#กองทุนดีที่อยากแนะนำ EP.7
เห็นช่วงนี้หุ้นของประเทศไทยเริ่มมีการขยับขึ้นแล้ว ถือว่าเป็นโอกาศที่ดี สำหรับใครที่อยากลงทุนให้หุ้นไทยแล้วไม่รู้จะลงตัวไหนดี ก็ให้กองทุนช่วยจัดการกวาดซื้อให้ก็ได้ ซึ่งกองทุนที่จะแนะนำคือ กองทุน TMB50
นโยบายการลงทุน : กองทุนมีนโยบายที่จะพยายามลงทุนในหุ้นเต็มอัตราเพื่อที่จะได้สร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนี SET50 ให้มากที่สุด โดยกองทุนจะใช้กลยุทธ์บริหารกองทุนแบบเชิงรับ Passive management
สัดส่วนการลงทุน : ซึ่งแต่ละบริษัทเราก็รู้จักกันเป็นอย่างดีเลย เช่น ปตท , AOT , CP ,AIS และอื่นๆ
อ้างอิงข้อมูลจาก Fund fact sheet TMB50
ค่าธรรมเนียม : ในเมื่อเป็นกองดัชนีแบบ Passive แล้ว ค่าธรรมเนียมจึงถูกมากๆๆๆ 0.1% เท่านั้น
อ้างอิงข้อมูลจาก Fund fact sheet TMB50
ผลตอบแทน : ผมเปิดมาเห็นตัวเลขก็ตกใจอยู่เหมือนกัน ตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนมาจนถึงปัจจุบันแล้ว มีกำไรถึง 840% กันเลยทีเดียว (แต่กองทุนตัวนี้ก่อตั้งมาแล้ว 20 ปีนะ)
อ้างอิงข้อมูลจาก Finnomena
Maximum Drawdown : หากอ้างอิงข้อมูลจาก Finnomena การขาดสุดสูงสุดในช่วง 10 ปีคือ 30-40%% ซึ่งถือว่าเยอะมาก (แต่ก็เนอะ กองทุน Passive แล้วอิงดัชนีมันเจ๊งยากเพราะมันอ้างอิง อุตสาหกรรม หรือประเทศนั้นๆ)
อ้างอิงข้อมูลจาก Finnomena
ผลตอบแทนจากเทคนิค DCA (5ปี ย้อนหลัง) : เงื่อนไขการลงทุน
-เพิ่มทุน 1000 บาท
-ทุกๆวันที่ 26 ของทุกเดือน
-ระยะเวลา 5 ปี (ปี 2559 - ปี 2564)
-ผลตอบแทน ต้นทุนทั้งหมด 60K มูลค่าตลาด 60.4K คิดเป็นกำไร 60.4K - 60K = 0.4K หรือ 0.76% (น้อยโคตรรร 5 ปีกำไร 400 บาท) แต่เดี๋ยวก่อน ลองพิจารณา DCA 10 ปีดูก่อนครับ
อ้างอิงข้อมูลจาก WealthMagik DCA Simulator
ผลตอบแทนด้วยเทคนิค DCA (10 ปี ย้อนหลัง) : เงื่อนไขการลงทุน
-เพิ่มทุน 1000 บาท
-ทุกๆวันที่ 26 ของทุกเดือน
-ระยะเวลา 10 ปี (ปี 2554 - ปี 2564)
-ผลตอบแทน ต้นทุนทั้งหมด 120K มูลค่าตลาด 140K คิดเป็นกำไร
140K - 120K = 20K หรือ 16% (ฮืมมม ตอนนี้หลายๆคนคงคิดละว่า มันก็น้อยอยู่ดีไม่ใช่หรอ กำไรปีละ 1%) มาๆ ลองดู DCA ตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนเลยละกัน
อ้างอิงข้อมูลจาก WealthMagik DCA Simulator
ผลตอบแทนด้วยเทคนิค DCA (20 ปี ย้อนหลัง) : เงื่อนไขการลงทุน
-เพิ่มทุน 1000 บาท
-ทุกๆวันที่ 26 ของทุกเดือน
-ระยะเวลา 20 ปี (ปี 2544 - ปี 2564)
ผลตอบแทน : ต้นทุนทั้งหมด 239K มูลค่าตลาด 649K
คิดเป็นกำไร 649K - 239K = 410K หรือ 171% (โอ้วว ตกใจแปป สูงมากๆเลยทีเดียว)
อ้างอิงข้อมูลจาก WealthMagik DCA Simulator
สรุปความคิดเห็นส่วนตัว : จากผลตอบแทนแล้วจะเห็นได้เลยครับว่า หากเราทำการลงทุนที่ยาวนานมากพอสำหรับกองทุนแล้วก็ถือเป็นที่ที่ใช้สร้างเงินในอนาคตได้เหมือนกันครับ และเราสามารถสร้างผลตอบแทนให้มากขึ้นด้วยการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ไม่ว่าจะ Technical Analysis หรือ เทคนิคต่างๆที่จะมาช่วงสนับสนุนการลงทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และความเสี่ยงของการเจ๊งของกองทุน Passive ที่อิงดัชนีคือ การที่ประเทศนั้นล่มสลายนั่นเอง
***เพิ่มเติม : เปรียบเทียบการลงทุนแบบรอบเดียว กับ DCA
หากดูจากข้อมูลผลตอบแทนทั้งหมดแล้วใช่ไหมครับ +800% แต่ถ้าเราเลือก DCA มันจะเหลือแค่ 170% เอง มันหดลงไปเยอะมาก (หลายๆคนคงคิดในใจแล้วล่ะว่าอ้าวงี้เราจะลงแบบ DCA ไปทำไมล่ะ ในเมื่อมันได้กำไรน้อยกว่าลงแบบรอบเดียว)
***คำตอบ : ผมจะขอยกตัวอย่างดังนี้นะครับ สมมุติเรามีเงินทุน 2 แสนบาท หากเราลงรอบเดียว จนถึงปัจจุบันเราจะมีเงินถึง 1.6 ล้านบาทกันเลยทีเดียว แต่หากเรา DCA ไปจนครบทุน 2 แสน ผลก็จะได้ตามรูปข้างบนครับ เงินจะกลายเป็น 6 แสน ซึ่งหากกันมาก
แต่!!! สิ่งสำคัญมันอยู่ระหว่างทางครับ เราทนเห็นเงิน 2 แสนขาดทุนได้ถึง 40% หรือไม่ (อ้างอิงตามข้อมูลของกองทุน) ถ้าได้ก็โอเคครับ แต่ถ้าไม่ได้ เราจึงต้องหาเครื่องมือหรือเทคนิคในการช่วยลดความเสี่ยงครับคือการถัวเฉลี่ยต้นทุนด้วย DCA เพราะจะทำให้เราไม่มีทางขาดทุนถึง 40%แน่นอน เพราะในช่วงที่ขาดทุน 40% นั้น เราพึ่งลงได้กี่บาทเองจากเงิน 2 แสน!!
#การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาความรู้ วางแผนและมีการบริหารเงินทุนก่อนการลงทุนทุกครั้งครับ
#TMB50 #Finnomena.com #WealthMagik.com #DCA simulator #กองทุนดีที่อยากแนะนำ #DailyStock
- 12
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
