตรงหน้า
จริงซินะ นี่เองคือความสุข
เอพริลหันมาเห็นรอยยิ้มและสายตานั้น รู้สึกมือไม้เกะกะ เอ่ยปากขอตัวไปอาบน้ำ เพราะไม่ได้อาบมาตั้งแต่เมื่อวาน
ธันว์ยิ้มอย่างอยากแกล้ง
“อย่าอาบนานนะ ผมอยากฟังเพลงแล้ว” พลางชี้ที่หน้าอกซ้าย
“โอ๊ะ!” เอพริลทำเสียงได้แนบเนียนเหมือนกันขณะตั้งท่าจะก้าวเข้าไปหา
1
“ถ้างั้นตอนนี้เลยน่าจะดีกว่าค่ะ กำลังเหม็นได้ที่”

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา