2 มี.ค. 2021 เวลา 00:08 • หนังสือ
วินดาขอถามตามหนังสือนะคะว่า “เมื่อพูดถึงสวนสนุกดิสนีย์ ทุกคนนึกถึงอะไรค่ะ???”
วินดาเชื่อว่ามีคำถามผุดขึ้นมามากมาย หนึ่งคนคงไม่ใช่คำตอบเดียวแน่นอน วินดาก็เหมือนกันค่ะ ส่วนตัวนึกถึง ปราสาท การ์ตูน เครื่องเล่น ความสนุก ตื่นเต้น และอินน์มากๆไปกับบรรยากาศที่ดั่งต้องเวทมนตร์ ให้ความรู้สึกได้รับถึง “ความใส่ใจ” ในดินแดนแห่งความฝันนี้ เป็นสิ่งที่สัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยค่ะ
“Disneyland ทำอะไร ทำไมใครๆก็หลงรัก”
เขียนโดย ซากุระอิ เอริโกะ,
แปลโดย ภัทรวรรณ ศรประพันธ์
หนังสือเล่มนี้ให้เราได้เรียนรู้ “เวทมนตร์แห่งการใส่ใจ” ที่จะช่วยให้การดำเนินชีวิตไปกับการทำงานในแต่ละวันอย่างสนุกและมีคุณค่า
ในเล่มจะแบ่งเป็น 3 Chapter คือ
Chapter 1 : การฝึกจิตใจให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้คน และทำงานได้อย่างราบรื่น (ภาคจิตใจ)
Chapter 2 : วิธีสื่อสารที่ช่วยให้คนรอบข้างยิ้มโดยอัตโนมัติ (ภาคการสื่อสาร)
Chapter 3 : พฤติกรรมที่ทำให้คนรอบข้างคิดว่า “รู้สึกดีที่ได้อยู่ด้วย” (ภาคพฤติกรรม)
ผู้เขียนเคยทำงานที่บริษัทโอเรียลทัลแลนด์ มีหน้าที่บริหารจัดการโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ตเป็นเวลา 17 ปี โดยทำงานเป็นผู้ฝึกอบรมบุคลากรในสวนสนุกดิสนีย์กว่า 1 แสนคนให้กลายเป็น “ผู้ใช้เวทมนตร์”
เนื้อหาในหนังสือเป็นสิ่งที่ได้มาจากการสั่งสมประสบการณ์และการศึกษาวิจัยที่ผ่านมาของผู้เขียน
ผู้เขียนได้กล่าวไว้ว่า “เมื่อสื่อสารได้ดีคุณก็จะพูดคุยกับผู้คนได้อย่างสนุกสนานและเพลิดเพลินกับการทำงานมากขึ้น” โดยพื้นฐานของการสื่อสารก็คือ “การใส่ใจ”
ถ้าหากคุณสามารถสนุกไปกับ “เวลางาน” ซึ่งเป็นช่วงเวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันได้ ชีวิตของคุณก็จะสนุกสนานขึ้นอย่างแน่นอน
เนื้อหาในเเต่ละ Chapter ของเล่มนี้จริงๆแล้ววินดาชอบทั้งหมดเลยค่ะ แต่เกรงว่าถ้าหยิบมาเล่าทั้งหมดคงจะยาวแบบว่าอ่านทั้งคืนก็ไม่จบค่ะ อีกอย่างวินดาคงจะต้องเป็นนิ้วล็อคแน่ๆเลยคร๊าาาาคุณผู้อ่านที่น่ารัก😍
วินดาเลยเลือกมาบางเรื่องที่วินดาอ่านแล้วรู้สึกอินน์ตามมากที่สุดมาพูดคุย เล่า และเเชร์ให้ทุกคนได้เสพไปพร้อมๆกันนะคะ
Magic 05 ~ ปฏิบัติกับเพื่อนร่วมงานแบบเดียวกับ “เกสต์”(เกสต์ หมายถึง ลูกค้าที่มาเยี่ยมชมสวนสนุก)
😊การให้โดยไม่หวังผลตอบแทนจะทำให้ตัวเรามีความสุขอย่างแท้จริง
2
ในสวนสนุกดิสนีย์จะมีคัสโตเดียล(พนักงานที่ทำงานในสวนสนุกมีหน้าที่ทำความสะอาด รวมถึงคอยนำทางและถ่ายรูปให้เกสต์) นอกจากนี้ก็จะมีคัสโตเดียลกะกลางคืนซึ่งจะคอยทำความสะอาดในช่วงกลางคืนจนถึงช่วงเช้า แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่มีโอกาสได้พบปะกับเกสต์
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าพวกเขาจะทำความสะอาดอย่างพิถีพิถันมากแค่ไหนก็ไม่เคยได้เห็นหน้าตาแห่งความสุขของเกสต์ และไม่เคยได้รับคำขอบคุณโดยตรงจากเกสต์เลย
คำถามคือ...แล้วแรงจูงใจในการทำงานของพวกเขาเหล่านั้นคืออะไร???🤔
มีคำพูดหนึ่งของคัสโตเดียลกะกลางคืนที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกทึ่งค่ะ เขาได้พูดว่า “สำหรับผมแล้ว เพื่อนร่วมงานที่มารับช่วงต่อในตอนเช้าก็ถือเป็น ‘เกสต์’ คนสำคัญเหมือนกัน ‘คำขอบคุณ’ จากพวกเขาถือเป็นแรงจูงใจในการทำงานของผม และถ้าความพยายามของผมทำให้เพื่อนร่วมงานได้รับ ‘คำขอบคุณ’ จากเกสต์ ผมก็พลอยดีใจไปด้วยครับ
1
เขาทำแม้สิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง เช่น การตรวจสอบอุปกรณ์ทำความสะอาด และเขียนบันทึกการทำงานสำหรับคนที่มารับช่วงต่อ
1
วอลต์ ดิสนีย์ เคยกล่าวไว้ว่า “การให้คือความสุขสูงสุด คนที่มอบความสุขให้ผู้อื่นจะได้รับความสุขและความพึงพอใจเป็นสิ่งตอบแทน”
2
ความสุขไม่ใช่สิ่งที่ “ได้รับมาก่อนแล้วค่อยให้ทีหลัง” แต่เป็นสิ่งที่ต้อง “ให้ก่อนถึงจะได้รับมา”
1
🦋เรื่องนี้ดูเป็นเรื่องเหมือนจะธรรมดา แต่ไม่ธรรมดาในความคิดและการส่งต่อของการกระทำที่ส่งผลต่อจิตใจโดยตรงเลยค่ะ
Magic 08 ~ เลือกสิ่งที่ทำให้รู้สึกใจเต้นโดยไม่สนใจเรื่องผลประโยชน์ : ประสบการณ์จะนำมาซึ่งความสุขมากกว่าสิ่งของ
วิสัยทัศน์ของดิสนีย์ คือ
“การส่งมอบความสุขให้กับเกสต์”
1
ความสุขที่ดิสนีย์ตั้งเป้าไว้คือความสุขขั้นพื้นฐานที่มนุษย์มีติดตัวมาตั้งแต่แรกนั้นคือ “ความดีใจ” และ “ความสนุก”
สวนสนุกดิสนีย์ตั้งเป้าหมายไว้ที่การส่งมอบความสุข ความดีใจ และความสนุกให้กับเกสต์ เพื่อให้เกสต์ได้รับความมั่งคั่งทางจิตใจ
ในทางจิตวิทยาได้มีการอธิบายไว้ว่า หากบริษัทกำหนดวิสัยทัศน์โดยให้ความสำคัญกับความมั่งคั่งทางจิตใจ ก็จะช่วยให้รักษาระดับความสุขของพนักงานไว้ได้ง่ายขึ้น
1
วิสัยทัศน์ของสวนสนุกดิสนีย์ที่ว่า “ส่งมอบความสุขให้กับเกสต์” เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะต้องนำเสนอสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าอย่างความมั่งคั่งทางจิตใจ แต่มันก็ทำให้แคสต์(พนักงานที่ทำงานในสวนสนุก)กระตือรือร้น รู้สึกท้าทาย และช่วยให้ทำงานในแต่ละวันได้อย่างสนุกสนานมากขึ้น
🦋ความสุขเป็นความรู้สึกที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะกระจายพลังบวกไปสู่สิ่งที่อยู่รอบๆได้อย่างน่ามหัศจรรย์เลยค่ะ
Magic 14 ~ ลองเปลี่ยนกลิ่นหอมที่อยู่รอบตัวดู : การเปลี่ยน “กลิ่นหอม” จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้ง่ายกว่าการเปลี่ยน “ความคิด”
ดิสนีย์ทุ่มเทให้กับการใช้เทคนิค “กระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งห้า” ตัวอย่างการใช้เทคนิคกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งห้า เช่น
ถนนที่เชื่อมต่อกับทางเข้าดิสนีย์แลนด์เป็นเนินลาดเล็กน้อย เวลาเดินลงจากเนินเกสต์มักจะเดินเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจสูงขึ้น จากนั้นสมองจะเข้าใจผิดว่ากำลังอารมณ์ดี และกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกคึกคักตื่นเต้น
1
ที่ด้านตรงข้ามโซน World Bazaar ก็มีเนินเตี้ยๆอยู่จึงทำให้มองไม่เห็นปราสาทซินเดอเรลล่า แต่เมื่อเดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆก็จะเห็นปราสาทได้อย่างเต็มตา ความรู้สึกประทับใจในตอนที่เห็นปราสาทก็จะเพิ่มสูงขึ้น
เสียงเพลงที่ได้ยินตรงทางเข้าสวนสนุกก็ไม่ได้เปิดเฉยๆ เสียงเพลงจะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา โดยตอนเช้าจะเปิดเพลงที่มีจังหวะสนุกสนานเพื่อทำให้เกสต์รู้สึกสนุกสนานครึกครื้น ส่วนตอนเย็นจะเปิดเพลงที่มีจังหวะช้าๆเพื่อให้เกสต์รู้สึกผ่อนคลาย ในทางจิตวิทยาเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า “การรู้สึกคล้อยตาม” ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ดิสนีย์ต้องการ
ความลับอีกอย่างที่ถูกซ่อนไว้ก็คือกลิ่น
ป๊อปคอร์นเป็นของกินขึ้นชื่อของสวนสนุกมีขายอยู่ในหลายๆโซน เชื่อว่าหลายคนคงถูกกลิ่นหอมอ่อนๆเย้ายวนจนเผลอตัวซื้อป๊อปคอร์นมา จริงๆแล้วกลิ่นป๊อปคอร์นจะแตกต่างกันไปตามแต่ละโซน เช่น
1
โซน Westernland เป็นพื้นที่สำหรับการผจญภัยจะขายป๊อปคอร์นรสแกงกะหรี่ที่มีกลิ่นหอมรุนแรง ส่วนบริเวณข้างๆแอทแทรคชั่น Pooh’s Hunny Hunt จะขายป๊อปคอร์นรสน้ำผึ้งที่มีกลิ่นหอมหวาน ดิสนีย์อาศัยการกระตุ้นประสาทสัมผัสด้านการดมกลิ่นในการสร้างภาพลักษณ์ของแต่ละโซน
1
ในชีวิตประจำวันก็เช่นกัน คุณสามารถกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งห้าของตัวเองเพื่อให้เกิดความรู้สึกสดชื่นและปรับอารมณ์ให้สงบนิ่งแบบเดียวกับที่ดิสนีย์ทำได้
วิธีที่ทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพสูงก็คือการใช้กลิ่น ซึ่งแต่ละคนก็มีกลิ่นที่ชอบแตกต่างกันไป เช่น กลิ่นจากผลไม้ตระกูลส้มหรือกลิ่นดอกไม้ ตอนที่รู้สึกเหนื่อยล้าหรืออยากปรับเปลี่ยนอารมณ์ ถ้าได้สูดกลิ่นน้ำหอมหรือน้ำมันหอมระเหยที่ตัวเองรู้สึกว่า “หอม” สมองก็จะผ่อนคลายและรู้สึกสดชื่นขึ้น
🦋แต่ละคนมีความชอบที่แตกต่างกัน หาแนวของตัวเองให้เจอแล้วจะรู้ว่าความสุขในแต่ละวันนั้นมีความพิเศษในแบบของเราค่ะ
สัญลักษณ์สติ๊กเกอร์อ่านจบก็มานะคะ😄
Magic 16 ~ เมื่อรู้สึกไม่สบายใจ ให้ออกห่างจากสิ่งที่ทำให้รู้สึกแบบนั้น : คนเราจะโกรธแบบสุดๆแค่ 6 วินาทีเท่านั้น
2
ถึงแม้จะมีเรื่องที่ทำให้รู้สึกแย่หรือท้อแท้หมดกำลังใจ แต่แคสต์ของดิสนีย์ก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองตามปกติ นี่ถือเป็น “การทำงานด้วยแรงใจ” ซึ่งทำให้รู้สึกเครียดได้ง่าย
ทักษะจำเป็นสำหรับแคสต์ที่ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ก็คือ การควบคุมความรู้สึก ในการทำงานการเจอเรื่องที่ทำให้รู้สึกแย่หรือไม่เป็นไปตามที่ต้องการเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกเครียด ทักษะที่คนทำงานควรมีก็คือ การควบคุมความรู้สึกและการทำจิตใจให้สงบนิ่ง
1
เมื่อเจอเรื่องแย่ๆการเอาตัวรอดออกห่างจากเรื่องนั้นถือเป็นวิธีที่ได้ผลในเชิงจิตวิทยาค่ะ ทางที่ดีคือต้องพยายามไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมา และ “หลบหนีชั่วคราว” ไปในพื้นที่แบ็คสเตจหรือห้องแต่งตัวเพื่อให้จิตใจสงบลง แต่ถ้าทนไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืน การได้ปรึกษาใครสักคนหรือระบายความเครียดถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เมื่อไม่สะสมความเครียด อารมณ์ความรู้สึกก็จะมั่นคงในทุกๆวัน
ความรู้สึกที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์และการทำงานได้ง่ายที่สุดคือ “ความรู้สึกโกรธ”
ความรู้สึกโกรธแบบสุดๆจะคงอยู่ได้นานสุดแค่ 6 วินาทีเท่านั้น แล้วจะต้องทำยังไงถึงจะผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้ วิธีที่ดีที่สุด คือ “หายใจเข้าออกลึกๆ”
1
คนเราเวลาที่รู้สึกโกรธจะหายใจตื้น กลับกันถ้าหายใจเข้าออกลึกๆจะช่วยให้จิตใจสงบลงได้
🦋อารมณ์โกรธเป็นสิ่งที่น่ากลัวและส่งผลทำลายล้างได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถือเป็นอารมณ์ที่ไม่น่าคบหาเลยค่ะ
1
และนี่ก็คือเรื่องราวส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ ใครติดใจวินดาแนะนำให้ลองไปหามาไว้ในครอบครองเข้าชั้นหนังสือที่บ้านค่ะ ค่อยๆอ่าน ค่อยๆเสพ ขอให้สุข สนุกกับการท่องโลกหนังสือนะคะทุกคน😍🦋
แล้วพบกันใหม่ค่ะ👋🏻
#windasharing
โฆษณา