ถึงตรงนั้น เขาจะค่อย ๆ ดูเข้ามาในใจว่า
จิตมีกุศลบ้าง มีอกุศลบ้าง บางทีสว่าง บางทีก็มืด
มีภพภูมิภายใน ที่สามารถสัมผัสได้อยู่เรื่อย ๆ
.
เมื่อเราพูดถึงความจริงเรื่องบาปกรรม
เขาจะเริ่มประจักษ์กับใจตัวเอง
ว่าบางทีก็มืด บางทีก็สว่าง ด้วยการกระทำที่ต่างกันไป
เขาจะเริ่มเชื่อว่า ต้นเหตุของความทุกข์ คือ ความมืด
เส้นทางของความมืด นำมาซึ่งความทุกข์
ตรงนี้ จึงจะเริ่มเจรจากันได้
.
อย่าพยายามเอาเรื่องความเชื่อ
ที่ไม่สามารถถ่ายทอดให้แก่กันได้ มาเป็นตัวตั้ง
เพราะจะเหมือนพายเรือในอ่างใบเดิมไม่ไปไหน เสียแรงเปล่า
.
ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาที่เมื่อถึงที่สุด
จะมีความลึกลับ และเป็นสิ่งที่รู้เห็นไม่ได้ด้วยตาเปล่า
อย่างที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า
ที่สุดของธรรมะ เป็น ปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน
มีแต่ตนเป็นที่พึ่ง .. อัตตาหิ อัตโน นาโถ
.
คือแต่ละคนนั้น หากไม่สมัครใจเป็นที่พึ่งทางธรรมของตัวเอง
จะไม่มีทางขนขวาย ไม่มีความสามารถ
ในการค้นคว้าเข้าลึกไปในการพิสูจน์ให้เห็นจริง
.
แต่ถ้าค่อย ๆ ทำให้เขาเกิดความเข้าใจธรรมะ
ในส่วนที่สามารถเอามาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
จะเป็นการให้ ‘บันได’ ที่ถูกต้องแก่เขา
เป็นการ ‘ทอดสะพานธรรม’ ที่มาถึงเขาได้จริง!